“ใครก็ได้ หักขาไอ้เด็กนี่ข้างหนึ่งแล้วโยนเขาออกจากโรงแรมเพื่อเป็นการลงโทษ!”
จ้าวหงเซิงแค่นเสียงเหอะอย่างเย็นชา
คนที่ใช้ชีวิตอยู่ในโลกใต้ดินให้ความสำคัญกับหน้าตามากที่สุด กับคนที่จงใจมาก่อเรื่องแบบนี้ จำเป็นต้องลงโทษอย่างรุนแรง ไม่อย่างนั้นหากคนอื่นลอกเลียนแบบและทำตาม ก่อเรื่องเสร็จจ่ายเงินแล้วสะบัดก้นเดินจากไปง่าย ๆ
ถึงตอนนั้น เขาพยัคฆ์ขนทองยังจะเหลืออำนาจและความน่าเกรงขามอะไรอีก จะใช้อะไรมาทำให้ตัวเองยืนหยัดในโลกใต้ดินได้อีก!
คำสั่งของจ้าวหงเซิงเพิ่งจะสั่งไป อันธพาลสองคนที่อยู่ข้างหลังเขาก็แสยะยิ้มแล้วเดินขึ้นไปหานายน้อยโหว
“ไม่…”
นายน้อยโหวรู้สึกหวาดกลัวมาก แต่ทันใดนั้นเองความคิดหนึ่งก็ผุดขึ้นในใจเขา
“นายท่านหงครับ ฟังผมอธิบายก่อน…”
“แม้ว่าครั้งนี้จะเป็นคนของผมที่พังประตู แต่ผู้ร้ายตัวจริงคือเด็กที่ชื่อฉินหมิงต่างหาก ทั้งหมดล้วนเป็นเพราะเขา…”
นายน้อยโหวชี้นิ้วไปทางฉินหมิง รีบโยนความผิดทั้งหมดใส่หัวฉินหมิงทันที
อันที่จริงสิ่งที่เขาพูดนั้นถูกต้องแล้ว เป็นเพราะฉินหมิงล้มบอดี้การ์ดสองคนของเขา ประตูห้องส่วนตัวถึงถูกพัง เรื่องนี้ฉินหมิงไม่อาจสลัดพ้นได้!
“มือข้างเดียวตบไม่ดังหรอกนะครับ!”
“ถ้างั้นก็หักขาเด็กเหลือขอสองคนนี่แล้วโยนพวกเขาออกไป!”
จ้าวหงเซิงเหลือบมองฉินหมิงและพูดอย่างเย็นชา
เมื่อเห็นว่าไฟได้ลามมาเผาร่างของตัวเองแล้ว ฉินหมิงก็นิ่งเงียบไม่ได้อีกต่อไป เขายืนขึ้นพูดด้วยท่าทีไม่ถ่อมตัวแต่ก็ไม่หยิ่งผยองว่า "นายท่านหงครับ นี่เป็นความผิดของพวกเรา ผมต้องขอโทษคุณด้วย"
“แต่แค่ประตูสู่ห้องส่วนตัวบานหนึ่งพัง ชดเชยค่าเสียหายให้กับคุณมากหน่อยก็พอแล้วไหม ไม่ถึงกับต้องหักขาของผมเพราะเรื่องเล็กน้อยแบบนี้หรอกมั้ง?”
“แบบนี้มันไม่มากเกินไปหน่อยเหรอ!”
ฉินหมิงเผยสีหน้าไม่พอใจ
สี่พยัคฆ์แห่งโลกใต้ดิน ในช่วงไม่กี่วันมานี้เขาได้พบหน้าสองคนแล้ว พยัคฆ์ขนทองจ้าวหงเซิงคือคนที่สาม
สามคนนี้ สมกับที่ได้ชื่อว่าเป็นบอสใหญ่ของกลุ่มอันธพาลแห่งโลกใต้ดิน แต่ละคนวางอำนาจและเผด็จการยิ่งกว่าอีกคน อย่างที่คิดไม่มีใครเป็นคนดีเลย!
“ไอ้หนู ฉันขอแนะนำแก ทำตัวให้ฉลาดหน่อย ไม่งั้นจุดจบของแกคงไม่ได้ง่าย ๆ แค่ถูกหักขาข้างเดียวแล้ว!”
จ้าวหงเซิงพูดอย่างเย็นชา
ขาหักข้างหนึ่ง โดยพื้นฐานแล้วแค่พักรักษาตัวสักระยะหนึ่งมันก็จะกลับมาหายดีเป็นปกติ ไม่ถือว่าร้ายแรงอะไร
แต่ถ้าฉินหมิงกล้ายั่วยุเขาอีกครั้ง เขารับรองได้เลยว่าจุดจบของฉินหมิงจะน่าสังเวชยิ่งกว่านี้อีก!
“อาศัยคุณน่ะเหรอ? เกรงว่าคุณยังไม่มีความสามารถมากขนาดนั้น!”
ฉินหมิงพูดอย่างใจเย็น
ลมปราณจากหนึ่งฝ่ามือของจ้าวหงเซิงเมื่อสักครู่นี้ ได้เปิดเผยระดับการบ่มเพาะของเขาว่าอยู่ในระดับสวรรค์ประทานขั้นกลาง
หากเปลี่ยนเป็นไม่กี่วันก่อนหน้านี้ ความแข็งแกร่งของเขายังห่างไกลจากระดับสวรรค์ประทานขั้นกลางมาก ย่อมไม่ใช่คู่ต่อสู้ของจ้าวหงเซิงแน่นอน
แต่ตอนนี้ระดับการบ่มเพาะของเขาไต่มาถึงขั้นสูงสุุดของระดับหลอมปราณแล้ว ด้านพลังต่อสู้ย่อมเหนือกว่าผู้ฝึกยุทธระดับสวรรค์ประทานขั้นสูงมากโข เกือบจะใกล้เคียงกับผู้ฝึกยุทธระดับสวรรค์ประทานขั้นสูงสุดคนหนึ่ง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พลิกชะตารัก มรดกเซียน
รออ่านอยู่นะครับ กำลังสนุกเลย เมื่อไหร่ 454 จะมาครับ หายไปนานเลยครับ...
ตอนที่ 451 หายครับ...
ตอนที่ 451 หายครับ...
ตอนที่ 451 ละ...
พระเอกน่ารำคาญ...
รออัพเดท ตอนต่อ ๆ ไป ครับ...