กลางดึกคืนหนึ่ง รถยนต์ลินคอล์น เอสยูวีสีดำคันหนึ่งกำลังขับตรงไปยังคฤหาสน์หลังใหญ่ดีไซน์หรูหรา ในย่านชานเมืองอันมั่งคั่งที่สุดของเมือง
ภายในคฤหาสน์หลังนั้น
ผ้าไหมผืนหนึ่งปกปิดดวงตาของเบียงก้า เรย์นอยู่
ชายหนุ่มคนนั้นไม่ต้องให้เธอรู้ว่าเขาเป็นใคร
“อย่ากลัวไปเลยนะ หายใจเข้าลึก ๆ ”
“เธอทำได้ เบียงก้า ไม่มีอะไรสำคัญไปกว่าการปลูกถ่ายตับเพื่อให้คุณพ่อมีชีวิตอยู่ไปได้ ถือว่าเป็นการเสียสละเล็กน้อยเพื่อพ่อก็ได้นะ”
เสียงรถเคลื่อนตัวเข้าใกล้คฤหาสน์มากยิ่งขึ้น สิ่งนี้ทำให้เธออยู่สุขแม้แต่วินาทีเดียว
เมื่อถึงจุดนี้แล้ว สิ่งที่เธอสามารถทำได้คือการพูดกับตนเอง ให้กำลังใจและปลอบประโลบไปพร้อมกัน
ทันทีที่ลุค ครอว์ฟอร์ดปรากฏกายตรงหน้า ชายหนุ่มคนนั้นช่างสูงสง่า เขาพลันชายตามองเบียงก้าซึ่งกำลังเดินเข้ามาในห้องของเขา เธอยังเป็นเพียงหญิงสาว และเหมือนเพิ่งจะแตกเนื้อสาว
“สวัส…สวัสดีค่ะ…” เธอสัมผัสได้ว่าร่างกายของชายหนุ่มย่าวก้าวเข้ามาเธอทีละน้อย แม้ว่าทัศนวิสัยของเธอจะมืดมิด แต่เธอก็ก้าวถอยหลังตามสัญชาตญาณ เสียงทักทายของเธอตะกุกตะกักอย่างเด่นชัด
เธอตระหนักได้ว่าช่วงสองถึงสามวันที่ผ่านมา เธอได้เตรียมใจและละทิ้งทุกความสับสนไปหมดแล้ว ดังนั้นความเขินอายของเธอมลายหายไปสิ้น ในที่สุดเวลานี้ก็มาถึงเสียที ทว่า เธอกลับกดความรู้สึกหวาดกลัวไปไม่ได้ ช่างน่าสมเพชเหลือเกิน
เธอต้องการหายไปจากตรงนี้เหลือเกิน
ลุคไม่รู้ว่าสิ่งที่เขาทำในคืนนี้นั้นถูกต้องรึเปล่า ทว่า เขารู้ดีว่าก่อนที่จะถึงวันเกิดปีหน้า เขาจำเป็นต้องหาคู่ครองและมีลูกสักคน เพราะนั่นคือสิ่งที่ผู้อาวุโสครอว์ฟอร์ดเรียกร้อง
ลุคมองลงมายังร่างเล็ก ๆ และบอบบางของเด็กสาว "เธอกลัวอะไรอย่างนั้นเหรอ?"
น้ำเสียงของชายผู้นั้น ฟังดูอ่อนหวาน ทุ้ม และชวนฝัน
เบียงก้าตกใจเล็กน้อย ‘ทำไมน้ำเสียงของเขายังดูหนุ่มและน่าฟังขนาดนี้ล่ะ? ชายวัยกลางคนจะมีเสียงอันน่าหลงใหลแบบนี้ได้ยังไงกัน?’
“ฉันไม่ได้เป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ และก็ไม่ได้เป็นโรคอย่างพวกเห็นหุ่นผู้หญิงแล้วเกิดอารมณ์ขนาดนั้นด้วย” น้ำเสียงของชายหนุ่มนั้นทุ้มและนิ่มนวล ดูเหมือนเขาตั้งใจจะปลอบโยนเธอ
เขามั่นใจว่าเธอไม่ได้เขินอายแต่อย่างใด ไม่สิ เธอหวาดกลัวเขาต่างหาก
ก่อนที่เธอจะเรียกสติกลับมาได้ เสียงของชายคนนั้นก็ดังขึ้นต่อ “เอาล่ะ เริ่มกันเถอะ”
ชายคนนั้นเอ่ยอย่างไร้ความอบอุ่น ราวกับว่าเขากำลังกล่าวประกาศเริ่มต้นการประชุม น้ำเสียงช่างเอาจริงเอาจังอย่างน่าประหลาด
วินาทีถัดมา อ้อมแขนของเขาพลันเข้ามาอุ้มเธอขึ้น!
….
นี่เป็นครั้งแรกที่เบียงก้าถูกผู้ชายอุ้มเช่นนี้ หัวใจของเธอก็แทบจะหยุดเต้น
“ถ้าเจ็บ ก็ช่วยบอกให้ผมช้าลงกว่านี้นะ!” ลุคเอ่ยอีกครั้ง เขาคิดว่าการกล่าวเตือนเธอก่อนจะทำให้เขาดูอ่อนโยนกับเธอมากยิ่งขึ้น
แต่เบียงก้ากลับตื่นกลัวมากกว่าเดิม
เขาเอื้อมมือไปคว้าตัวเธอ
เธอถอยออกห่างจากตัวเขา
“อย่าหนีสิ!” ชายคนนั้นตะเบงรุนแรงมากเสียจนลูกกระเดือกของเขาเด่นชัดออกมา เขาพลันคว้าข้อมืออันเรียวงามและดึงเธอเข้ามาสวมกอด และกล่าวเตือนออกไปด้วยน้ำเสียงทุ้ม “อย่าหันหลังกลับไปเลยนะ”
เบียงก้าไม่กล้าแสดงกิริยาดื้อดึงอีก นั่นเป็นเพราะว่าคำพูดของเขาทำให้ใบหน้าของเธอกลายเป็นสีแดงระเรื่อ
ณ ขณะนั้น หากเขาเป็นชายหนุ่มสุดหล่อเหลาและร่ำรวย ทำไมเขาถึงต้องจ่ายค่าเลี้ยงดูให้เด็ก
และผู้หญิงธรรมดา ๆ อย่างเธอด้วย?
เป็นไปได้ไหมว่าจริง ๆ แล้ว…เขาอาจจะอัปลักษณ์?
"ฉันมีคำถามหนึ่งคำถามค่ะ"
"ว่ามา" เสียงของชายผู้นั้นเต็มไปด้วยความร้อนรน และมืออันอบอุ่นของเขาก็ปลดเสื้อผ้า
ของเธอออกด้วยความเร่งรีบ
“มันควรที่จะเป็นไปตามกระบวนการทำเด็กหลอดแก้วสิคะ แล้วทำไม… จู่ ๆ คุณถึงอยากทำในแบบธรรมชาติละคะ?” นั่นเป็นคำถามที่กวนใจของเธอเป็นอย่างมาก
ลมหายใจอันอบอุ่นของชายคนนั้น เป่าเข้ามาที่หน้าผากของเธอ
ทันทีทีเอ่ยถามเช่นนั้นออกไป เธอพลันตื่นตกใจกับลมหายใจของเขา
เสียงครางเล็กแหลมของเธอแปรเปลี่ยนอารมณ์บางอย่างในน้ำเสียงของลุคไป เขาตอบกลับ “ฉันไม่อยากสูญเสียโครโมโซมไปแม้แต่ตัวเดียว ดังนั้นถ้าเราตัดเรื่องคนกลางออกไป มันคงจะดีกว่ามากเลยแหละ เธอยอมรับเหตุผลแบบนี้ได้รึเปล่าล่ะ?”
วินาทีถัดมา เขาใช้มืออันใหญ่โตของเขาบีบเธอแน่น!
"โอ๊ย…"
เธอส่ายหัวและสาปแช่งตัวเองอยู่ภายในใจ ว่าตัวเธอเองน่ารังเกียจจริง!
‘เบียงก้า นับตั้งแต่วันนี้ เธอไม่สมควรที่จะชอบเขาอีกต่อไป!’
…
เธอเอาแต่ขังตัวเองอยู่ภายในห้อง
คืนนั้น เบียงก้าได้รับข้อความ
ผู้ชายคนนั้นจะมาที่นี่อีกครั้ง
เฟย์ค่อนข้างประหลาดใจ นายน้อยเพิ่งมาที่นี่เมื่อคืนนี้ แล้วทำไมคืนนี้ เขาถึงกลับมาอีกที่นี่อีก?
คฤหาสน์วุ่นวายจนแทบจะระเบิด พวกเขาต้องเตรียมทุกสิ่งทุกอย่างให้พร้อมโดยเร็วที่สุด!
เบียงก้ารู้สึกเหมือนว่าร่างกายกำลังพังทลาย แต่เธอไม่ได้อยู่ในจุดที่สามารถเรียกร้องอะไรจากสถานการณ์เช่นนี้ได้เลย
ลุคสวมใส่กางเกงขายาวสีดำดูดีมีระดับและสวมเสื้อเชิ้ตสีขาว หลังจากที่เขาเดินเข้าไปในคฤหาสน์ เขาก็ตรงดิ่งไปที่ห้องนอนที่เบียงก้าพักอยู่
เธอไม่กล้าพูดอะไร ยิ่งไปกว่านั้น เธอแทบไม่กล้าหายใจ ภายในห้องนั้นเงียบมาก ถึงขั้นที่หากมีเสียงเข็มหมุดหล่นกระทบพื้น คงดังกึกก้องอย่างแน่นอน!
ลุคถือเสื้อคลุมในมือขวา ยกมือซ้ายขึ้น ดวงตาของเขาจับจ้องไปยังหญิงสาวที่ถูกปิดตาอย่างมิดชิด จากนั้น เขาก็เอาฝ่ามือใหญ่ของตนแตะบริเวณหลังคอของเธอ และดึงเข้าหาเขาอย่างนุ่มนวล จนร่างกายเธอแนบชิดกับร่างเขา!
เบียงก้าสะดุด ตัวแข็งทื่อไปหมด และเธอกลั้นหายใจ และไม่กล้าขยับร่างกายแม้แต่นิด!
ลุคก้มหน้าลงมองหญิงสาวในอ้อมกอดของเขา เขาเกร็งลำคอและเม้มริมฝีปากอันบางเบา สายตาของเขาจ้องไปที่ใบหน้าอันขาวผ่องซึ่งเล็กจ้อยเท่าฝ่ามือของเขาเท่านั้น
ดวงตาของเขาร้อนแรงขึ้นทีละน้อย สายตาของเขาร้อนรุ่ม ขณะที่สายตาคู่นั้นเคลื่อนลงต่ำลง
อย่างช้า ๆ เขาก็จ้องมองริมฝีปากอันอ่อนโยนของเธอ…
ถึงกระนั้น มีสัญญาข้อหนึ่งที่ระบุไว้อย่างชัดเจนว่า ห้ามจูบ
ให้ตายสิ เขาเริ่มที่จะเสียใจกับเงื่อนไขข้อนั้นซึ่งเขาตั้งเองเสียแล้ว!
“มาเริ่มกันอีกครั้งเถอะ” ชายคนนั้นพูดด้วยน้ำเสียงแหบแห้ง เขาโยนเสื้อคลุมทิ้งไป และปิดไฟในขณะที่อุ้มเธอขึ้นมาในอ้อมแขน
ในความมืด เธอขมวดคิ้วและปากก็กัดหมอนแน่น! เธอไม่กล้าเปล่งเสียงแม้แต่นิดเดียว!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พราวกลิ่นบุปผาตัณหารัก