เบียงก้าหมดหนทางแล้ว
ถ้าชายผู้เป็นจุดสนใจออกมาข้างนอกเช่นนี้ เขาก็อาจถูกถ่ายรูปจากฝีมือพวกนักข่าวที่มีหน้าที่จับภาพชีวิตส่วนตัวของคนมีชื่อเสียงเพื่อเต้าข่าว
แต่ถึงเขาจะอยากเปลี่ยนกางเกงก่อนกลับไปก็คงทำไม่ได้ เนื่องจากเจสันผู้เป็นดั่งนางสนองพระโอษฐ์ของลุคไม่อยู่ คนที่ไม่เคยทำงานพลาดอย่างเจสันกลับมาพลาดเอาวันนี้ แถมยังมีนัดบอดอีกด้วย
เบียงก้ารู้ดีว่าการแยกทางกับคนรักนั้นเป็นสิ่งที่เลวร้ายที่สุดของชีวิตแต่งงาน เจสันเองก็ไม่ใช่คนอายุน้อย สำหรับเขาแล้วมันคงไม่ง่ายเลยที่จะได้พบรักครั้งใหม่
ทว่าแล้วตอนนี้เธอควรทำอย่างไรดี...
เบียงก้ามองเวลาแล้วก็ได้แต่คิดไม่ตก “นี่ก็ดึกมากแล้ว ห้างสรรพสินค้าใกล้ ๆ นี่ก็คงใกล้ปิดแล้วด้วยสิ ถ้าจะให้ฉันไปซื้อกางเกงตัวใหม่ให้ ฉันเกรงว่าตัวเองคงไปไม่ทันห้างปิดแน่”
“แล้วหลังจากผมฟังคุณพูดทั้งหมดนี้แล้ว คุณกำลังจะบอกผมว่า ผมสามารถนอนค้างที่นี่กับคุณได้คืนหนึ่งแล้วค่อยกลับไปตอนเช้าถูกไหม?” หลังจากเขาเอ่ยขึ้นมาเช่นนั้น ลุคก็ไม่มองมาที่เธออีก เขาเดินออกมาจากห้องน้ำด้วยสีหน้าที่หม่นลง
เบียงก้ายืนอยู่หน้าห้องน้ำด้วยสีหน้าอันว่างเปล่า
นิ้วของเธอจับเข้าที่กรอบประตูอย่างพูดไม่ออก
เธอไม่เคยพูดสักคำว่าอยากให้เขาค้างคืนที่นี่
ยิ่งกว่านั้น เขายังแสดงสีหน้ารังเกียจออกมาอีกด้วย
บ้านเธอแย่ขนาดนั้นเลยรึยังไง?
“น้าบีคะ หนูนอนตรงไหนได้บ้างเหรอคะ?” บริเวณรอบดวงตาข้างที่ไม่ได้ถูกปิดของเรนนี่แดงไปหมดขณะเอ่ยถาม
เบียงก้าก้มหน้าลงมองใบหน้าเรนนี่แล้วอุ้มเธอขึ้นมา จากนั้นก็เดินไปที่ห้องนอน “เรามานอนที่เตียงนี้ด้วยกัน ดีไหมจ้ะ?”
“ดีค่ะ…” เรนนี่ฝังตัวเองลงในอ้อมกอดของเบียงก้าอย่างมีความสุข
ลุคเปิดเตาแก๊สเพื่อจุดบุหรี่ ลานี่ยืนอยู่ที่ห้องนั่งเล่นเพราะเขาไม่รู้ว่าตัวเองจะไปนอนที่ไหนได้
เตียงนอนของน้าบีนั้นดูเหมือนจะนอนได้เต็มที่แค่สองคนเท่านั้น
ถ้าน้าบีจะนอนกับเรนนี่ ก็หมายความว่าเขาจำต้องนอนที่ห้องอื่นใช่รึเปล่า? แต่เขาก็อยากนอนกับน้าบีด้วยเหมือนกันนี่นา
แต่ถือว่าโชคดีที่เขาไม่ใช่คนขี้ขลาดเขาเคยนอนคนเดียวมาก่อน เพราะงั้นเขาถึงไม่กลัวการต้องนอนคนเดียว
“พ่อครับ ทำไมพ่อยังอยู่นี่ล่ะ?” หลังจากเด็กชายตัวน้อยดื่มน้ำจนหมด เขาก็เดินเข้ามาในห้องครัวพร้อมแก้วในมือ ก่อนจะเขย่งเท้าเพื่อเอื้อมไปหยิบกามาเทน้ำเพิ่ม ในตอนนั้นเองที่เขาเห็นว่าพ่อยังไม่ไปไหน
ลุคหันกลับมามองลูกชายด้วยสีหน้าเคร่งขรึม
ทุกคนจะอยากให้เขากลับมากขนาดนั้นเลยเหรอ?
เด็กชายชะงักไปทันทีที่ถูกพ่อมองมาเช่นนั้น เขารินน้ำใส่แก้วแล้วเงยหน้ามองผู้เป็นพ่อ “พ่ออยากอยู่ที่นี่เหมือนกันเหรอครับ? แล้วพ่อจะนอนที่โซฟาหรือจะนอนเตียงเดียวกับผม?”
เบียงก้าอาบน้ำให้เรนนี่เสร็จแล้ว เมื่อเทียบกับอพาร์ตเมนต์สุดหรูของลุคแล้ว บ้านเช่าของเธอหลังนี้ก็ดูไม่จืดเอาเสียเลย
ที่นี่มีแค่ฝักบัวธรรมดา แถมระบบทำน้ำอุ่นชอบมีปัญหา น้ำที่ไหลจากฝักบัวจึงเดี๋ยวร้อนเดี๋ยวเย็นอยู่อย่างนั้น
“สวมเสื้อก่อนนะ จะได้ไม่เป็นหวัดเอา” ฤดูร้อนกำลังสิ้นสุดลงแล้ว และฤดูใบไม้ร่วงก็กำลังเข้ามาแทนที่ อากาศช่วงเช้าและกลางคืนนั้นเริ่มเย็นลง
เบียงก้าไม่อยากให้ลูกของเธอป่วย แต่เพราะพวกเขามาโดยไม่บอกเธอล่วงหน้า เรนนี่จึงไม่มีชุดนอนดี ๆ ใส่ และนี่ก็ดึกเกินกว่าที่จะออกไปหาซื้อชุดให้สาวน้อยแล้วด้วย เบียงก้าจึงหาได้เพียงแค่เสื้อยืดมาให้เธอใส่แทนเท่านั้น
เธอไม่ได้สระผมให้เรนนี่ เพราะกลัวว่าหยดน้ำจากผมที่เปียกจะซึมเข้าผ้าปิดตาของเรนนี่เอาได้
“ไปห่มผ้านอนได้แล้วล่ะ” เบียงก้าอุ้มเรนนี่ขึ้นไปบนเตียง แล้วจัดแจงห่มผ้าให้เธอ ก่อนจะจุมพิตลงบนหน้าผากของเด็กน้อย
เรนนี่มองเบียงก้าที่จูบหน้าผากของตนด้วยตาที่ถูกปิดไปข้างหนึ่ง เรนนี่เอ่ยเสียงหวาน “ราตรีสวัสดิ์ค่ะ น้าบี!”
เบียงก้ายากจนเกินกว่าจะมีสิทธิ์เลือก พวกที่มีรายได้ตามค่าเฉลี่ยก็ซื้อได้แค่โทรทัศน์แบบนี้ทั้งนั้นแหละ แถมโทรทัศน์นี่ก็ได้มาจากเจ้าของบ้านโดยที่เธอไม่ได้จ่ายเงินไปกับของพวกนี้ด้วยซ้ำ
เบียงก้าละความสนใจออกจากชายที่จดจ่ออยู่กับข่าว เธอจึงไปเปิดประตูห้องแล้วเดินเข้าไปเงียบ ๆ
ลานี่หลับไปแล้วเช่นกัน เขาเตะผ้าห่มออกแล้วนอนคุดคู้
แต่เพราะเขาหลับไปในเวลาไล่เลี่ยกันกับเรนนี่ จึงเป็นอันเข้าใจได้ว่าเด็กทั้งสองคนนี้มีกิจวัตรที่เคร่งครัดพอดู ต้องขอบคุณตระกูลครอว์ฟอร์ดที่ฟูมฟักเลี้ยงดูเด็กทั้งสองมาอย่างดี
หลังจากอยู่ในห้องมาพักหนึ่ง เบียงก้าก็ออกจากห้องมา
ลุคยังคงดูข่าวอยู่อย่างเดิม เบียงก้ารินน้ำให้เขาแก้วหนึ่ง แล้วพูดเพื่อทำลายบรรยากาศอันน่าอึดอัดนี้ “ดูข่าวเสร็จแล้วคุณควรไปนอนในห้องของคุณปู่นะคะ นี่ก็ดึกมากแล้วด้วย ฉันคงต้องขอตัวก่อน”
เบียงก้ารู้สึกว่าเมื่อไหร่ก็ตามที่เธอกับเขาอยู่กันตามลำพัง เธอมักจะไม่รู้ว่าควรพูดอะไรกับเขา
ลุคเงยหน้ามองเธอ ดวงตาของทั้งคู่สบประสานกัน เบียงก้าอาจจะคิดไปมากไปเองว่าเขาแอบเหลือบตามองท้องของเธอครู่หนึ่งด้วย
“ในอนาคตคุณอยากมีลูกอีกรึเปล่า?” ลุคหยิบแก้วที่เบียงก้าเพิ่งวางลงเมื่อครู่ เขาไม่ได้ยกมันขึ้นดื่ม หากแต่ทำเพียงแค่ถือมันไว้ในมือ
เบียงก้ารู้สึกสับสน เธออยากจะกลับห้องตัวเองไป แต่ก็ไม่ได้ทำเช่นนั้น เธอหันมามองลุค ก่อนจะพบว่าเขาเอาแต่เหม่อมองน้ำให้แก้ว
ทำไมเขาถึงถามเธอแบบนั้นล่ะ?
เบียงก้าได้แต่งง
แต่เธอก็กล่าวออกไปว่า “ถ้าเป็นเมื่อก่อนก็คงอยากมีแหละค่ะ… แต่อย่างแรกคือฉันต้องหาพ่อของลูกให้ได้ก่อน”
“คุณเจอคนคนนั้นแล้วรึยังล่ะ?” ลุคถาม เขาลุกขึ้นยืนตระหง่านอยู่เหนือเธอ นั่นคือภาพที่เธอเห็น ก่อนที่เขาจะคว้ารีโมตไปปิดโทรทัศน์
เบียงก้าส่ายศีรษะ “ฉันไม่อยากมีลูกอีกแล้วล่ะค่ะ” เธออยากมอบความรักทั้งหมดที่มีให้เรนนี่กับลานี่เท่านั้น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พราวกลิ่นบุปผาตัณหารัก