หลินเมิ่งหวันยิ้มและยกนิ้วโป้งให้หลินฮูหยินใหญ่ “ท่านย่าฉลาดปราดเปรื่อง ซ่อนอะไรจากท่านย่าไม่ได้จริงๆ ด้วย แต่เมิ่งหวันหิวมากเลยเจ้าค่ะ ขอกินข้าวที่เรือนท่านย่าสักมื้อจะได้หรือไม่เจ้าคะ”
ตอนนี้ถึงเวลารับประทานอาหารกลางวันแล้ว หลินเมิ่งหวันตั้งใจจะมากินอาหารกับหลินฮูหยินใหญ่เสียก่อน
หลินฮูหยินใหญ่รู้สึกขบขันหลินเมิ่งหวัน จากนั้นจึงสั่งให้คนรับใช้เตรียมอาหารทันที
ระหว่างที่สองย่าหลานพูดคุยหัวเราะกันนั้น บรรยากาศดูอบอุ่นมาก และหลินเมิ่งหวันก็คอยสังเกตสีหน้าของหลินฮูหยินใหญ่ตลอดเวลาเพื่อยืนยันสุขภาพร่างกายของนาง
แต่ถึงกระนั้นหลังจากกินข้าวเสร็จ หลินเมิ่งหวันก็ยังตรวจชีพจรให้หลินฮูหยินใหญ่อีกครั้ง
เมื่อแน่ใจแล้วว่าหลินฮูหยินใหญ่สุขภาพแข็งแรงดี หลินเมิ่งหวันจึงเริ่มเอ่ยด้วยสีหน้าจริงจังว่า “ท่านย่า ความจริงที่เมิ่งหวันจะบอกท่านย่า ท่านย่าอย่าโกรธนะเจ้าคะ”
ดวงตาของหลินฮูหยินใหญ่หรี่ลงเล็กน้อย จากนั้นนางจึงพยักหน้าให้หลินเมิ่งหวัน
“พวกเจ้าทุกคนออกไปก่อน” หลินฮูหยินใหญ่เอ่ยด้วยเสียงที่หนักแน่น
แค่มองสีหน้าที่จริงจังของหลินเมิ่งหวัน หลินฮูหยินใหญ่ก็เดาได้ทันทีว่าเรื่องที่เกิดขึ้น ณ งานเลี้ยงชมบุปผาในวังเมื่อคืนต้องไม่ใช่เรื่องเล็กๆ
ทุกคนรับคำสั่งและออกไปข้างนอก จากนั้นจึงปิดประตูลงอย่างระมัดระวัง
จากนั้นหลินเมิ่งหวันจึงลดเสียงลง เล่าเรื่องที่หลินเป้ยเหยาวางยาไท่จื่อเตี้ยนเซี่ยให้หลินฮูหยินใหญ่ฟัง นอกจากนี้ยังเล่าเรื่องที่ไท่จื่อเตี้ยนเซี่ยทรงลงโทษหลินเป้ยเหยาให้ฟังด้วย
เหงื่อเย็นๆ ผุดพรายทันทีที่ฮูหยินใหญ่รู้ว่าที่หลินเป้ยเหยาวางยาเสน่ห์กับไท่จื่อเตี้ยนเซี่ย นางหยิบถ้วยชาบนโต๊ะขึ้นมาและขว้างลงไปอย่างแรง
“ปีศาจ! นี่มันปีศาจร้าย! นางไม่ได้สนใจชีวิตคนในตระกูลเลยสักนิด!”
หลินเมิ่งหวันรีบลูบหลังของหลินฮูหยินใหญ่เพื่อช่วยให้นางสงบลง “ท่านย่าอย่ากังวลไปเลยเจ้าค่ะ เรื่องนี้ไท่จื่อเตี้ยนเซี่ยมิได้คิดจะเอาเรื่องจวนหลินและไม่ได้เปิดเผยให้ใครรู้ ต่อจากนี้หากเราควบคุมพฤติกรรมของทุกคนในจวนได้ เราก็จะไม่มีปัญหาอะไรอีกเจ้าค่ะ”
หลินฮูหยินใหญ่ใช้เวลาอยู่ครู่ใหญ่กว่าจะปรับอารมณ์ให้คงที่ นางหันไปมองหลินเมิ่งหวันและถอนหายใจอย่างหนักหน่วง
“คนอื่นๆ ในจวนไม่มีปัญหาอะไรหรอก แต่เจ้าน่ะสิที่จะมีปัญหา”
หลินเมิ่งหวันเอาเรื่องนี้มาบอกกับนางได้ แล้วไท่จื่อเตี้ยนเซี่ยจะไม่เอาเรื่องนี่ไปทูลให้ฮ่องเต้กับฮองเฮาทรงทราบหรือ
มิน่าเล่าหลินเมิ่งหวันจึงไม่ได้รับรางวัลเมื่อคืนนี้ ที่แท้ก็เป็นหลินเป้ยเหยานี่เองที่ก่อเรื่องยุ่งยาก!
หลินฮูหยินใหญ่กัดฟันด้วยความโกรธ แทบอยากจะกดหลินเป้ยเหยาให้จมส้วมตายเสียเดี๋ยวนั้น
แต่หลินฮูหยินใหญ่ไตร่ตรองเรื่องนี้ดูแล้ว ไท่จื่อเตี้ยนเซี่ยคงไม่คิดจะทำให้ฉู่โม่หยวนลำบาก ดังนั้นเรื่องที่หลินเป้ยเหยาวางแผนร้ายกับพระองค์ พระองค์คงไม่คิดจะบอกใคร
หลินฮูหยินใหญ่กำลังใคร่ครวญว่าควรจะพาหลินเมิ่งหวันเข้าวังไปสารภาพผิดดีหรือไม่ แต่ยังไม่ทันจะตัดสินใจก็ได้ยินเสียงเคาะประตูดังขึ้น
จากนั้นเสียงของแม่นมหลี่ก็ดังเข้ามากระทบโสตประสาทของหลินฮูหยินใหญ่กับหลินเมิ่งหวัน “ฮูหยินใหญ่ คุณหนูเมิ่งหวัน เฉิงเซี่ยงฮูหยินกับคุณหนูหลี่และคุณหนูฉีมาเพื่อขอขมาโทษเจ้าค่ะ”
หลินเมิ่งหวันตบหัวตัวเอง “ท่านย่า เมิ่งหวันลืมเรื่องนี้ไปเสียสนิท เมื่อคืนฮองเฮายังรับสั่งลงโทษ ให้เฉิงเซี่ยงฮูหยินพาหลี่เล่อหย่ากับฉีซือเหมี่ยวมาขอขมาเมิ่งหวันด้วยเจ้าค่ะ”
หลินเมิ่งหวันเล่าเรื่องที่หลี่เล่อหย่ากับฉีซือเหมี่ยวจับผิดนางในงานเลี้ยงเมื่อคืนให้หลินฮูหยินใหญ่ฟังอย่างคร่าวๆ
เมื่อได้ยินดังนั้น คิ้วของหลินฮูหยินใหญ่จึงขมวดเข้าหากัน
นางยกมือทาบอกและเอ่ยว่า “เมิ่งหวัน เจ้าเล่าทุกอย่างหมดแล้วใช่หรือไม่ ถ้ายังมีเรื่องใดที่ไม่ได้เล่า ก็เล่าให้ย่าฟังให้หมดในคราวเดียว ย่าละตกใจอยู่เรื่อย”
หรือว่าหลี่เล่อหย่ามีแผนอะไรอยู่ในใจ?
“คารวะเฉิงเซี่ยงฮูหยินเจ้าค่ะ”
หลินเมิ่งหวันเข้ามาที่โถงด้านหน้าและทำทีราวกับว่าไม่สังเกตเห็นเจตนาร้ายของหลี่เล่อหย่า นางทำตามแผนก่อนหน้าและทำความเคารพเฉิงเซี่ยงฮูหยินด้วยรอยยิ้ม จากนั้นจึงสั่งให้คนยกน้ำชาเข้ามาให้
สวี่ซื่อพยักหน้ารับเล็กน้อย “หามิได้คุณหนูหลิน วันนี้ข้ามาขอขมาโทษคุณหนูหลินตามรับสั่งของฮองเฮา”
นางส่งสายตาให้หลี่เล่อหย่ากับฉีซือเหมี่ยว จากนั้นฉีซือเหมี่ยวจึงก้าวมาข้างหน้าเพื่อคำนับขอขมาหลินเมิ่งหวัน
แต่แล้วหลี่เล่อหย่ากลับคว้าแขนของฉีซือเหมี่ยวเอาไว้ นางมองหลินเมิ่งหวันอย่างทะนงตนและกล่าวว่า “หลินเมิ่งหวัน ข้าไม่มีทางขอโทษเจ้า ข้าไม่ได้พูดสิ่งใดผิด เจ้ามันเป็นผู้หญิงใจง่ายไร้ยางอาย!”
หลินเมิ่งหวันเลิกคิ้วเล็กน้อยและมองหลี่เล่อหย่าอย่างสนอกสนใจ “คุณหนูหลี่พูดไม่เห็นเหมือนกับที่พูดเมื่อคืน หรือที่คุณหนูหลี่พูดเมื่อคืนจะเป็นเพียงการหลอกลวงฮองเฮา ไม่พอใจกระแสรับสั่งพระองค์?”
หลี่เล่อหย่าแอบด่าหลินเมิ่งหวันที่แสร้งทำเป็นอวดดี จากนั้นจึงเอ่ยอย่างโกรธเคืองว่า “หลินเมิ่งหวัน เจ้าอย่ามาพูดจากล่าวหาข้ามั่วๆ เมื่อคืน... เมื่อคืนข้าแค่ยังมองเจ้าออกไม่หมดก็เท่านั้น!”
“หืม? เช่นนั้นตอนนี้คุณหนูหลี่ก็มองข้าออกแล้วหรือ” หลินเมิ่งหวันถามกลับด้วยรอยยิ้ม นางหรี่ตาเล็กน้อยและคาดเดาว่าหลี่เล่อหย่าไปเอาความมั่นใจมากจากไหนถึงได้กล้าท้าทายนางเช่นนี้
หลี่เล่อหย่าเอ่ยเสียงเย็นว่า “หลินเมิ่งหวัน เจ้านี่ไม่เห็นโลงศพไม่หลั่งน้ำตาสินะ ข้าจะดูสิว่าอีกเดี๋ยว เจ้าจะยังยิ้มออกหรือไม่!”
“เมื่อคืนเจ้าพบกับพี่ชายของข้าใช่หรือไม่ นอกจากนี้เจ้ายังเอาจี้หยกของพี่ชายข้าไปด้วยใช่ไหมล่ะ ถ้าคิดได้ละก็ รีบมอบจี้หยกมาซะ แล้วข้าจะไม่พูดเรื่องนี้ออกไป แต่ถ้าเจ้ายังกล้าให้ข้าขอโทษละก็ ข้าจะเข้าวังไปกราบทูลฮ่องเต้กับฮองเฮาเรื่องนี้ทันที จะให้พระองค์ลงโทษเจ้าสถานหนักเลยทีเดียว!”
หลี่เล่อหย่ามองหลินเมิ่งหวันอย่างลำพองใจ เปลวไฟพลุ่งพล่านอยู่ในดวงตา สีหน้าเต็มไปด้วยความก้าวร้าว
พ่อบ้านที่เพิ่งเดินมาถึงประตูใจหายวาบ เขาเงยหน้าเหลือบมองคนที่อยู่ข้างกายอย่างหวาดผวา แล้วก็เป็นอย่างที่คิด สีหน้าของฉู่โม่หยวนเหมือนถูกเคลือบไปด้วยชั้นน้ำค้างแข็ง ความหนาวเย็นแผ่ซ่านอยู่รอบกายราวกับจะแช่แข็งทุกคนอย่างไรอย่างนั้น!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ภพนี้ตราบภิรมย์รัก