แสงเทียนสั่นไหวสาดส่องใบหน้าอันโกรธเคืองของฉู่โม่หยวน เขาขมวดคิ้วแน่น แววตาเฉียบคมดั่งใบมีด
ตั้งแต่ตอนที่หลินเมิ่งหวันเข้ามาจากประตู ฉู่โม่หยวนก็ได้กลิ่นหอมที่คุ้นเคย กับกลิ่นเครื่องหอมที่หลินเมิ่งหวันใช้คล้ายคลึงกันมาก
แต่เขาคิดไม่ถึงเลย คนที่เข้ามาจะเป็นหลินเมิ่งหวันจริง
มิหนำซ้ำ นางยังแต่งกายสภาพแบบนี้
หลินเมิ่งหวันปรากฏตัวในสภาพแบบนี้ที่หอจุ้ยหง อยากทำอะไรกันแน่?
ความโกรธในใจของฉู่โม่หยวนดุเดือด รีบร้อนที่อยากจะได้คำตอบ
เพียงแค่วินาทีต่อมา หลินเมิ่งหวันกลับผลักมือของฉู่โม่หยวนออก
“จิ่งอ๋องเตี้ยนเซี่ย หม่อมฉันก็อยากถาม ทำไมท่านถึงอยู่ที่นี่?”
“งานแต่งของท่านกับหม่อมฉันก็ใกล้แล้ว หรือว่า จิ่งอ๋องเตี้ยนเซี่ยเวลาแบบนี้อัดอั้นความเหงาไว้ไม่อยู่ มาหาความสุขในหอจุ้ยหง?”
หลินเมิ่งหวันมองฉู่โม่หยวนโดยตรง ด้วยน้ำเสียงเหมาะสม ดวงตาที่ตาดำตาขาวเด่นชัดมีแววแห่งความดื้อรั้นในการถาม
ฉู่โม่หยวนขมวดคิ้ว “แน่นอนว่าข้ามีธุระสำคัญ”
“เฮอะ ธุระสำคัญ?” หลินเมิ่งหวันหัวเราะเย็นชา ในใจรู้สึกหึงหวงอย่างมาก
นางซักถาม “เรื่องสำคัญอะไรต้องคุยกันในหอจุ้ยหง? แค่เกรงว่าในหอจุ้ยหงนี้ จะมีคนที่จิ่งอ๋องเตี้ยนเซี่ยอยากเจอมากกว่า!”
“เมิ่งหวันไม่ทราบว่านหญิงสาวในหอจุ้ยหงที่ดึงดูดจิตใจของจิ่งอ๋องเตี้ยนเซี่ยนั่นเป็นนางฟ้านางสวรรค์แบบไหน เพราะฉะนั้นอยากมาเห็นกับตาตัวเอง หากรบกวนความสนุกของจิ่งอ๋องเตี้ยนเซี่ย ยังหวังจิ่งอ๋องเตี้ยนเซี่ยอภัยด้วย”
“หรือไม่ ท่านจิ่งอ๋องเตี้ยนเซี่ยบอกฮ่องเต้โดยตรง ยกเลิกการแต่งงานของเราสองคน จะได้รับหญิงสาวคนนั้นเข้าจวน.......ซี๊ด.......”
ในใจของหลินเมิ่งหวันมีความเจ็บแสบน้อยใจ คำพูดที่พูดออกมาก็ส่อถึงความหึงหวง
เพียงแค่ คำพูดของนางยังไม่พูดไม่จบ ก็เปลี่ยนเป็นเสียงร้องเจ็บปวด เพราะว่าฉู่โม่หยวนจับข้อมือผอมบางของนางไว้แน่น
ฉู่โม่หยวนสีหน้าเย็นชา ในแววตาแสดงถึงความโกรธอย่างรุนแรง “เจ้าก็ยังคงอยากถอนการแต่งงาน!”
หลินเมิ่งหวันวนเวียนอยู่ในความทรมาน ในที่สุดก็พูดเป้าหมายที่แท้จริงของตัวเองออกมา
หลินเมิ่งหวันตะลึง ปวดจนขมวดคิ้ว “ท่านปล่อยข้า! ทั้งๆที่เป็นท่านที่มาหาความสุขในสถานที่แบบนี้ ทำไมถึงเป็นข้าที่อยากถอนการแต่งงาน?”
“เรื่องการแต่งงานของเราไม่ใช่ข้าขอร้องมา และไม่ใช่ข้าที่ยืนยันอยากจะแต่งงานกับท่าน หากท่านไม่ได้จริงใจกับข้า สู้ยกเลิกสัญญาหมั้นหมายของเราแต่เนิ่นๆดีกว่า”
ในใจของหลินเมิ่งหวันเจ็บปวดอย่างมาก ดวงตาก็มีหมอกบางๆหนึ่งชั้นบดบังอย่างห้ามตัวเองไม่ได้
ชาติที่แล้ว นางมอบหัวใจให้กับหลี่จิ่นซู แต่กลับถูกเหยียบย่ำอย่างรุนแรง
ชาติที่แล้ว นางเชื่อใจหลี่อี๋เหนียงและหลินเป้ยเหยา พยายามดีต่อพวกเขาที่สุด สิ่งที่ได้กลับมาคือการวางแผนคิดร้าย
หลินเมิ่งหวันรู้ดีว่าตัวเองไม่ถือว่าเป็นคนฉลาด เพราะฉะนั้นมีชีวิตใหม่อีกชาติ นางแค่อยากพยายามปกป้องคนที่ตัวเองใส่ใจ
นางคิดว่าฉู่โม่หยวนจริงใจต่อนาง สาบานว่าจะใช้ชีวิตกับฉู่โม่หยวนอย่างดี
แต่ว่า วันนี้นางกลับเห็นฉู่โม่หยวนปรากฏตัวที่หอจุ้ยหง
คำพูดที่หลินเป้ยเหยาพูดก่อนฆ่านาง วนเวียนอยู่ในหัวสมองของหลินเมิ่งหวัน
หลินเป้ยเหยาพูดว่า นางจะแต่งงานกับจิ่งอ๋องเตี้ยนเซี่ย จะกลายเป็นจิ่งหวังเฟย
หลินเมิ่งหวันไม่รู้ว่าเรื่องนี้จริงหรือปลอม ยิ่งไม่รู้ว่าทำไมฉู่โม่หยวนต้องแต่งงานกับหลินเป้ยเหยา
แต่ว่า เรื่องนี้กลับทำให้หลินเมิ่งหวันสงสัย ฉู่โม่หยวนซื่อตรงใจเดียวต่อนางหรือไม่
หลี่จิ่นซูล่อลวงนาง ก็เพื่อเงินทองสมบัติของจวนฉิน ถ้าเช่นนั้นฉู่โม่หยวนแต่งงานกับนาง จะเพื่ออะไรบางอย่างหรือไม่?
การหวาดระแวงเหล่านี้ ต่างก็ทับถมเข้ามาหัวใจของหลินเมิ่งหวันในวินาทีที่ฉู่โม่หยวนปรากฏตัวที่หอจุ้ยหง
เพราะฉะนั้นหลินเมิ่งหวันเปลี่ยนเสื้อผ้ากับชูยียี เสี่ยงภัยเข้ามาในห้องของฉู่โม่หยวน
หลินเมิ่งหวันก็อยากเห็นกับตาตัวเอง ฉู่โม่หยวนต้องการอะไรกันแน่
ความคิดนี้ ทำให้ฉู่โม่หยวนดีใจอย่างมาก
เขาคิดอยู่ชั่วครู่ มองดูหลินเมิ่งหวันพูดเสียงต่ำ “ข้าสั่งให้หวังเอ้อหาหญิงสาวคนหนึ่ง ส่งเข้าไปในจวนแม่ทัพเฉิน เขาชอบหญิงสาวหน้าตาสวยผิวขาว โดยเฉพาะขาตรงและยาว”
“แม่ทัพเฉิน?” หลินเมิ่งหวันอึ้ง “แม่ทัพเฉินที่รักษาการณ์อยู่ตะวันออกใต้?”
“อืม” ฉู่โม่หยวนพยักหน้า “ข้ากำลังคุยเรื่องนี้อยู่กับเขา และอยากจะเลือกคนในหอจุ้ยหงโดยตรงเลย ดังนั้นจึงเลือกคุยกันที่นี่”
หลินเมิ่งหวันมองดูฉู่โม่หยวนสีหน้าอึ้ง
สีหน้าเขาเรียบเฉย ท่ามกลางสายตาอันคมลึกนั้นราบเรียบ ไม่มีสภาพโกหกแม้แต่น้อย
หลินเมิ่งหวันคิดเรื่องหนึ่งขึ้นมาได้กะทันหัน
ชาติที่แล้ว แม่ทัพเฉินสมรู้ร่วมคิดกับชาติศัตรู ทำให้ชายแดนตะวันตกใต้มีสงครามไม่หยุด
ก็คือฉู่โม่หยวนหาหลักฐานเจอ จับตัวไว้ตอนที่แม่ทัพเฉินพบหน้ากับศัตรู ถึงทำให้แม่ทัพเฉินยอมรับผิดรับโทษ
หรือว่า ฉู่โม่หยวนใช้วิธีการส่งใส่ศึกจับตาแม่ทัพเฉิน ถึงหาหลักฐานเจอหรือ?
ฉู่โม่หยวนพูด “หากเจ้าไม่เชื่อ สามารถหาหวังเอ้อมาถาม”
หวังเอ้อก็คือชายที่ออกไปเมื่อครู่
“ไม่......ไม่จำเป็นแล้ว ในเมื่อเป็นการเข้าใจผิด เช่นนั้นข้าก็ไปก่อนแล้ว”
หลินเมิ่งหวันสีหน้าแดงก่ำ ดึงเสื้อคลุมก็อยากลุกขึ้น
แต่ว่า ยังไม่รอนางยืนตัวตรง ฉู่โม่หยวนก็ดึงแขนของหลินเมิ่งหวันไว้
หลินเมิ่งวหันร้องตกใจออกมาอย่างไม่ทันตั้งตัว ถูกแรงอันมหาศาลดึง เข้าสู่อ้อมกอดของฉู่โม่หยวนโดยตรง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ภพนี้ตราบภิรมย์รัก