พราวกลิ่นบุปผาตัณหารัก นิยาย บท 16

ฌองรู้ว่าเบียงก้าเองก็รักเขา และยังรู้ว่าเธอไม่ได้รักเขาเท่าที่เขารักเธออีกด้วย

เพื่อให้การขอแต่งงานครั้งนี้ไม่มีอะไรผิดพลาด เมื่อเขาตัดสินใจที่จะขอเธอแต่งงานในตอนเที่ยงนั้น ฌองจึงขอให้พ่อและแม่ของเขาเชิญคนในครอบครัวมาด้วยกัน

สมาชิกในครอบครัวกว่าสิบชีวิตทั้งแก่และเด็กเบียดเสียดรวมกันอยู่ที่นี่

หลังจากที่เบียงก้าเดินตามครอบครัวแลงดอนขึ้นไปที่ชั้นบน เธอยืนนิ่งไปในทันทีที่พวกเขาเปิดประตู...

ในตอนนั้น นีน่าจ้องมองญาติ ๆ ของตัวเองที่กำลังเบียดเสียดกันอยู่ในบ้านราวกับเห็นผี

“มาแล้ว เธอกลับมาแล้ว!” น้าเล็กของฌองตะโกนทันทีที่เห็นเบียงก้ายืนอยู่หน้าประตู เบียงก้าในตอนนี้คือคนเดียวกับหญิงสาวในรูปที่เธอเคยได้เห็น ผู้หญิงที่มีอายุมากกว่าคว้าเอาแขนแม่ของตัวเองไว้แล้วพูด “นั่นแฟนสาวของฌองค่ะ เบียงก้า เรย์น เธอยืนอยู่ตรงประตูนั่นค่ะ! ตายแล้ว ตัวจริงสวยมากเลยนะคะ มาค่ะ ไปดูกันค่ะแม่...”

เบียงก้าถึงกับพูดไม่ออก

“เข้ามาสิ” ฌองมองเบียงก้าด้วยแววตาอ่อนโยน เขาจูงมือเธอ

เบียงก้าต้องฝืนยิ้มให้กับญาติของฌองตามมารยาท คุณย่าของฌองไม่ยอมปล่อยมือจากเบียงก้าด้วยซ้ำ เธอจับมือของเบียงก้าไว้แล้วตบเบา ๆ เวลาที่เธอพูดกับเบียงก้า

เบียงก้ารู้สึกสังหรณ์ใจอย่างไรชอบกล

เบียงก้าสอดส่ายสายตาเพื่อมองหาฌอง ก่อนจะพบว่าเขากำลังสูบบุหรี่อยู่ที่ริมระเบียง มือข้างหนึ่งของเขาล้วงไปในกระเป๋า เขาดูเครียดราวกับมีบางสิ่งหนักอึ้งอยู่ภายในใจ

อาหารค่ำคืนนี้ดูหรูหรามาก

“อาหารคืนนี้วิเศษมากจริง ๆ ดีกว่าอาหารช่วงปีใหม่ด้วยซ้ำไป…” นีน่ากล่าว

ปู่ย่าของฌองนั่งร่วมโต๊ะกับพ่อแม่อยู่ที่โต๊ะหลัก

ฌองและเบียงก้าพากันมานั่งตาม

ฝูงชนพากันนั่งลงที่โต๊ะของตัวเอง

ระหว่างรับประทานอาหาร พวกเขาพูดคุยเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ด้วยกัน

เบียงก้าเกือบจะรับประทานจนอิ่ม เธอทำท่าจะวางช้อนส้อมในมือลง ในตอนนั้นเองที่ฌองมองตาเธอแล้วพูดขึ้น “มากับพี่หน่อยสิ”

ฌองและเบียงก้าเดินเข้าไปในห้องนอนเล็กด้วยกัน

ห้องนอนของฌองนั่นเอง

“มีอะไรคะ?” เธอถามด้วยน้ำเสียงอันแสนอ่อนโยนราวกับแสงอันอบอุ่นในยามสาย

สายตาของฌองที่มองไปยังเบียงก้านั้นแน่วแน่ทว่าอ่อนโยน เขาจับมือของเธอ แล้วพูดด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ “พี่ขอโทษสำหรับเรื่องเมื่อเช้า เป็นความผิดของพี่เอง”

“ไม่เป็นไรค่ะ ฉันไม่ได้โกรธเรื่องนั้นแล้ว”

นั่นเป็นคำตอบของเบียงก้า

“ขอบคุณนะ ขอบคุณที่เธอเข้าใจในความกังวลของพี่” ฌองเข้าไปดึงเธอมากอดไว้ เขาหลับตาแล้วพูดเสียงอ่อน “เธอไม่รู้หรอกว่าพี่กลัวที่จะเสียเธอไปมากแค่ไหน”

เบียงก้าได้แต่เงียบ

ฌองยังพูดต่อ “เธอรู้ไหมว่าพี่ตกหลุมรักเธอตั้งแต่แรกเห็น ตกหลุมรักตั้งแต่วินาทีแรกที่เธอก้าวเท้าเข้ามาในบ้านของพี่ ตอนนั้นเธอยังเป็นแค่นักเรียนมัธยมอยู่เลยด้วยซ้ำ ความรู้สึกพี่บอกว่ามันบาปที่ไปคิดอะไรกับเด็กนักเรียนอย่างนั้น พี่พยายามที่จะไปรักคนอื่นแล้ว แต่ไม่เคยรู้สึกกับใครแบบเธอแม้แต่คนเดียว พี่ได้แต่หวังให้เธอเติบโตขึ้นอย่างเงียบ ๆเท่านั้น”

“แล้วในที่สุดเธอก็โตขึ้น แถมเรายังได้ไปเรียนต่างประเทศด้วยกันอีก”

“ตอนที่เธอเข้ามาทำความสะอาดแล้วเล่าแผลใจในอดีตให้พี่ฟัง บอกตามตรงว่าพี่เสียใจกับเรื่องนั้นมาก…”

เมื่อเธอได้ยินที่ฌองพูด ร่างกายของเธอเริ่มสั่นน้อย ๆ

ทันใดนั้น เขาก็นึกขึ้นได้

“ฟังพี่นะ” ฌองสวมกอดเบียงก้าแบบหลวม ๆแล้วพูดต่อ “พี่ไม่ได้รู้สึกแย่เพราะเธอไม่บริสุทธิ์หรอกนะ แต่พี่โกรธตัวเอง พี่โกรธตัวเองที่ไม่ได้ก้าวเข้าไปในชีวิตของเธอตั้งแต่แรก พี่เกลียดที่ดูแลเธอให้ดีเท่าที่ควรไม่ได้ จนปล่อยให้เธอต้องทุกข์ทรมาณแบบนั้น”

“เบียงก้า เธอก็รู้นี่ว่าไม่มีใครที่รักเธอมานานเท่าพี่ ไม่มีใครมั่นคงกับเธอเท่าพี่อีกแล้ว”

เป็นเพราะฌองกลัวจะเสียเบียงก้าไป เสียงสะอื้นของเขาจึงแปรเปลี่ยนเป็นความละล่ำละลักที่จะพูดแทน

เบียงก้ารู้สึกสะท้อนใจ

หัวใจของเธอค่อย ๆ รู้สึกอบอุ่นขึ้น

ในที่สุดคำอธิษฐานของเธอก็เป็นจริง มีคนที่รักเธอจนหมดหัวใจเสียที

เธอพยายามอย่างหนักที่จะลืมเรื่องราวในอดีตที่ผ่านมา ชายผู้ร่ำรวยและทรงอำนาจคนนั้นก็คงจะคิดเหมือนกัน

เธอไม่มีทางเลือกอื่นเลย

นับจากวันที่เธอตอบตกลงที่จะคบกับฌอง เบียงก้ารู้ดีว่าเหตุการณ์ไม่คาดฝันนั้นจะทำให้เธอกับฌองต้องแต่งงานกัน

เบียงก้าอยู่พูดคุยกับปู่และย่าของฌองจนเลยเวลาสามทุ่ม เธอถึงได้ขอตัวกลับก่อน

ฌองขับรถมาส่งเธอในระแวกบ้าน

เบียงก้าลงจากรถ

“พี่ส่งฉันที่นี่ก็พอค่ะ เดี๋ยวฉันเดินต่อไปเอง”

มีเรื่องราวมากมายขึ้นเกิดขึ้นราวกับรถไฟเหาะตีลังกา เธอต้องการเวลาเพื่อทบทวนกับตัวเองสักหน่อย

“อื้ม อย่านอนดึกนะ” ฌองไม่ได้คัดค้านอะไรเธอ

หลังจากที่ลากัน เบียงก้าได้แต่มองดูรถออดี้คิวไฟฟ์ของฌองแล่นจากไป

เพื่อนบ้านที่อยู่ติดถนนยังไม่ปิดไฟ ดังนั้นถนนทั้งเส้นจึงยังสว่างอยู่ ยังพอมีคนมาเดินออกกำลังกายอยู่รอบบ้าง

เบียงก้าเดินไปยังตึกที่เธออาศัยอยู่ เมื่อเธอเดินไปถึงหน้าประตู และกำลังควานหากุญแจในกระเป๋า เสียงของเด็กผู้ชายคนหนึ่งเอ่ยเรียกเธอ “คุณผู้หญิงครับ!”

เธอหมุนตัวหันไปตามเสียงเรียกนั้น

สิ่งที่ปรากฏเบื้องหน้าทำให้เธอหยุดชงัก

หลังเสาไฟริมถนน ปรากฏคนสองคนยืนอยู่อย่างเงียบ ๆ คนหนึ่งเป็นผู้ใหญ่ ส่วนอีกคนเป็นเพียงเด็กชายตัวน้อย

ใบหน้าคมเข้มของลุค ครอว์ฟอร์ดถูกความมืดซ่อนเอาไว้จนมิด สีหน้าปราศจากความปราณีของเขาจ้องมองเบียงก้า สายตาเย็นชาจ้องมองเธออย่างกำลังจะหมดความอดทน

ขณะเดียวกันนั้น เด็กผู้ชายที่มาด้วยกันกลับเม้มริมฝีปากราวกับจะร้องไห้ ไม่มีร่องรอยความเย่อหยิ่งอย่างที่เธอเคยเห็นมาที่โรงแรมก่อนหน้านี้เลย เด็กชายมองพ่อของเขาสลับกับเบียงก้า

“ทำไม...ทำไมพวกคุณมาอยู่ที่นี่คะ?” เบียงก้าไม่เข้าใจอย่างที่สุด

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พราวกลิ่นบุปผาตัณหารัก