ตอนที่68 สามีของฉันเป็นพวกอนาจาร
ในตอนที่จางอวี่โหร่วฟื้นขึ้นมา เธอก็รู้สึกเพียงว่ารอบกายถูกโอบล้อมไปด้วยความอบอุ่น อุณหภูมิที่เหมาะสมและนิ้วมือที่นวดอยู่บนร่างต่างก็ทำให้เธอรู้สึกพึงพอใจ และทำให้ความมึนงงภายในหัวของเธอคลายออกไปได้ไม่น้อย
เพียงแต่บริเวณที่มือทั้งสองบนร่างของเธอพาดผ่านทำให้ผิวสั่นสะท้านขึ้นมา และยังทำให้รู้สึกจักจี้อีกด้วย
จางอวี่โหร่วอดที่จะยื่นมือออกไปตีเบาๆ ไม่ได้ จากนั้นเธอก็เอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงที่ยังอ่อนล้าจากการสลบไป 2 วัน : “เสี่ยวเฟิง อย่าทำตัวน่ารำคาญสิ!”
มือนั้นหยุดนิ่งไป ก่อนที่จะไล้ขึ้นมาตามผิวพรรณของเธออย่างไม่เชื่อฟัง ความอบอุ่นนุ่มนวลเต็มฝ่ามือนี้ทำให้รู้สึกชอบใจจนไม่อยากปล่อยวางอย่างเห็นได้ชัด ร่างกายของหญิงสาวคนนี้ช่างเป็นเรือนร่างที่ทำให้ผู้ชายบ้าคลั่งจริงๆ
“เสี่ยวเฟิงง เจ้า.......” ในที่สุดจางอวี่โหร่วก็ลืมตาขึ้นมา และเธอก็ถูกนัยน์ตาสีดำสงบนิ่งนั้นทำให้ใจกระตุกไปในทันที
ไม่นานนักเธอก็ได้รับรู้อะไรบางอย่าง ตอนนี้พวกเธอกำลังอยู่ที่บ่อน้ำร้อน และเรือนร่างของเธอก็ไร้การปกปิด ส่วนตัวก็โป๊เปลือย อีกทั้งเธอยังอยู่ในอ้อมอกของเขาทั้งแบบนั้น จางอวี่โหร่วกรีดร้องออกมาสุดเสียงในทันที
“อ๊าก เจ้าพวกอนาจาร!”
ตามสัญชาตญาณของเด็กสาว เมื่อฟื้นขึ้นมาเจอภาพแบบนี้ แน่นอนว่าเธอจะต้องตกใจและผลักเขาออกในทันที หลังจากนั้นก็พยายามทุบตีเข้าที่หน้าอกของเขาสุดชีวิต : “ปล่อยข้า ปล่อย!”
ไม่เพียงแต่ชายคนนั้นจะไม่ถอยออกห่างเลยแม้แต่น้อย แต่เขากลับขยับใกล้เข้ามารั้งเธอเข้าไปในอ้อมกอดมากขึ้นอีก
“ตะโกนใส่สามีของตนว่าอนาจารเช่นนี้ นี่เป็นวิธีการเพิ่มความสัมพันธ์ของชายาอย่างนั้นหรือ?”
สามี......เอ๋ บางทีคำคำนี้อาจจะทำให้สติที่วุ่นวายของจางอวี่โหร่วฟื้นฟูกลับมาในที่สุด สุดท้ายเธอก็รู้สึกได้ว่าการกระทำของตนเมื่อสักครู่นั้นเป็นสิ่งที่ไม่ควรกระทำนัก แต่เขาเองก็ไม่ควรถือโอกาสตอนที่เธอสลบกระทำเอาเปรียบเธอใช่หรือไม่?
จางอวี่โหร่วยกมือขึ้นมาปิดหน้าอกในทันที จากนั้นก็มองเขาถอยหลังออกไปด้วยความระแวง
“ชายหญิงไม่ควรต้องการกัน และท่านก็เคยพูดเอาไว้แล้วว่าจะไม่กระทำบังคับฝืนใจข้า”
หันยี่ฉีเลิกคิ้วขึ้นมาเล็กน้อย และเริ่มรู้สึกสนใจในท่าทางเอาจริงเอาจังของเธอ
“ในคืนวิวาห์ ชายาไม่ใช่ฝ่ายขอให้ข้ารับร่างกายของเจ้า บอกว่าอยากจะเป็นผู้หญิงของข้าหรอกหรือ?”
“ข้า......” จางอวี่โหร่วถูกคำพูดของเขาจุกเข้าที่คอ
“หลังจากนั้น ไม่ใช่ชายาที่เป็นฝ่ายเจรจากับข้า ขอเพียงข้าตกลงคำขอของเจ้า เจ้าก็จะเป็นสามีภรรยาที่แท้จริงกับข้า”
“นั่น.......”
“แม่นาง เจ้าอย่าได้ลืมไป เจ้าเป็นฝ่ายส่งตัวเองมาให้ถึงที่ ข้าจะต้องการเจ้าตอนไหนก็อยู่ที่อารมณ์ของข้า ส่วนเจ้าก็ไม่ได้มีสิทธิ์จะมาเรียกร้องอะไร”
เขาก็แค่ไม่เข้าใจนัก ทั้งที่เธอตกอยู่ในกำมือของเขาอย่างเห็นได้ชัด แต่บางครั้งกลับยังคิดพยายามจะดิ้นรน เมื่อมองไปยังลำคอที่ขาวใสละเอียด ดวงตาของเขาก็ประกายความอันตรายออกมา จากนั้นก็เกิดความรู้สึกอยากจะค่อยๆ ขยับให้แน่นขึ้นและหยุดยั้งลงในทันที
เห็นได้ชัดว่าจางอวี่โหร่วสัมผัสได้ว่าอยู่ๆ แววตาของเขาก็อันตรายขึ้นมา ในใจต้องเธอกระตุกเต้นระรัวในทันที เธอไม่เข้าใจว่าเขาเป็นอะไรไป หรือว่าจะโมโหขึ้นมาเพราะคำพูดเมื่อสักครู่ของเธอ?
ชายคนนี้คุ้นชินกับการมีอำนาจมาโดยตลอด ดูเหมือนว่าเขาจะไม่สามารถทนรับกิริยาตอบโต้คัดค้านต่อหน้าของคนอื่นได้
แต่ว่าตัวเธอก็ตกใจจนไม่สามารถพูดอะไรที่ควรจะพูดออกไปได้ และตอนนี้เธอก็ยังมีเรื่องมากมายที่ต้องการให้เขาช่วยปกปิด รวมทั้งเรื่องที่ต้องการให้เขาช่วย ไม่ว่าจะพูดอย่างไรก็ไม่อาจจะทำให้คนคนนี้ไม่พอใจได้
“ข้าเพียงแค่ไม่อาจจินตนาการถึงว่า ผู้หญิงคนหนึ่งจะสามารถทำได้ทุกอย่าง แม้แต่การมอบตัวของตน เพียงเพื่อบรรลุเป้าหมายของตน ข้าดูถูกเจ้าเกินไปจริงๆ”
แม้ว่าในตอนแรกเขาจะไม่รู้สึกถึงอะไร แต่ว่าเรื่องราวก็ดำเนินมาถึงขนาดนี้แล้ว องค์ชายรองเองก็แสดงความประสงค์ขอแต่งงานกับหลินจื่อออกมาอย่างเป็นทางการแล้ว เรื่องทั้งหมดต่างก็เป็นไปตามที่ควรจะเป็น ส่วนเขากลับเป็นเหมือนคนนอกที่ถูกปิดกั้นเอาไว้ ทุกครั้งที่นึกถึงเรื่องนี้ขึ้นมา เขาก็จะรู้สึกไม่พอใจเป็นอย่างมากทุกที
“ข้า......ตอนนั้นข้าเพียงแต่ตั้งใจจะลองดู อยากจะทำลายชื่อเสียงของเฉินซูเสียนเล็กน้อย ข้าก็ไม่คิดว่านางจะเกลียดข้าขนาดนั้น อีกทั้งยังลงมือรุนแรงเช่นนั้น และนางก็ยังดูถูกทำลายตระกูลจางต่อหน้าข้า แล้วจะให้ข้าอดทนรับได้อย่างไร ดังนั้น......”
เดิมทีเรื่องนี้ก็เป็นเพราะจางอวี่โหร่วเริ่มขึ้นมาอย่างแน่นอน แต่ว่าเมื่อถึงตอนหลัง เรื่องราวก็เกินกว่าที่เธอคาดการณ์ไปแล้ว
เธอตั้งใจดึงดูดให้เฉินซูเสียนเข้ามา เพราะเธอรู้นิสัยของเฉินซูเสียนดี แม้ว่าจะไม่ทำอะไร ปัญหาไม่ลงรอยนี้ก็จะปะทุออกมา แต่ใครจะไปคิดว่าสุดท้ายจะเข้าตัวแบบนี้
เมื่อจางอวี่โหร่วเห็นว่าตัวทั้งตัวของชายตรงหน้าปล่อยไอความรู้สึกเย็นยะเยือกออกมา เธอก็เข้าใจได้ว่าสาเหตุที่ทำให้เขาโมโหเมื่อสักครู่ไม่ใช่เพราะเรื่องนี้
ภายในใจของเธอรู้สึกผิดขึ้นมา จึงรีบร้อยเอ่ยขอโทษ : “ท่านอ๋อง ข้าไม่ได้จงใจจะปิดบังท่าน ไม่อย่างนั้นตอนแรกข้าคงไม่พาท่านไปที่ตำหนักสอง และบอกแผนการของข้าออกมาให้ท่านฟังทั้งหมด เรื่องนี้เป็นเพียงอุบัติเหตุที่ไม่ได้คาดคิดเท่านั้น ท่านต้องเชื่อข้า”
การอธิบายของเธอสามารถฟังขึ้นอยู่ มองดูแล้วเธอเองก็ไม่ได้มีความกล้าจะปกปิดอะไรกับเขาจริงๆ
ความคิดเล็กคิดน้อยของเธอ เดิมทีก็ไม่อาจจะหลบหนีจากเงื้อมือของเขาไปได้
“สี่ตีนยังรู้พลาด นักปราชญ์ยังรู้พลั้ง ตลอดที่ผ่านมาเจ้ามั่นใจในตัวเองมากเกินไปแล้ว” เขาเห็นเธอก้าวเข้าไปเกี่ยวพันกับกำลังอิทธิพลยิ่งใหญ่ในจาวถิงเรื่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นองค์รัชทายาท รวมทั้งองค์ชายทั้งหลาย หรือนางสนม แม้แต่เฉินกั๋วกงที่เป็นขุนนางขั้นสูง ก็ยังถูกเธอใช้เป็นหมากเดินเกมได้
บางครั้งเขาก็อดยอมรับไม่ได้ว่าเธอค่อนข้างฉลาดทีเดียว แต่กลับรู้สึกว่าเธอกล้าหาญเกินไปเล็กน้อยเช่นกัน การที่เธอทำแบบนี้ เธอทำไปเพื่ออะไรกันแน่?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พลิกปฐพี ชายาไร้ใจ
เรื่องนี้ยังไม่จบเลยค่ะ ทำไมสถานะเสร็จสิ้น ไม่อัพแล้วหรอ...