ภพนี้ตราบภิรมย์รัก นิยาย บท 51

หลินเมิ่งหวันชะงัก เมื่อเงยหน้ามองจึงเห็นใบหน้าที่เย็นชาของฉู่โม่หยวน

“ถวายบังคมจิ่งอ๋องเตี้ยนเซี่ย”

ทุกคนจำฉู่โม่หยวนได้และรีบทำความเคารพทันที

ชายชุดน้ำเงินกวาดสายตามองฉู่โม่หยวนกับหลินเมิ่งหวัน จากนั้นจึงหยุดสายตาไว้ที่ฉู่โม่หยวน

เขาก้มหน้าคำนับฉู่โม่หยวนด้วยความเคารพพลางกล่าวว่า “ถวายบังคมจิ่งอ๋องเตี้ยนเซี่ย ข้าไม่สบายกายจึงไม่สะดวกที่จะทำความเคารพ ขอจิ่งอ๋องเตี้ยนเซี่ยโปรดทรงอภัย...”

ยังไม่ทันพูดจบ เสียงของชายชุดน้ำเงินก็อ่อนแรงลง ทันใดนั้นภาพตรงหน้าก็มืดสนิทก่อนที่เขาจะหมดสติไป

หลินเมิ่งหวันใจเต้นแรงขึ้น นางมองฉินจิ้งเจาและตะโกนบอกว่า “วางเขาลงบนพื้นก่อน รีบไปหาเปลหามมาเร็วเข้า”

ฉินจิ้งเจาพยักหน้ารับทันที จากนั้นจึงวางชายชุดน้ำเงินให้นอนลงบนพื้นตามคำขอของหลินเมิ่งหวัน

หลินเมิ่งหวันไม่รอช้า นางทรุดตัวลงนั่งข้างๆ ชายชุดน้ำเงินและเอื้อมมือไปสัมผัสข้อมือของเขา

ไม่ว่าเรื่องนี้จะเป็นความผิดของฉินจิ้งเจาหรือไม่ แต่ชายชุดน้ำเงินที่อยู่ตรงหน้าก็ต้องการการตรวจรักษาโดยเร็วที่สุด

ยิ่งไปกว่านั้นยังมีคนคิดจะโยนความผิดมาให้ฉินจิ้งเจา ดังนั้นชายคนนี้จึงยิ่งจะเป็นอะไรไปไม่ได้

ฉู่โม่หยวนขมวดคิ้วมองหลินเมิ่งหวัน และสีหน้าของเขามืดมนลงไปในฉับพลัน

เหตุใดนางจึงห่วงใยเซียงอ๋องซื่อจื่อขนาดนี้

เป็นไปได้หรือไม่ว่าหลินเมิ่งหวันยังคงเป็นเหมือนตอนเด็กๆ

เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ คิ้วของฉู่โม่หยวนก็ยิ่งขมวดแน่นขึ้น

หลินเมิ่งหวันขมวดคิ้วจนเป็นปมไม่ต่างกัน นางใจสั่นทันทีเมื่อรับรู้ถึงชีพจรของชายชุดน้ำเงิน

นางเงยหน้ามองฉู่โม่หยวน “เขาถูกวางยาพิษ”

“ถูกวางยาพิษ?”

คนที่เฝ้าดูผงะไปเมื่อได้ยินคำพูดของนาง และสีหน้าก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย

ในงานแข่งขันโปโลที่ทุกอย่างเรียบร้อยดีแบบนี้ จะมีคนถูกวางยาพิษได้อย่างไร

หลินเมิ่งหวันมองใบหน้าที่ซีดเทาของชายชุดน้ำเงินที่กำลังไร้สติ จากนั้นจึงดึงปิ่นปักผมสีทองออกมาทันที

ท่ามกลางสายตาที่ตกตะลึงของผู้คน หลินเมิ่งหวันบิดปิ่นปักผมทองคำจนปิ่นแยกออกเป็นสองส่วน

นั่นเองทุกคนจึงเห็นว่าปิ่นปักผมทองคำนั้นมีช่องว่างตรงกลาง และที่ด้านก็ในมีเข็มทองคำเล่มเรียวเล็กอยู่หลายเล่ม

หลินเมิ่งหวันไม่รอช้า นางหยิบเข็มทองคำออกมาและฝังเข็มลงไปตามจุดฝังเข็มบนคอและมือของชายชุดน้ำเงินผู้นี้

ทุกคนได้แต่มองตาค้าง

แต่ไหนแต่ไรได้ยินมาว่าคุณหนูบุตรีของเอกภรรยาจวนหลินซ่างซูรู้เรื่องการแพทย์ ไม่ด้อยไปกว่าลูกพี่ลูกน้องอย่างฉินลั่วเฟิงซึ่งเป็นที่รู้จักในฐานะหมอเทวดาเลย

ทว่าคนที่เคยเห็นทักษะทางการแพทย์ของหลินเมิ่งหวันกลับมีเพียงไม่กี่คนเท่านั้น

หลินเมิ่งหวันในภาพจำของทุกคนเป็นเพียงคนโง่เขลาและเย่อหยิ่งจองหอง ไม่ทำอะไรตามกฎเกณฑ์ เอาแต่ตามตื๊อหลี่จิ่นซูอย่างไม่รู้จักยางอาย วางแผนบ้าๆ พยายามจะแต่งงานกับเขา

แคว้นตงเยว่มีธรรมเนียมที่เปิดกว้าง สำหรับเรื่องใหญ่อย่างการแต่งงาน นอกจากจะขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของพ่อแม่และแม่สื่อ ก็ยังพิจารณาตามความคิดเห็นของลูกๆ ด้วย

ทว่าในฐานะสตรีคนหนึ่ง การคบหาอย่างสนิทชิดใกล้กับผู้ชายก็ยังเป็นเรื่องที่ดูไม่ค่อยดีนัก

ยิ่งไปกว่านั้นหลินเมิ่งหวันยังเป็นเสียอย่างนั้น

ดังนั้นทุกคนจึงค่อนข้างดูถูกหลินเมิ่งหวัน

ทว่าเมื่อเห็นหลินเมิ่งหวันตรวจชีพจรและฝังเข็มอย่างรวดเร็ว ด้วยสีหน้าที่ทั้งจริงจังและเยือกเย็น ทุกคนจึงอดถอนหายใจด้วยความแปลกใจไม่ได้

หลินเมิ่งหวันแตะที่ข้อมือของชายชุดน้ำเงินอีกครั้ง ในเวลาเดียวกันหมอก็รีบวิ่งเข้ามาหา

ในชาติก่อนหลินเมิ่งหวันถูกฉู่โม่หยวนจองจำอยู่ในจวนเพราะหนีการแต่งงาน เมื่อถูกปล่อยตัว ฉีเยี่ยนก็เข้ามาอยู่ที่เมืองหลวงแล้ว

หลินเมิ่งหวันจำได้อย่างเลือนรางว่าในชาติก่อน ฉีเยี่ยนได้รับบาดเจ็บทันทีที่เข้ามาในเมืองหลวง ต้องพักรักษาตัวอยู่นานกว่าจะหาย

แต่นางไม่รู้เลยว่าในที่สุดฉีเยี่ยนจะถูกทำร้ายในงานแข่งขันโปโลครั้งนี้ ทั้งยังถูกวางยาพิษอีกด้วย

นอกจากนี้ในชาติก่อน ฉินจิ้งเจาก็ไม่ได้เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย

เหตุใดตอนนี้ถึงมีคนกล่าวหาว่าฉินจิ้งเจาเป็นคนทำร้ายฉีเยี่ยน จนทำให้ฉีเยี่ยนตกจากหลังม้า

คิ้วของหลินเมิ่งหวันขมวดเป็นปม รู้สึกกระวนกระวายใจอย่างบอกไม่ถูก

“คุณหนูหลิน”

เสียงที่อ่อนโยนของใครคนหนึ่งดังกระทบโสตประสาท หลินเมิ่งหวันได้สติและเงยหน้ามอง จากนั้นจึงเห็นสตรีที่แต่งกายอย่างดงามคนหนึ่งกำลังเดินเข้ามาหา

หลินเมิ่งหวันรีบลุกขึ้นทักทาย สตรีผู้นั้นรีบก้าวเข้ามาตรงหน้าหลินเมิ่งหวันและจับมือนางไว้ทันที

หลินเมิ่งหวันจำคนผู้นี้ได้ นางรีบถอนสายบัวอย่างนอบน้อมและบอกว่า “คารวะแม่นางอู๋”

แม่นางอู๋พยักหน้ารับ นางตบมือของหลินเมิ่งหวันเบาๆ และเอ่ยอย่างซาบซึ้งว่า “คุณหนูหลินไม่ต้องพิธีรีตองหรอก วันนี้ต้องขอบคุณคุณหนูเป็นอย่างมาก”

“วันนี้ข้าตั้งใจจัดงานแข่งขันโปโลเพื่อช่วยเซียงอ๋องซื่อจื่อเลี้ยงต้อนรับแขก และก็เพื่อให้เซียงอ๋องซื่อจื่อได้มองหาสตรีสูงศักดิ์จากเมืองหลวง แต่ไม่เคยคิดเลยว่าจะเกิดอุบัติเหตุเช่นนี้ วันนี้โชคดีที่มีเจ้าอยู่ ไม่เช่นนั้นคงกลายเป็นเรื่องใหญ่แน่ ไม่กี่วันหลังจากนี้ข้าจะไปเยี่ยมเยียนเพื่อขอบคุณเจ้าด้วยเองนะ”

แม่นางอู๋มองหลินเมิ่งหวันอย่างซาบซึ้งใจ และอันที่จริงก็ยังนึกกลัวเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้น ฉีเยี่ยนมีฐานะสูงส่ง หากเขาต้องเสียชีวิตในงานแข่งขันโปโลที่นางจัดขึ้นจริงๆ แม้ว่าคนลงมือจะไม่ใช่นาง แต่นางก็ต้องเข้ามาเกี่ยวพันอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

โชคดีที่มีหลินเมิ่งหวันอยู่ด้วย ฉีเยี่ยนจึงไม่ได้เป็นอันตรายร้ายแรง

หลินเมิ่งหวันรีบบอกว่า “แม่นางอู๋ไม่ต้องเกรงใจหรอกเจ้าค่ะ ทั้งหมดล้วนเป็นสิ่งที่ข้าควรทำทั้งนั้น”

หลินเมิ่งหวันเม้มปากและเอ่ยตามความเป็นจริงว่า “อันที่จริง มันเป็นหน้าที่ของคนเรียนหมออยู่แล้วที่ต้องรักษาและช่วยชีวิตผู้คน ยิ่งไปกว่านั้นเรื่องในวันนี้พี่ของข้ายังถูกลากเข้ามาเกี่ยวข้อง ดังนั้นข้าจึงยิ่งนิ่งเฉยไม่ได้ ด้วยเหตุนี้ข้าจึงลงมือช่วยชีวิตเซียงอ๋องซื่อจื่อ ทั้งหมดเป็นแค่ความเห็นแก่ตัว แม่นางอู๋ไม่จำเป็นต้องขอบคุณข้าเลย”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ภพนี้ตราบภิรมย์รัก