ห้าปีผ่านไปเมื่อเบียงก้าก้าวกลับเข้าสู่เมืองเอที่คนพลุกพล่านอีกครั้ง
เธอจากเมืองนี้ไปได้เกือบสองพันวัน แต่กลับไม่ได้รู้สึกนานแต่อย่างใด รวมถึงไม่ได้มีอะไรแปลกไปเสียด้วยซ้ำ
ย้อนกลับไปตอนนั้น เธอไร้ซึ่งหนทาง และถูกโชคชะตาผลักไสอย่างไร้ปราณี
ณ ตอนนี้ เธอต้องการยืนหยัดด้วยกำลังของตนและต้องการเลือกทางเดินของชีวิตด้วยตนเอง
ดวงตะวันสาดส่องลงมา
“บี ทางนี้” นีน่าลดกระจกรถลง และโบกมือให้เบียงก้าที่กำลังเดินออกจากชานเมือง
เวลาผ่านไปแล้วห้าปี พวกเขาไม่ใช่เด็กผู้หญิงไร้เดียงสาที่อายุสิบแปดสิบเก้าอีกต่อไป
เบียงก้าและฌองเดินกลับสู่บ้านเกิดเมื่อวานนี้ และนีน่าเป็นคนที่ไปรับทั้งสองที่สนามบิน
คืนนั้น ฌองพาเบียงก้ากลับไปรับประทานอาหารเย็นที่บ้านของตระกูลแลงดอน
พ่อกับแม่ของฌองหลงใหลได้ปลื้มตัวเบียงก้าในฐานะลูกสะใภ้ในอนาคตไม่น้อย
ในเช้าวันนั้น ฌองต้องการไปสัมภาษณ์งานที่บริษัทกับเบียงก้า แต่มีบางอย่างเกิดขึ้น เขาเลยไม่สามารถไปพร้อมกับเธอได้
เบียงก้าขึ้นรถของนีน่า และนั่งในที่นั่งผู้โดยสารพร้อมคาดเข็มขัดนิรภัยเรียบร้อย
“เธอรู้ไหมว่าเมื่อคืนแม่ฉันพูดว่าอะไร หลังจากที่เธอออกไปกับพี่ฌองน่ะ?” นีน่าเอ่ยถามขึ้น
“ท่านพูดว่าไง?” เบียงก้ากังวลว่าพ่อแม่ของฌองจะไม่ชอบเธอ
“แม่พูดว่า ‘ดูเบียงก้าสิ เธอดูสวยสง่า อ่อนโยนและอ่อนหวานจริง ๆ เลย แต่ดูลูกสิ! ทำไมถึงได้ต่างขนาดนี้? ลูกนอนอยู่แต่บ้าน กระโดกกระเดกเหมือนเด็กผู้ชาย สบถเหมือนพวกไม่มีการศึกอย่างนั้นแหละ!” นีน่าอดไม่ได้ที่จะสัมผัสใบหน้าอันอ่อนนุ่มของเพื่อนเธอในขณะที่เธอพูดและเดาะลิ้นไปด้วย “เพราะอากาศเมืองนอกแน่ ๆ ผิวเธอถึงได้ดีขนาดนี้เนี้ย”
“อย่างกับเธอไม่เคยออกจากบ้านมาก่อนเลยงั้นแหละ เธอก็เลยไม่รู้เลยว่าที่นั่นมันลำบากขนาดไหน” เบียงก้าปัดมืออันซุกซนของเธอออกไป “มองถนนเถอะ”
ทั้งสองพูดคุยกันระหว่างทาง
ตอนที่หญิงสาวทั้งสองเดินทางถึงมาบริษัท ที คอร์ปอเรชั่น ก็เกือบแปดโมงสี่สิบแล้ว
“ฉันหวังว่าพี่ชายฉันคงไม่มาสายหรอกนะ หัวหน้าที่นี่เป็นจอมเผด็จการใจยักษ์สุด ๆ เลย เธอรู้ใช่ไหม!” นีน่าพึมพำกับตนในขณะที่ก้มศีรษะส่งข้อความเร่งพี่ชายบนวีแชท
จอมเผด็จการใจยักษ์งั้นหรอ? นีน่าทำให้เบียงก้าประหม่าอยู่ไม่น้อย
เธอเปิดโทรศัพท์และเปิดข้อมูลมือถือเพื่อที่จะค้นหาข้อมูลของหัวหน้าของบริษัท ทีคอร์ปอเรชั่นอีกครั้ง เธอหวังว่าสิ่งที่พบบางอย่างอาจช่วยเธอในระหว่างการสัมภาษณ์ได้
ข้อมูลส่วนใหญ่ที่เธอพบทางออนไลน์ ไม่มีอะไรมากไปกว่าข่าวลือเกี่ยวกับคนรวยและคนดัง
ประธานของบริษัท ที คอร์ปอเรชั่น ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของครอว์ฟอร์ด อินดัสทรี่ คือชายชื่อ
ลุค ครอว์ฟอร์ด เขาอายุ 29 ปีในปีนี้ แต่ไม่มีใครรู้ว่าเขาโสดหรือแต่งงานแล้ว สื่อมวลชนเองก็ยังไม่มีข่าวคราวใด ๆ เกี่ยวกับชีวิตส่วนตัวของเขาเลย
จริง ๆ แล้วชื่อครอว์ฟอร์ดยังคงมีกระทบความรู้สึกของเบียงก้าอยู่เล็กน้อย
ถึงกระนั้น นั่นเป็นเพียงจินตนาการในวัยเด็กที่ไร้เดียงสาของเธอในอดีต ถึงตอนนี้ เธอได้ฝังความฝันเหล่านั้นไว้ในมุมที่ลึกที่สุดของขั้วหัวใจนานแล้ว
ข่าวยังรายงานว่า มีเหตุการณ์ใหญ่เกิดขึ้นเมื่อห้าปีที่แล้ว เมื่อลูกชายทั้งสองของครอว์ฟอร์ด
ต่อสู้แย่งชิงธุรกิจของครอบครัว
หลุยส์ ครอว์ฟอร์ด ทายาทโดยชอบธรรมตามกฎหมายที่สังคมให้การยอมรับถูกปลดออกกะทันหัน
ในทางกลับกัน ผู้อาวุโสของครอว์ฟอร์ดรับเลี้ยงบุตรบุญธรรมเพิ่มอีกหนึ่งคน ชื่อลุค ครอว์ฟอร์ด ซึ่งเป็นทายาทนิรนามในนามครอว์ฟอร์ด และภายหลังประสบความสำเร็จในธุรกิจของครอบครัว ในที่สุดเขาก็สืบทอดอุตสาหกรรมครอว์ฟอร์ดที่กำลังจะตาย
ทายาทนิรนามได้รับนามครอว์ฟอร์ด…
ผู้เขียนบทความบอกเป็นนัยอย่างละเอียดว่าลุค ครอว์ฟอร์ดเป็นลูกชายนอกสมรสของ
ครอบครัวที่ร่ำรวย
เบียงก้าครุ่นคิดบางสิ่งพร้อมจ้องมองโทรศัพท์ของตน
…
ตึกของบริษัท ที คอร์ปอเรชั่นสูงมากจนข่มขวัญทุกคนที่ก้าวเข้ามาทันที
ฌองมาที่นี่ด้วยความเร่งรีบ เขาเคยอ่านประวัติความเป็นมาของบริษัทมาก่อน และเมื่อเขา
เห็นว่าอาคารใหญ่โตเพียงใด เขาจึงยิ่งรู้สึกกังวลอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
“ประวิงเวลาไปก็เท่านั้นแหละน้องพี่ เธอจะไม่แหกลูกตาออกมาเลยรึไงถ้าพี่แต่งงานและพาเบียงก้าเข้าบ้านนะหา?”
"แต่งเลยค่ะ! แต่งงานกับเบียงก้าเลยสิคะ!" ดวงตาของนีน่าแทบจะเป็นประกายเมื่อบอกกับพี่ชายของเธอว่า “เมื่อคืน ตอนที่พ่อกับแม่อยู่กับบีนะ พวกท่านมีความสุขอย่างบอกไม่ถูกเลยแหละ ตอนที่ทั้งสองได้งานและลงตัวเรียบร้อยแล้ว พี่ก็รีบลงหลักปักฐานเรื่องครอบครัวได้แล้วนะ”
ฌองพยักหน้าและอดไม่ได้ที่จะแอบหลือบมองอาการเบียงก้าที่อยู่ข้าง ๆ เขา
เบียงก้ารู้สึกว้าวุ่นเล็กน้อย
เธอมีความสุขมาก ๆ กับชีวิตตอนนี้ อันที่จริง เธอต้องขอบคุณฌองกับคำแนะนำที่มีให้เธอตลอดทั้งห้าปีที่ผ่านมา
ก่อนที่ฌองจะสารภาพกับเธอ เธอสังเกตว่าเขามีความรู้สึกดี ๆ ให้เธอ ประสบการณ์ที่ผ่านมาทำให้เธอรู้สึกว่าตนเองเป็นหญิงสาวตัวจ้อยและไร้ค่า ย้อนกลับไปตอนนั้น เธอพยายามเมินเฉยต่อฌองมาโดยตลอด ที่จริงแล้ว เธอหลีกเลี่ยงผู้ชายทุกคนที่เข้าหาเธอต่างหาก
ตลอดช่วงเวลาเหล่านั้น ไม่มีสิ่งใดเป็นแสงสว่างสำหรับเธอ แต่ฌองไม่ละความพยายาม เขาคอยตามดูแลเธอตลอด ในที่สุดก็ทำให้เธอยอมเปิดใจเล่าอดีตอันแสนเจ็บปวดให้เขาฟัง
เขาทำให้เบียงก้าประหลาดใจ ฌองไม่ได้ละทิ้งเธอไปไหน เขาไม่ได้คิดว่าเป็นความผิดของเธอที่ 'ให้กำเนิดเด็กน้อยให้กับชายแปลกหน้า'
เบียงก้าคิดว่าเธอโชคดีมากในเรื่องนี้
“คนต่อไปครับ ฌอง แลงดอน!”
“จะไปเดี๋ยวนี้แหละครับ” ฌองบีบมือของของเบียงก้า
“เต็มที่นะคะ สู้ ๆ” เบียงก้าพูดพร้อมพยักหน้า
เมื่อฌองผลักประตูและเดินเข้าไปในห้อง เขารู้สึกได้ทันที ถึงสายตาที่จับจ้องมายังเขา เขาทำการบ้านและค้นหาเรื่องราวของผู้บริหารหนุ่มชื่อดังของทีคอร์ปอเรชั่นมาพอสมควร
ลุคเห็นทุกอย่างที่ฌองปฏิบัติต่อเบียงก้าด้านนอก
การสัมภาษณ์เป็นไปอย่างเป็นทางการ จริงจังและเป็นมืออาชีพ
ฌองมีความสามารถมาก ดังนั้นเขาจึงตอบคำถามของผู้ให้สัมภาษณ์ได้ทุกข้ออย่างใจเย็นและสงบ เนื่องจากความสามารถและการวางตัวของเขา จึงทำให้เขาได้รับคะแนนจากผู้ให้สัมภาษณ์ไปไม่น้อยเลย
สายตาของลุคหันกลับมาที่หน้าจอกล้องวงจรปิดอีกครั้ง
ในภาพหน้าจอ เบียงก้าจ้องมองประตูอย่างใจจดใจจ่อ เธอกัดริมฝีปากของตนเบา ๆ และบีบนิ้ว ดูเหมือนว่าเธอจะกังวลอย่างมากเกี่ยวกับผลการสัมภาษณ์ขอคนที่อยู่ในห้องตอนนี้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พราวกลิ่นบุปผาตัณหารัก