ภพนี้ตราบภิรมย์รัก นิยาย บท 109

“มีคนตกน้ำ!”

“รีบไปช่วยเร็วเข้า!”

เมื่อคนที่รีบตรงมาที่นี่มองเห็นภาพตรงหน้า สีหน้าของพวกเขาก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย จากนั้นองครักษ์ที่ได้ยินเสียงอุทานก็รีบถลันไปที่สระทันที

หลินเป้ยเหยาที่ตกลงไปในสระอย่างกะทันหันสำลักออกมาทันที อาการหายใจติดขัดอย่างรุนแรงทำให้นางยิ่งรู้สึกหวาดกลัวและสิ้นหวัง

ในขณะที่หนานซื่อเวิ่นถูกกระตุ้นด้วยน้ำเย็นๆ จนแววตาที่พร่าเลือนเมื่อครู่กลับสดใสขึ้นมา

เสวียนยีที่ซ่อนตัวอยู่ในเงามืดขมวดคิ้วเล็กน้อยเมื่อเห็นภาพตรงหน้า จากนั้นเขาจึงรีบกลับไปยังตำหนักที่ฉู่โม่หยวนพำนักอยู่ทันที

เขาคุกเข่าลงและเอ่ยอย่างขอรับผิดว่า “นายท่านกับไท่จื่อเตี้ยนเซี่ยโปรดยกโทษให้กระหม่อมด้วย กระหม่อมทำงานได้ไม่ดี เวลานี้หลินเป้ยเหยากับหนานซื่อเวิ่นตกลงไปในน้ำ จึงทำให้จัดการตามแผนเดิมไม่ได้พ่ะย่ะค่ะ”

ตามแผนเดิม ตอนที่หลินเป้ยเหยากับหนานซื่อเวิ่นกำลัง ‘แลกเปลี่ยนไออุ่น’ กัน พวกเขาควรจะถูกคนที่เดินผ่านมาเห็นว่าพวกเขากำลัง ‘สานสัมพันธ์กันเป็นการส่วนตัว’

ถึงตอนนั้นชื่อเสียงของทั้งสองคนย่อมจะเสื่อมเสีย และมีแนวโน้มที่ทั้งคู่จะถูกจับให้แต่งงานกัน ซึ่งนั่นจะช่วยขจัดความอยากไต่เต้าปีนป่ายเข้าหาผู้มีอำนาจของทั้งคู่ให้หมดไป

แต่ตอนนี้ทั้งสองคนลงไปในน้ำ และน่ากลัวว่าเรื่องราวจะไม่เป็นไปตามแผนที่พวกเขาวางเอาไว้

หลินเมิ่งหวันเลิกคิ้วมองถ้วยชาที่อยู่ตรงหน้าโดยไม่พูดอะไร ฉู่จิ่นจ้านแย้มยิ้มเล็กน้อย เขามองฉู่โม่หยวนกับหลินเมิ่งหวันและเอ่ยว่า “ข้าก็พักมานานพอสมควรแล้ว ทำไมเราไม่ไปดูกันสักหน่อยล่ะ ว่าละครเรื่องนี้จะดำเนินไปอย่างไรต่อ”

ฉู่โม่หยวนกับหลินเมิ่งหวันตอบรับ จากนั้นทั้งสามคนจึงลุกขึ้นและเดินตรงไปยังสระน้ำ

ยังไม่ทันไปถึงที่เกิดเหตุ พวกเขาก็เห็นคนกลุ่มหนึ่งยืนอยู่รอบๆ สระน้ำ

มีเสียงร้องไห้สะอึกสะอื้นของผู้หญิงกับเสียงร้องขอความเมตตาของผู้ชายดังขึ้นมาท่ามกลางฝูงชน

“นี่มันเกิดอะไรขึ้นอย่างนั้นหรือ”

ฉู่จิ่นจ้านเอ่ยเสียงดังด้วยน้ำเสียงที่นุ่มนวลราวกับหยก ถ้าหลินเมิ่งหวันไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นก่อนหน้านี้ นางคงไม่มีทางเดาได้เลยว่าฉู่จิ่นจ้านเพิ่งจะถูกวางแผนจัดฉากก่อนหน้านี้ไม่นาน และหลินเป้ยเหยาที่คิดร้ายกับเขาก็อยู่ตรงหน้านี้ด้วย

แน่นอน... คนในวังย่อมชำนาญในการซ่อนอารมณ์ความรู้สึก

เสียงอันอบอุ่นที่ดังขึ้นมาอย่างกะทันหันของฉู่จิ่นจ้าน ทำให้หลินเป้ยเหยาตัวสั่นขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว นางรีบก้มหน้าลงสะอื้นไห้ ภายในใจเต็มไปด้วยความตื่นตระหนก

นางจำไม่ได้จริงๆ ว่าก่อนหน้านี้เกิดอะไรขึ้น แต่นางจำได้อย่างแม่นยำว่าก่อนหน้านี้ฉู่จิ่นจ้านถูกเรียกมาแล้ว แต่พอนางฟื้นขึ้นมา คนที่อยู่ตรงหน้ากลับกลายเป็นหนานซื่อเวิ่น

ไม่ต้องสงสัยเลยว่าตอนนี้ฉู่จิ่นจ้านคงจะมองแผนของนางออกแล้ว แล้วตอนนี้นางจะทำอย่างไรดี

หลินเป้ยเหยาขบริมฝีปากแน่นจนมีกลิ่นคาวเลือดคลุ้งเต็มปาก และภายในใจก็เต็มไปด้วยความสิ้นหวัง

เมื่อเห็นว่าเป็นฉู่จิ่นจ้านกับฉู่โม่หยวน ทุกคนจึงรีบคุกเข่าคำนับ

คนที่ดูเหมือนจะเป็นหัวหน้าองครักษ์ตอบว่า “เมื่อครู่ข้ากระหม่อมได้ยินเสียงวุ่นวายจากทางนี้จึงรีบเข้ามาดู จากนั้นจึงรีบลงไปช่วยเมื่อเห็นว่ามีคนตกน้ำพ่ะย่ะค่ะ”

“คนที่ตกลงไปในน้ำคือคุณหนูแห่งจวนหลินซ่างซูกับคุณชายแห่งจวนหนานพ่ะย่ะค่ะ คุณหนูหลินบอกว่าคุณชายหนานคิดจะลวนลามนาง เพื่อปกป้องความบริสุทธิ์ของตนเอง นางจึงทำได้เพียงกระโดดหนีลงไปในสระ ข้ากระหม่อมได้ส่งคนไปทูลฝ่าบาทกับฮองเฮา ทูลเชิญให้ฝ่าบาทกับฮองเฮามาตัดสินแล้วพ่ะย่ะค่ะ”

กระโดดหนีลงไปในสระเพื่อปกป้องความบริสุทธิ์?

ฉู่จิ้นจ้านมองหลินเป้ยเหยาเหมือนจะยิ้มแต่ไม่ยิ้ม ในใจนึกว่านางก็ช่างเอาทองมาฉาบหน้าตัวเองได้จริงๆ

พูดออกมาได้ขนาดนี้ นางไม่กลัวลมโฉบมาตัดลิ้นไปเลยสินะ

ฉู่จิ่นจ้านเอ่ยอย่างเหน็บแนมว่า “คุณหนูหลินช่างบริสุทธิ์เพียบพร้อมจริงๆ ถึงได้ยอมตายดีกว่ายอมเสียเกียรติ”

หลินเป้ยเหยาตัวเย็นเยียบและรู้สึกชาไปทั่วหนังศีรษะ ไม่กล้าแม้แต่จะเหลือบมองท่าทางของฉู่จิ่นจ้าน

แต่หนานซื่อเวิ่นกลับรีบตะกายตัวเข้ามาคุกเข่าตรงหน้าฉู่จิ่นจ้าน “ไท่จื่อเตี้ยนเซี่ยโปรดไตร่ตรอง ข้ากระหม่อมมิได้ลวนลามแม่นางหลิน ข้ากระหม่อมไม่รู้จริงๆ ว่าเกิดอะไรขึ้น ข้ากระหม่อมเพียงแต่ได้รับคำสั่งจากจิ่งอ๋องเตี้ยนเซี่ยให้ไปที่ศาลา ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าคุณหนูหลินอยู่ที่นี่... ขอไท่จื่อเตี้ยนเซี่ยทรงตัดสินเพื่อข้ากระหม่อมด้วย โปรดตัดสินด้วยพ่ะย่ะค่ะ...”

หนานซื่อเวิ่นทำอะไรไม่ถูกและโค้งศีรษะคำนับฉู่จิ่นจ้านครั้งแล้วครั้งเล่า

เขาไม่ได้โดนยาเสน่ห์แรงนัก เมื่อได้แช่ตัวในน้ำเย็นๆ เมื่อครู่นี้ ฤทธิ์ยาจึงเสื่อมลงไปจนหมด

ใบหน้าของหลินเป้ยเหยาซีดเผือด เมื่อมองทุกคนที่อยู่ตรงหน้า หัวใจของนางก็ยิ่งจมดิ่ง

“หม่อมฉันไม่ขอมีชีวิตอยู่แล้วเพคะ!” นางร้องตะโกนออกมา และลุกขึ้นวิ่งไปทางศาลาทันที

หางตาของหลินเมิ่งหวันกระตุกเล็กน้อย

เด็กดีเอ๋ย สมกับที่เป็นลูกสาวของหลี่อี๋เหนียงโดยแท้ ละครขู่ฆ่าตัวตายแบบนี้นี่มันเชื้อไม่ทิ้งแถวชัดๆ

ในวังมีองครักษ์ฝีมือดีอยู่มากมาย คนพวกนี้จะปล่อยให้หลินเป้ยเหยาแสวงหาความตายได้อย่างไร

หลินเป้ยเหยายังก้าวออกไปไม่ถึงสองก้าวก็ถูกองครักษ์จับตัวไว้

ฉู่จิ่นจ้านจ้องมองหลินเป้ยเหยาด้วยสายตาที่เย็นชา หนึ่งร้องไห้ สองสร้างเรื่อง สามผูกคอตาย... หลินเป้ยเหยานี่เก็บครบทุกอย่างจริงๆ

ถึงแม้ฮองเฮาจะไม่อยากสนพระทัย แต่เมื่อตรงหน้ากำลังเกิดปัญหาถึงชีวิต ในฐานะฮองเฮา พระนางจึงไม่อาจเพิกเฉยทำเป็นไม่รู้ไม่เห็น

“เหตุใดคุณหนูหลินจะต้องแสวงหาความตายด้วย หากมีเรื่องคับข้องใจใดๆ ข้ากับฝ่าบาทจะเป็นผู้ตัดสินให้เจ้าเอง”

หลินเป้ยเหยาปิดหน้าร้องไห้อย่างขมขื่น นางอยากจะหาข้อแก้ตัวและขอความเมตตา แต่นางก็พูดไม่ออกเพราะความตื่นตระหนก

ฉู่โม่หยวนเหลือบมองหลินเป้ยเหยาด้วยสายตาที่เยียบเย็น ภายในใจเต็มไปด้วยความรังเกียจ

เขาก้าวมาข้างหน้า จากนั้นจึงเอ่ยกับฮ่องเต้และฮองเฮาด้วยเสียงที่ดังว่า “คุณหนูหลินกับคุณชายหนานมีเรื่องปะทะกันในศาลาด้วยเหตุผลใดก็มิทราบ คุณหนูหลินกล่าวหาว่าคุณชายหนานคิดจะลวนลามนาง ด้วยเหตุนี้นางจึงกระโดดหนีลงสระเพื่อรักษาความบริสุทธิ์ของนางไว้ แต่คุณชายหนานบอกว่าเขาถูกกล่าวหาผิดๆ เรื่องนี้แปลกมาก เหตุใดจึงไม่ให้ลูกสอบสวนดูล่ะพ่ะย่ะค่ะ ลูกจะต้องหาความจริงได้แน่นอน”

หลินเป้ยเหยาตัวสั่นขึ้นมาอีกครั้ง แม้แต่จะร้องไห้ก็ยังไม่กล้าร้องแบบส่งเสียง

ถ้าฉู่โม่หยวนมาสอบสวน เขาจะไม่ตรวจสอบจนเจอหรือว่านางวางยาเสน่ห์ให้ไท่จื่อเตี้ยนเซี่ย?

ฉู่โม่หยวนมองหลินเป้ยเหยาอย่างเย็นชาและเอ่ยต่อไปว่า “คุณหนูหลินประสบกับความตื่นกลัวในวัง ดังนั้นให้อยู่ในวังรักษาตัวก่อนจะดีกว่าพ่ะย่ะค่ะ”

ในเมื่อหลินเป้ยเหยาอยากจะเข้าวังเช่นนี้ เขาก็จะทำให้นางสมหวังเอง!

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ภพนี้ตราบภิรมย์รัก