อีวอนน์กำลังสาละวนอยู่กับความคิดที่ยุ่งเหยิงอยู่ในหัว
ในบรรดาหนุ่มโสดผู้มีฐานะทั้งหลายในเมืองเอนี้ คิดว่าใครที่จัดการได้ยากที่สุดล่ะ? ไม่ใช่พวกเจ้าชู้หรือพวกมากรักพวกนั้นหรอก แต่เป็นลุค ครอว์ฟอร์ดที่แสนเย็นชาและไม่ไยดีเธอแม้สักนิดต่างหาก
โดยเฉพาะตอนที่มีเรื่องผู้หญิงเข้ามาเกี่ยว ลุคก็ยิ่งไม่ไยดีใครหน้าไหนทั้งนั้น
อีวอนน์ยอมรับว่าเธอมีโอกาสได้ใกล้ชิดกับเขาหลายต่อหลายครั้ง แต่หลังจากผ่านไปหลายปี ทั้งเขาและเธอได้กลายเป็นเพียงคนแปลกหน้าของกันและกันไปเสียแล้ว
แต่อีวอนน์ก็ไม่ได้รู้สึกว่ามันน่าอายตรงไหน เพราะกับผู้หญิงคนอื่น ลุคก็ทำเช่นนี้กับพวกเธอเช่นกัน
มีเพียงเบียงก้า เรย์นที่ต่างออกไป เพราะดูเหมือนว่าลุคจะมีใจให้เธอ
อีวอนน์ไม่เห็นเข้าใจว่าทำไมลุคถึงไปชอบผู้หญิงบ้าน ๆ อย่างเบียงก้าได้ แต่ไม่ว่าเบียงก้าจะใช้วิธีไหนในการมัดใจลุค อีวอนน์ก็รู้แก่ใจว่าอย่างไรก็ต้องกำจัดเบียงก้าไปให้พ้นทาง
เธอปรารถนาจะทำให้เบียงก้าเป็นผู้หญิงที่สกปรกไปทั้งตัวและหัวใจ
ถ้าหากเบียงก้าได้ตบแต่งไปกับพวกยากจนข้นแค้น และต้องทนทุกข์ทรมานราวกับตกนรกทั้งเป็น อีวอนน์คงจะรู้สึกดีใจมาก แต่นั่นก็เป็นเพียงเรื่องไร้สาระเรื่องหนึ่งเท่านั้น
ตระกูลของซาเวียร์นั้นก็ร่ำรวยและมีอิทธิพลอยู่บ้างเหมือนกัน ถ้าวันหนึ่งเบียงก้าได้แต่งงานเข้าตระกูลแทนเนอร์ เธอจะต้องทำตัวเป็นภรรยาที่แสนดีและอยู่ในโอวาทซึ่งคอยทำตามหน้าที่ของภรรยา ทำตัวว่านอนสอนง่ายเชื่อฟังสามีและคนในตระกูล
จากนั้นเบียงก้าก็จะไม่มีสิทธิ์มายั่วยวนลุคได้อีก
ยิ่งไปกว่านั้น ซาเวียร์กับลุคยังเป็นลูกพี่ลูกน้องกันอีกด้วย
ถ้าเบียงก้าเกิดไปยั่วยวนลูกพี่ลูกน้องของสามีตัวเองมาก ๆ เข้า ก็คงจะเกิดเรื่องขึ้นแน่
สถานะของซาเวียร์ไม่ต่างจากกรงที่สามารถกักขังเบียงก้าเอาไว้ไม่ให้เธอเข้าใกล้ลุคจนเกินควร
ถ้าหากว่าเบียงก้าถูกจับได้ว่าตั้งใจทำเรื่องอย่างนั้นแม้แต่เพียงเรื่องเดียว เบียงก้าก็จะมีความผิดฐานเล่นชู้และถูกตราหน้าว่าเป็นคนไร้ยางอาย
ยิ่งอีวอนน์คิดถึงเรื่องนี้มากขึ้นเท่าไหร่ เธอก็ยิ่งเห็นด้วยว่ามันคือแผนการที่แสนสมบูรณ์แบบ!
...
ณ จัตุรัสใจกลางเมือง
ลุคขับรถออกจากถนนหน้าคฤหาสน์เข้าสู่ถนนไฮเวย์
รถยนต์ด้านหน้าของลุค คือรถของตระกูลแทนเนอร์ที่กำลังใช้ความเร็วคงที่กำลังตามหลังเบียงก้าอยู่
ลุคเร่งความเร็ว แล้วหักพวงมาลัยเลี้ยวกลับไปหยุดอยู่ด้านหน้า
รถของครอบครัวแทนเนอร์หยุดลงในทันที คนขับลดกระจกลงแล้วเอ่ยถามด้วยความเคารพ “คุณครอว์ฟอร์ดครับ คุณมาทำอะไร…”
“นายไม่จำเป็นต้องตามเธอต่อไปแล้วล่ะ ฉันผ่านทางนี้พอดี เดี๋ยวฉันไปส่งเธอเอง” ลุคมองไปที่คนขับรถของตระกูลแทนเนอร์ด้วยแววตาลุ่มลึก
คนขับรถของตระกูลแทนเนอร์ได้รับคำสั่งมาจากซาเวียร์ เขาอธิบายว่าเบียงก้าไม่ยอมให้นายท่านซาเวียร์มาส่งเธอ ทั้งยังยืนกรานว่าจะออกไปเรียกแท็กซี่ด้วยตัวเธอเองอีกด้วย ด้วยความที่นายท่านซาเวียร์ไม่อยากให้เธออึดอัดหรือรู้สึกโกรธเขา เขาจึงยอมเชื่อฟังแต่โดยดีแล้วส่งคนขับรถตามเบียงก้ามาเพื่อความปลอดภัยของเธอ
การดูแลความปลอดภัยของเบียงก้าด้วยวิธีนี้ช่างน่าปวดหัวเสียจริง
ตอนอยู่ที่บ้าน นายท่านซาเวียร์บอกว่า “ถ้าเธอขึ้นแท็กซี่ไปแล้ว นายต้องตามเธอไปจนกว่าเธอจะถึงบ้านอย่างปลอดภัย”
นายท่านซาเวียร์พูดเหมือนกับว่าคนขับแท็กซี่ไม่มีใครดี
“ได้สิครับ ขอโทษที่ต้องรบกวนคุณด้วยนะครับ คุณครอว์ฟอร์ด” คนขับรถของตระกูลแทนเนอร์คิดว่าคุณครอว์ฟอร์ดนั้นสนิทกับนายท่านซาเวียร์อยู่แล้ว เรื่องแค่นี้คงจะไม่เป็นอะไร ถึงจะไม่ใช่พี่น้องแท้ ๆ แต่คนทั้งคู่ก็มีสายเลือดที่ใกล้ชิดกัน
ถ้าญาติของเขาเป็นคนไปส่ง นั่นก็น่าจะปลอดภัยไม่ต่างกัน
หลังแยกจากคนขับรถของตระกูลแทนเนอร์ได้แล้ว ลุคขับรถตรงไปยังร่างบางที่ยืนอยู่ข้างถนน
เมื่อเบียงก้าได้ยินเสียงแตรจากทางด้านหลัง เธอก้มหน้าลงแล้วขยับไปข้าง ๆ เพื่อหลีกทางให้โดยที่ไม่ได้หันมามอง หัวใจของเธอนั้นว้าวุ่นเกินไป
เสียงแตรรถดังขึ้นอีกครั้ง
เขาเปิดประตูออกแต่ยังจับข้อมือของเบียงก้าแน่นราวกับไม่มีทีท่าจะปล่อย เขาดึงเธอมาข้างรถ ขณะเดียวกับที่มองหากล่องทรงประณีตที่เขาเก็บไว้ในรถ มันคือกล่องเนคไทที่ดูมีราคาแพง
เขาเปิดกล่องนั้นออกแล้วหยิบเอาเนกไทสีเทาอ่อนใหม่เอี่ยมมามัดมือเบียงก้าไว้จากด้านหลัง
“ลุค นี่คุณเป็นบ้าไปแล้วรึไง?!” ตาของเบียงก้าเปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำเพราะความตระหนก นี่มันครั้งที่สองแล้วที่เขามัดเธอเช่นนี้
ลุคไม่แยแสต่อเสียงร่ำร้องของเธอ เขาโยนกล่องเนกไทที่บัดนี้ไร้ประโยชน์แล้วลงถังขยะที่ตั้งอยู่ข้างถนนซึ่งไม่มีใครใช้มาเป็นชาติแล้ว
นี่เป็นเนกไทที่ป้าของเขาเป็นคนให้มา
จากนั้น เขาก็จัดแจงเอาผ้าเช็ดหน้าผืนสะอาดยัดปากเธอไว้
เบียงก้าทำได้เพียงแค่ส่ายศีรษะและขยับขาไปมาเท่านั้น เธอไม่เหลือหนทางให้ต่อต้านได้อีก
“ส่ายหัวงั้นเหรอ? หมายความว่ายังไง? คุณยอมรับว่าตัวเองเป็นคนผิดเองไม่ใช่รึไง? คุณบอกว่าคุณจะไม่ยั่วยวนซาเวียร์ไม่ใช่เหรอ? คุณพูดว่าคุณจะไม่นอกใจผมไปหาญาติของผมแบบนี้ไม่ใช่รึไง? คุณพยายามจะพูดอะไรกันแน่?” ลุคกำลังรัวคำถามใส่เธอไม่ยั้ง
ปากของเบียงก้ามีผ้าเช็ดหน้ายัดไว้ แต่อย่างไร คงจะบอกว่าสิ่งนี้คือผ้าเช็ดหน้าคงเรียกไม่ได้เต็มปากนักเพราะว่ามันมีลักษณะที่แตกต่างออกไป ตามปกติแล้วผ้าพื้นน้อยลักษณะเช่นนี้มีแค่คนมีฐานะหรือพวกมีชาติมีตระกูลอย่างลุคเท่านั้นที่ใช้
เบียงก้าพยายามขยับปากไปมา แต่ก็ไม่สามารถคายผ้าที่อยู่ในปากออกได้
ในตอนนั้นเอง โทรศัพท์ของเบียงก้าสั่น
มือใหญ่โตของลุคล้วงเข้าไปในกระเป๋าของเธอแล้วหยิบโทรศัพท์มือถือออกมา
เบรย์เดนส่งที่อยู่ของร้านอาหารที่พวกเขาจองเอาไว้ แล้วส่งข้อความมา ‘ของหวานร้านนี้รสชาติดีนะ ผมหาอยู่ตั้งนานกว่าจะเจอที่นี่ ผมได้ยินมาว่าพวกผู้หญิงชอบไปที่นั่นกัน ก็เลยคิดว่าคุณก็น่าจะชอบเหมือนกัน’
บรรยากาศที่แผ่ออกมาจากร่างของลุคนั้นเย็นยะเยือก ราวกับมีพายุก่อตัวอยู่ในใบหน้าอันคมเข้มของเขา
มือใหญ่โตได้รูปของเขาจับเข้าที่ปลายคางของเบียงก้า ก่อนจะเชยคางเธอขึ้น ความหวาดกลัวฉาบอยู่ในแววตาของเธอที่บัดนี้เงยมองใบหน้าอันหล่อเหลาได้รูปและแสนเย็นชาของลุค
“แล้วนี่คนรักของคุณเขารู้รึเปล่าว่าคุณกำลังตั้งท้องลูกของผมอยู่?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พราวกลิ่นบุปผาตัณหารัก