ตอนที่74 ตบหน้าตนเอง
แน่นอนหล่อนกลัวเรื่องจองจำในคุก ตอนนี้บิดาของหล่อนก็ยังไม่สามารถปกป้องหล่อนได้ทั้งหมดแล้ว
หล่อนเป็นคุณหนูทองพันชั่งของตำหนักเฉินกั๋วกงแท้ ๆ ถ้าต้องถูกจับกุมเข้าคุกจริง ก็มิเพียงเป็นการทำลายหล่อนเท่านั้น ตระกูลเฉินของพวกเขาไยมิใช่ตกต่ำถึงที่สุดกลายเป็นเป้าตลกที่สมบูรณ์แบบ
เช่นนี้ ก็จะทำให้พวกเขาที่เป็นคนถ่อยเหล่านี้ได้ใจรับผลตามต้องการ ไม่ หล่อนไม่สามารถเห็นผลเช่นนั้นเด็ดขาด
บิดากล่าวได้ถูกต้อง เรื่องเล็กน้อยไม่อดทน ก็จะทำให้เสียการใหญ่ ความอดทนของหล่อนในครั้งนี้ไม่ได้แทนการต้องก้มศีรษะให้จริง และมีเพียงวิธีนี้จึงสามารถมีโอกาสที่จะแก้แค้นจางยวี่โหร่วให้นังสารเลวที่น่าตายนั้นจ่ายค่าชดใช้ออกมา
ดูไปแล้วเรื่องในวันนี้เห็นท่าจะลงจากเวทีไม่ได้ เฉินซูเสียนหักใจคราหนึ่ง แล้วคุกเข่าลงบนพื้น
ทุกคนต่างมองหล่อนด้วยความตกใจบ้างเล็กน้อย เมื่อครู่หล่อนยังดูหยิ่งยโสลำพองมากขนาดนั้น ใครก็ไม่อยู่ในสายตา ตอนนี้กลับคุกเข่าลงมาแล้ว
นานมาแล้วได้ยินมาว่าเฉินซูเสียนนี้ป่าเถื่อน ไร้เหตุผล โหดร้าย ฉุนเฉียว ใครก็เอาหล่อนไม่อยู่ แต่ตอนนี้พวกเขาโหร่วเอ๋อร์กล่าวเพียงไม่กี่คำก็ทำให้หล่อนพ่ายแพ้ราบคาบ ในใจของคนในตระกูลจางอดไม่ได้ยิ่งภูมิใจในจางยวี่โหร่วมากขึ้น นางมีวิธีจริง ๆ
“จางยวี่โหร่ว เรื่องในวันนั้น เป็นข้าต้องขอโทษเจ้า ข้าผิดไปแล้ว!” เฉินซูเสียนกัดริมฝีปาก กล่าวคำเหล่านี้ทีละคำทีละตอนออกมา แต่หลังของหล่อนกลับยังยืดตรงแน่ว ดูอย่างไรล้วนเป็นลักษณะรู้สึกไม่เต็มใจไม่ยินยอม
“วาจานี้ ย่อมต้องกล่าวให้ชัดเจนจึงดี เจ้าว่าเจ้าผิดแล้ว ตรงไหนผิดแล้ว แล้วผิดตรงไหนอีก? เพื่อหลีกเลี่ยงวันข้างหน้าเผยแพร่ออกไป ยังกล่าวว่าข้าใส่ร้ายคุณหนูเฉิน”
ก็รู้ว่านางจะไม่ปล่อยหล่อนไปอย่างง่ายดายเช่นนั้น เฉินซูเสียนโกรธจนสั่นเทิ้มไปทั่วร่าง แต่ตอนนี้นางไม่มีวิธีการอื่นใด นอกจากอดทนทางเดียวเท่านั้น
“เป็นข้าผิดเอง วันนั้นกลับบุกรุกเข้าไปในเรือนหรูที่องค์ชายสามทรงเตรียมไว้เพื่อเจ้า ทำลายความสนุกสนานในการรับประทานอาหารของเจ้าถึงกับ...ยังตีโต้เจ้ากลับ ทุกอย่างล้วนเป็นข้าไม่ดี”
หล่อนสาบาน นี่เป็นวันที่น่าอับอายที่สุดในชีวิตที่ผ่านมาสิบหกปีของหล่อนแล้วเด็ดขาด! ชั่วชีวิตนี้หล่อนยังไม่เคยต้องอ่อนข้อลดเสียงขนาดนี้ให้แก่ใครมาก่อน
จางยวี่โหร่ว เจ้ารอข้า ไม่ช้าก็เร็วมีวันหนึ่งข้าต้องทวงคืนจากบนร่างเจ้าได้แน่นอน ข้าจะให้เจ้าและหลิงจือสองนังสารเลวคุกเข่าลงต่อหน้าข้าเหมือนสุนัขคลานไปบนพื้น ขอร้องให้ข้ายกโทษให้
จางยวี่โหร่วหัวเราะเบา ๆ หลังจากนั้นกล่าวว่า “เรื่องใด ๆ ในโลกนี้ล้วนต้องกล่าวอย่างยุติธรรม เช่น การฆ่าคนชดใช้ชีวิต เป็นหนี้ชดใช้เงินเป็นเรื่องที่สมเหตุสมผล ในเมื่อคุณหนูเฉินยอมรับว่าตีข้าแล้ว ถ้างั้นตอนนี้ก็ถึงเวลาที่ควรจะคืนแล้ว”
อะไรนะ! เฉินซูเสียนจ้องนางเขม็งด้วยความโกรธ หล่อนได้ยอมต่ำต้อยก้มศีรษะลดเสียงขอโทษแล้ว นางกลับยังไม่ยอมปล่อย ยังคิดจะตีหล่อน
“อะไรเหรอ? คุณหนูเฉินไม่เต็มใจที่จะลงมือเอง? ก็เป็นความผิดของข้าที่ไม่ได้ใคร่ครวญให้ถี่ถ้วน ในวันนั้นคุณหนูเฉินตบหน้าข้าสองสามทีป็นการให้ข้ายังจดจำได้ราวกับเพิ่งประสบมาใหม่ ๆ ดังที่กล่าวว่าคนอื่นเป็นหนี้สิ่งของของตนก็ควรทวงคืนมาด้วยตัวเอง ไม่ใช่ให้คนอื่นทำแทน” นางทางหนึ่งกล่าว ทางหนึ่งค่อย ๆ เดินเข้าใกล้เฉินซูเสียน ทำให้หล่อนตกใจกลัวถอยหลังไม่หยุด
“เจ้า...เจ้าคิดจะทำอะไร?”
เฉินกั๋วกงไหนเลยจะทนดูธิดาของตนเองได้รับความคับข้องใจได้ รีบขวางกั้นตรงหน้าเฉินซูเสียน “คุณหนูจาง เราพ่อลูกสองคนมาที่นี่วันนี้เพื่อขอโทษอย่างจริงใจ เจ้าอย่าได้ทำเกินไปแล้ว”
ในที่เกิดเหตุดวงตาหลายคู่ล้วนกำลังจับจ้องดูอยู่น่ะ ต่างพากันแสดงสีหน้าเหยียดหยามออกมา พ่อลูกคู่นี้ยังแสร้งหลอกลวงได้จริง ๆ
“นี่กลับเป็นเรื่องตลกแล้ว เฉินกั๋วกงยังได้เตือนสติข้า คนร้ายยังลอยนวลอยู่ และเหยื่อกลับไม่ได้รับการชดเชยตามที่พวกเขาสมควรได้รับหรือ? เฉินกั๋วกงและปู่ของข้าเป็นหัวหน้าเหล่าขุนนางฝ่ายบุ้น ถ้างั้นตามกฎหมายของหนานหชู่ ความผิดของคุณหนูเฉินควรได้รับการลงทัณฑ์สถานใดหรือ?”
แต่ตอนนี้ใบหน้าของเฉินซูเสียนได้บวมแดงดุจหัวหมูปานนั้น เห็นลักษณะของหล่อนในเวลานี้ ความเห็นอกเห็นใจของคนตระกูลจางก็ได้ลดลงไปไม่น้อย เพราะวันนั้นเมื่อจางยวี่โหร่วถูกหามกลับมา ก็ไม่ได้ดีกว่าหล่อนมากนักทั้งสิ้น ทั้งหมดนี่ก็คือกรรมตามสนองหล่อนเอง
“เอาล่ะ ในที่สุดตอนนี้เป็นอย่างที่พวกเจ้าต้องการแล้วซิน่ะ? งั้นตอนนี้พวกเราก็ไปกันเถอะ เรื่องนี้ก็ปล่อยให้เป็นแบบนี้เถิด”
ครั้งนี้ หน้าตาของตำหนักกั๋วกงได้ขายหน้าจนหมดสิ้นแล้วอย่างสมบูรณ์จริง ๆ เฉินกั๋วกงทั้งโกรธทั้งปวดใจ แค่คิดอยากไปจากที่นี่
แต่ตอนนี้ ได้คิดถึงเสียงปีศาจชั่วร้ายเย็นยะเยือกเสียงหนึ่งขึ้นมาอีก “ช้าก่อน”
เขาเงยหน้าขึ้น สบสายตาที่เย็นชาของจางยวี่โหร่วเข้าพอดี เห็นได้ชัดว่าวันนี้พวกเขาเสียเปรียบแล้ว ควรเกลียดชังนางเคียดแค้นจนขบเคี้ยวเขี้ยวฟันจึงถูก แต่ไม่รู้ว่าทำไมพอสบสายตานางเข้า เขากลับรู้สึกใจเต้นหดแรงไปคราแล้วทันที
เฉินซูเสียนได้สยายผมเผ้ายุ่งเหยิงหมด แก้มบวมแดง อารมณ์ที่มองดูจางยวี่โหร่วเต็มไปด้วยความเคียดแค้นชังเข้ากระดูก ในส่วนลึกของน้ำเสียงก็ค่อนข้างแหบแห้ง “จางยวี่โหร่ว วันนี้ความอับอายที่เจ้าให้ข้าเพียงพอได้แล้ว ครั้งนี้ต่อให้เจ้าก่อเหตุอีกถึงหน้าพระพักตร์ฮ่องเต้ ข้าก็ไม่กลัวเจ้า”
“คุณหนูเฉินเข้าใจผิดแล้ว เจ้ามีความจริงใจเช่นนี้ เรื่องนั้นก็ให้แล้วไปเถิดเป็นธรรมดา ก็ถือว่าไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน แต่เรื่องถัดมา เราใช่ควรแก้ไขปัญหาส่วนตัวของเราก่อนสักคราหรือไม่”
ระหว่างพวกนาง มีเรื่องส่วนตัวอะไร? คนอื่นฟังไม่เข้าใจ แต่เฉินซูเสียนกลับสีหน้าขาวไปแล้วทันที
คราวนี้ แววตาของหล่อนที่มองจางยวี่โหร่วไม่ได้โกรธเคือง แต่แฝงอารมณ์กลัวสยองอย่างเห็นได้ชัด ถึงกับร่างยังกำลังสั่นเทิ้มเล็กน้อย
จางยวี่โหร่วค่อย ๆ หยักริมฝีปาก ใบหน้าแย้มยิ้มดุจดอกไม้ นางจูงมือของหลิงจือเดินไปตรงหน้าเฉินซูเสียน หลังจากนั้นกล่าวว่า “คุณหนูเฉินคงไม่ลืมไปแล้ว วันนั้นเราได้พนันเดิมพันกันไว้แล้วน่ะ?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พลิกปฐพี ชายาไร้ใจ
เรื่องนี้ยังไม่จบเลยค่ะ ทำไมสถานะเสร็จสิ้น ไม่อัพแล้วหรอ...