ตอนที่85ความทรงจำในป่าท้อ
เมื่อจางอวี่โหร่วตอบตกลงไปแล้วแน่นอนว่านางไม่อาจจะผิดสัญญา
เพราะไม่ต้องการให้คนในตระกูลจางต้องเป็นห่วงเดิมทีนางจึงไม่ได้บอกเรื่องนี้กับพวกเขา
คนที่รู้ความลับนี้มีเพียงหลินจื่อและเสี่ยวเฟิงเท่านั้น
หลินจื่อกังวลใจเกี่ยวกับเรื่องนี้เป็นอย่างมากนางอยากจะไปด้วยแต่ก็ถูกจางอวี่โหร่วปฏิเสธ
ตามที่นางบอกแล้วหากนางตกอยู่ในสถานการณ์อันตรายเพียงผู้เดียวนั้นย่อมดีกว่าพวกนางทั้งสองคนตกอยู่ในอันตราย
นางจะไปพบเป่ยจื่อห้าวด้วยตัวคนเดียวหากว่าผ่านไปหนึ่งชั่วยามแล้วยังไม่ออกมาหลินจื่อก็สามารถเรียกคนมาช่วยนางได้
เมื่อหลินจื่อคิดดูแล้วมันก็มีเหตุผลอยู่ดังนั้นนางจึงยอมตอบรับไป
จางอวี่โหร่วนึกไปถึงสถานที่ที่นางได้พบกับเป่ยจื่อห้าวเป็นครั้งแรกมันคือสวนดอกท้อบริเวณทางขึ้นเขาวัดพูโถวในเมืองหลวง
ในตอนนั้นนางอายุเพียง13ปีและตามคนที่บ้านไปกราบไหว้ที่วัดพูโถวเพราะนางเอาแต่เล่นสนุกไม่หยุดหย่อนจึงหลบพวกสาวใช้ลอบวิ่งออกไปเพียงผู้เดียวหลังจากนั้นก็หลงทางไปจนถึงสวนดอกท้อ
ตอนนั้นนางเป็นเพียงเด็กสาวตัวเล็กๆดังนั้นจึงอยู่ในอาการตื่นตกใจเนื่องจากหลงทางและในตอนนั้นเองเป่ยจื่อห้าวก็ปรากฏตัวขึ้นต่อหน้านางทั้งสองได้พบกันมันก็เหมือนดั่งชะตาของทั้งสองได้เริ่มต้นขึ้น
นางยังคงจำได้ว่าในตอนนั้นสายตาของเขาอบอุ่นเพียงใดเขาช่วยเหลือท่ามกลางความกังวลและพานางออกมาจากสวนดอกท้อจนได้พบเจอกับครอบครัว
มือของเขาเต็มไปด้วยความอบอุ่นมันโอบล้อมมือเล็กๆของนางเอาไว้ทำให้ในใจของนางเต็มไปด้วยความรู้สึกปลอดภัย
เพราะเรื่องที่เกิดขึ้นในครั้งนั้นนางจึงเกิดความรู้สึกดีๆขึ้นกับเป่ยจื่อจ้าวหลังจากนั้นนางก็ตกลงไปสู่อำนาจของเป่ยจื่อห้าวทันที
ในชั่วพริบตาเวลาก็ได้ผ่านพ้นไปนานหลายปีนางไม่ใช่เด็กสาวตัวน้อยอย่างก่อนหน้าอีกแล้วและก็ไม่อาจจะถูกภาพลักษณ์ปลอมเปลือกเหล่านั้นหลอกเอาได้อีก
ที่เป่ยจื่อห้าวเลือกมาพบกันที่นี่ก็คงจะต้องการอาศัยเรื่องราวในอดีตมาทำให้นางใจอ่อนและเปลี่ยนใจไป
วันนี้นางมาก็เพื่อบอกกับเขาให้ชัดๆเรื่องของเขากับนางเป็นไปไม่ได้อีกแล้ว
......
ที่นี่เป็นป่าท้อที่เต็มไปด้วยความงดงามตอนนี้เป็นช่วงเวลาโรยราของกลีบดอกท้อที่สิ้นอายุมันร่วงหล่นลงมายังพื้นดินและปกคลุมไปทั่วราวกับอยู่ท่ามกลางพรมสีชมพู
สายลมอันเบาบางพัดพาผ่านชายกระโปรงยาวของนางไปและพัดพาเอากลีบดอกไม้สีชมพูบนพื้นไปด้วยมีบางส่วนร่วงหล่นลงมายังเรือนผมหรือบ่าของนางทำให้ดูงดงามสั่นไหวจิตใจ
ในตอนนี้จางอวี่โหร่วสวมชุดกระโปรงยาวสีแดงทั้งตัวยืนอยู่ท่ามกลางกลีบดอกไม้ความงดงามสั่นไหวใจคนดูราวกับเทพธิดาแห่งสวนดอกท้อดุจดั่งบุคคลในภาพวาด
บางทีอาจจะเป็นเพราะค่อยๆลุ่มหลงไปกับทิวทัศน์อันงดงามตรงหน้าจางอวี่โหร่วจึงไม่ทันได้รู้สึกว่าด้านหลังของนางมีเงาร่างในชุดสีฟ้ากำลังขยับเข้ามาใกล้
จนกระทั่งเอวของนางถูกรวบแน่นจางอวี่โหร่วตื่นตกใจขึ้นมาและเริ่มออกแรงดิ้นรนจนในที่สุดก็หลุดพ้นออกมาจากอ้อมอกนั้น
เมื่อนางหมุนตัวไปดูก็พบว่าเป่ยจื่อห้าวกำลังมองมาที่นางอย่างอ่อนโยนผสมไปกับความอบอุ่นอันลึกซึ้งไร้จำกัดทำให้อดที่จะตกหลุมพรางลงไปไม่ได้
ครั้งหนึ่งจางอวี่โหร่วจมลึกลงไปในดวงตาคู่นี้หลายต่อหลายครั้งดังนั้นมันถึงได้เกิดความรู้สึกผูกพันและโกรธแค้นขึ้นมามากมาย
ถ้าหากในตอนนี้นางสามารถลืมเลือนทุกสิ่งและทิ้งตัวเข้าสู่อ้อมอกของเขามันก็ไม่ใช่ปัญหาที่ชวนคิดนักและช่างไร้สมองจนเกินไป
“เจ้าได้ตัดสินใจไปแล้วใช่หรือไม่?ระหว่างเราสองไร้หนทางคืนย้อนกลับแล้วใช่หรือไม่?
“ใช่!”
นางยืนยันขนาดนี้แล้วเป่ยจื่อห้าวยังจะเอาเล่ห์เหลี่ยมอะไรมาล่อให้นางยอมรับอีก
นางคิดว่าเขาจะต้องโมโหมากหรืออาจจะว่ากล่าวที่นางหักหลังความรู้สึกของพวกเขาด้วยความโกรธเคืองแต่ไม่คิดเลยว่าเขาจะยังสามารถบังคับเก็บซ่อนความรู้สึกของตัวเองเอาได้ทั้งหมด
“โหร่วเอ๋อร์เจ้าควรจะรู้ไว้ว่าบนโลกใบนี้คนที่ข้าไม่อยากทำร้ายที่สุดก็คือเจ้าขอเพียงเจ้ามีความสุขไม่ว่าจะเป็นเรื่องใดข้าก็จะสนับสนุนเจ้าแม้ข้าจะเจ็บปวดหัวใจหากเป็นสิ่งที่เจ้าเลือกแล้วข้าก็จะยอมตามที่เจ้าต้องการ”
ไม่เพียงแต่จางอวี่โหร่วจะไม่ได้รู้สึกสบายใจขึ้นมาแต่นางกลับยิ่งรู้สึกตื่นตกใจขึ้นเขาจะยอมตกลงง่ายๆเช่นนี้?ดูเหมือนว่ามันจะไม่เข้ากับนิสัยของเขานัก
เป่ยจื่อห้าวจับมือของนางขึ้นมาเบาๆนางพยายามที่จะสลัดออกแต่กลับทำไม่ได้ดั่งหวัง
นางพูดออกมาอย่างนิ่งเรียบ:“ท่านไม่ได้บอกว่าจะปล่อยวางแล้วหรือ?ชายหญิงไม่ควรต้องตัวกันยังไม่รีบปล่อยข้าออกอีก”
“ในตอนแรกความรู้สึกระหว่างเราเกิดขึ้นที่นี่ดังนั้นข้าก็หวังว่ามันจะจบลงที่นี่เพื่อให้เป็นจุดจบที่สวยงามแก่ความสัมพันธ์ของเราในหลายปีที่ผ่านมานี้ที่นี่มีความทรงจำของพวกเราในอดีตอยู่มากมายดังนั้นข้าอยากให้เจ้ามารำลึกถึงมันไปกับข้าในช่วงเวลาสุดท้ายนี้”
จางอวี่โหร่วไม่อยากจะอยู่กับเขานานขึ้นแม้แต่ชั่วนาทีแต่เขาจับมือของนางเอาไว้แน่นเดิมทีก็ไม่เปิดโอกาสให้นางได้ปฏิเสธ
นางจึงทำได้เพียงเอ่ยเตือนขึ้นมาเรียบๆ:“เช่นนั้นก็ย่อมได้แต่ข้ามีเวลาเพียง1ชั่วยามเท่านั้นคนของตำหนักไท่ชือรอข้าอยู่ด้านนอกหากถ้าไม่กลับไปพวกเขาก็จะร้อนรนเป็นห่วง”
นางกำลังเอ่ยเตือนเขาอย่างเปิดเผยอยู่ว่าถ้าหากเขาเล่นตุกติกอะไรขึ้นมามันก็ไม่มีทางที่จะสำเร็จได้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พลิกปฐพี ชายาไร้ใจ
เรื่องนี้ยังไม่จบเลยค่ะ ทำไมสถานะเสร็จสิ้น ไม่อัพแล้วหรอ...