เมื่อผิวของเธอถูกปกคลุมไปด้วยลมหายใจร้อนระอุของชายคนนั้น เธอเกือบจะล้มลงเพราะเข่าของเธออ่อนแรงไปหมด ใบหน้าของเธอยังแดงระเรื่ออีกด้วย
เบียงก้าคิดไปเองว่าลุคกำลังจะจูบเธออีกหน
เพราะมันมักเกิดเรื่องอย่างนั้นขึ้นเสมอ
อย่างไรเสีย ผู้ชายคนนี้ก็มักคิดจะทำสิ่งนั้น
แต่คราวนี้ชายตรงหน้าไม่ได้ทำเช่นนั้น ริมฝีปากบางสัมผัสแก้มเรียบของเธอขณะที่เขาหลับตา เขาหอมแก้มเธอเป็นเวลานาน
เขาจุมพิตเนิ่นนานกว่าจะถอยห่างออกไปหลังจากที่เธอกลั้นใจ เขากล่าว “อย่าทำให้ผมเป็นห่วง ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็อย่าเก็บทุกอย่างไว้ในใจคนเดียวสิ”
เบียงก้าก้มศีรษะลง เธอไม่รู้ว่าเขากำลังพูดถึงอะไร
“ไปพักผ่อนเถอะ พรุ่งนี้เราจะเข้าเมืองไปด้วยกัน” นิ้วเรียวยาวได้รูปของลุคที่เคยเชยคางของเธอไว้หดกลับไปแล้ว การเคลื่อนไหวของเขาเชื่องช้าและดูไม่เต็มใจนัก
หลังจากทำกิจกรรมกลางแจ้งมาทั้งวัน เบียงก้าทั้งหมดแรงและปวดเมื่อยไปทั้งตัว เธออยากจะนอนหลับฝันดี แต่ถึงอย่างนั้น เธอก็สงสัยว่าเขากำลังจะไปไหน?
เมื่อเห็นว่าลุคเปิดประตูออกไป เบียงก้าได้แต่สับสนอยู่ในใจ
เมื่อคืนนี้ลุคหายไปทั้งคืน
หลังมื้อเย็น เขาทิ้งลูกไว้กับเธอและจากไป กว่าเขากลับมาก็เช้าแล้ว เธอไม่รู้เลยว่าเขาหายไปไหนในช่วงเวลาไม่กี่ชั่วโมงนี้?
บางทีเรื่องนี้อาจไม่มีใครรู้เช่นกัน
ผู้ชายที่ประสบความสำเร็จอย่างเขาย่อมสามารถรักษาความเป็นส่วนตัวของตนเองได้
ถ้าเขาไปที่บ้านของอีวอนน์เข้าจริง ๆ สิ่งที่เขาทำในบ่ายวันนี้คงเป็นแค่การแสดงเท่านั้น ยิ่งไปกว่านั้น เขายังดูหมิ่นอีวอนน์เป็นอย่างมากอีกด้วย
ในความสัมพันธ์เช่นนี้ อีวอนน์เป็นเบี้ยล่างที่ต้อยต่ำที่สุดที่ต้องอดทนกับเรื่องพวกนี้อย่างเงียบ ๆ
ไม่ใช่เรื่องแปลกที่เด็กสาวเจ้าอารมณ์อายุเพียง 19 ปีซึ่งไม่ได้เข้าใจในชีวิตอย่างถ่องแท้จะพอใจและดื่มด่ำไปกับโลกของผู้ชายที่โตกว่า
แต่เรื่องเหล่านี้ล้วนเป็นเพียงสมมติฐานที่หามูลไม่ได้ อันที่จริงแล้วเบียงก้าไม่อยากคาดเดาพฤติกรรมของลุคไปในทิศทางนี้เลย และถึงแม้ว่าผู้ชายที่ประสบความสำเร็จส่วนใหญ่จะมีข่าวคราวเช่นนี้มากมาย แต่เบียงก้าก็เลือกที่จะเชื่อลุคอย่างไม่มีเงื่อนไข
เหตุผลก็เพราะเขาเป็นคนพิเศษ ทั้งยังเป็นพ่อของลานี่และเรนนี่อีกด้วย
ไม่ว่าเมื่อคืนเขาจะอยู่ที่ไหน เบียงก้าก็ได้แต่ส่ายศีรษะและบอกตัวเองให้หยุดคิดเรื่องนี้เสีย
แต่เรื่องของหัวใจเกี่ยวกับอะไรกับเหตุผล?
ในตอนที่เบียงก้าอยู่ในห้องอาบน้ำ เธอยังคงคิดไปต่าง ๆ นานา ลุคกลับไปนอนที่บ้านรึยังนะ? เขากลับไปที่คฤหาสน์หรือกลับไปที่อพาร์ตเมนต์รึเปล่า?
แต่ในเมื่อลูกทั้งสองอยู่กับเธอ คนเป็นพ่อแบบเขาจะมีเหตุผลอะไรที่จะต้องนอนที่อื่นกันล่ะ?
ยิ่งกว่านั้น ลุคไม่ใช่พระไม่ใช่เณรที่เคร่งในเรื่องศีลที่ห้ามไม่ให้หญิงชายแตะต้องมือเมื่อให้หรือรับสิ่งของต่อกันเสียหน่อย
ตลอดเวลาที่เธออยู่ในห้องอาบน้ำ หรือจนกระทั่งตอนที่เธอเข้านอน เบียงก้าเอาแต่คิดเป็นตุเป็นตะไปไกล เธอกำผ้าห่มแน่นก่อนจะผล็อยหลับไป
เบียงก้าหลับลึกไปแล้วในตอนที่เธอรู้สึกว่าที่นอนของเธอจมลง
เตียงของบ้านที่เธอเช่าอยู่นั้น เทียบไม่ได้กับเตียงหรูหราที่ใช้อยู่ในคฤหาสน์ครอว์ฟอร์ด มันอาจจะมีสภาพแย่กว่าเตียงคุณภาพดีในตลาดมือสองด้วยซ้ำไป
เตียงนี้ทำมาจากโครงเหล็กซึ่งมีแผ่นไม้ที่หนาไม่เสมอกัน
หากเป็นผู้หญิงและเด็กที่นอนบนเตียงนี้ พวกเขาจะนอนตรงส่วนไหนของเตียงก็ได้ หากแต่ถ้ามีผู้ชายขึ้นมานอนบนเตียงนี้มันก็จะจมลงเพราะรับน้ำหนักของชายคนนั้นไม่ไหว!
เบียงก้ายังคงง่วงงุนอยู่ ต้องขอบคุณกิจกรรมกลางแจ้งเมื่อเช้านี้เพราะมันทำให้เธอผล็อยหลับไม่รู้เนื้อรู้ตัวได้อย่างรวดเร็ว
แต่ทำไมเธอถึงร้อนนักล่ะ?
ตอนนี้ไม่ฤดูใบไม้ร่วงเหรอ? ทำไมถึงร้อนอย่างกับอยู่ในฤดูร้อนล่ะ?
มันร้อนจนเธอหายใจไม่ออกทีเดียว
เธอครางออกมาเล็กน้อยก่อนจะลืมตาขึ้น เธอมองเห็นชายคนหนึ่งซึ่งสวมเสื้อเชิ้ตสีขาวกางเกงสีดำ เขาคร่อมทับตัวเธอขณะที่กำลังดูดดุนริมฝีปากของเธออย่างแผ่วเบา
“อ๊ะ… คุณ…” จนในที่สุดเบียงก้าก็ตื่นขึ้น
หากนี่เป็นเพียงแค่ความฝัน ก็คงเป็นฝันที่เหมือนจริงมาก
เบียงก้าพยายามหายใจอย่างยากลำบาก
มือแข็งแรงของชายหนุ่มพลิกร่างผอมบางของเธอ เธอหันหลังให้เขา ในขณะที่ใบหน้าฝังอยู่ในหมอน
ก่อนที่ร่างกายของเธอจะถูกน้ำหนักของชายคนนั้นกดทับลงมา
ชุดนอนส่วนล่างของเธอถูกชายคนนั้นดึงออกไปแล้ว
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
“มีใครอยู่ไหม? เบียงก้าอยู่รึเปล่า?”
มีเสียงเคาะประตูดังขึ้นจากข้างนอก เป็นเสียงของอลิสันที่ดังขึ้นมา
อลิสันยืนอยู่นอกประตู และกดกริ่งประตู แต่หลังจากผ่านไปครู่หนึ่งแล้วก็ยังไม่มีใครเปิดประตู
เพื่อนบ้านของเบียงก้าที่เพิ่งกลับมาจากตลาดใจดีบอกกับอลิสัน “กริ่งประตูมันเสียมานานแล้วล่ะจ๊ะ เจ้าของบ้านยังไม่ได้ซ่อมเลย”
ตอนนั้นเองที่อลิสันรู้ว่ากริ่งประตูมันเสีย
แล้วเธอจะทำอย่างไร?
เธอได้แต่เคาะประตูเพื่อขอให้คนข้างในบ้านมาเปิดให้
ก่อนที่จะมาที่นี่ อลิสันโทรหาเบียงก้าก่อนแล้ว แต่เบียงก้าปิดโทรศัพท์ไปเสียก่อน
ขณะที่เธอกำลังเคาะประตู อลิสันก้มหน้าอ่านข้อความที่อีวอนน์ส่งมา
ข้อความของอีวอนน์ส่งมาว่า ‘คุณป้าคะ หนูไม่ได้อยากรบกวนคุณป้าแต่เช้าแบบนี้เลย แต่หนูไม่มีทางเลือก แต่ถ้าชักช้ากลัวว่าจะไม่ทันการน่ะค่ะ ลุคจะพาเบียงก้าไปที่เมืองบ้านนอก ๆที่ไหนสักที่ หนูกลัวว่าพวกเขาจะทำเรื่องเสื่อมเสียชื่อเสียงของวงศ์ตระกูล ถ้ามีคนพูดเรื่องพวกนี้ออกไปจะต้องแย่แน่เลยค่ะ’
แวบแรกอลิสันรู้สึกรำคาญไม่น้อย เพราะอีวอนน์ไม่เคยคิดจะแก้ปัญหาอะไรด้วยตัวเองเลย เธอเอาแต่ร้องไห้และขอความช่วยเหลือคนอื่นเสมอ
“เรื่องไหนล่ะจ๊ะที่จะมาทำลายชื่อเสียงของตระกูลป้าได้? ลุครู้อยู่แล้วล่ะจ้ะว่าอะไรควรไม่ควร” อลิสันเชื่อใจลูกชายตัวเอง
“แต่ที่นั่นเป็นเมืองเล็ก ๆ ที่แสนเงียบสงบ ชายหนุ่มและหญิงสาวที่เปล่าเปลี่ยว... คงไม่พ้นถูกความปรารถนาแผดเผาแน่...” อีวอนน์พึมพำออกมา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พราวกลิ่นบุปผาตัณหารัก