มือเรียวหยิบช้อนแล้วก็ตักอาหารที่อยู่ตรงหน้ามาใส่ปาก แล้วเคี้ยวเหมือนว่าเมื่อสักครู่ไม่มีอะไรเกิดขึ้น
"ทานกันตามสบายเลยนะครับ" รามสูรเห็นว่าทุกคนกำลังงงกับสิ่งที่เขาพูด
"เออ..ค่ะ" ถึงแม้เพื่อนร่วมงานจะสงสัยมาก แต่ก็ต้องได้เก็บความสงสัยนั้นไว้ถามตอนที่อยู่กันตามลำพัง
สายตาคมของท่านประธานยังคงจ้องมองเธอทานอาหารแบบไม่สนใจใครอีก
จนคนที่อยู่ร่วมห้องอาหารทำอะไรไม่ถูก จะคุยกันก็ไม่กล้า เอาไปเอามาก็เลยไม่รู้รสชาติของอาหารเลยว่ามันอร่อยไหม เพราะความอยากรู้อยากเห็น
"ทะ..ท่านประธานไม่ทานอะไรหน่อยเหรอคะ" ชวนกินข้าวเที่ยงแต่เล่นมานั่งมองเฉยๆ แบบนี้เนี่ยนะ
"เห็นพวกคุณทานผมก็อิ่มแล้วครับ ต้องการอะไรเพิ่มอีกไหม" สายตานั้นมองไปดูคนที่ถามแค่เล็กน้อยแล้วก็หันกลับมามองเธออีกครั้ง
"ไม่แล้วค่ะ" จนเพื่อนอดมองมาที่สโรชาด้วยไม่ได้
ทานไปจนรู้สึกว่าตัวเองอิ่มแล้วเธอก็วางช้อนลง ..พวกเพื่อนๆ ต่างก็วางลงพร้อมกัน ใครจะกล้ากินต่อล่ะ
"อิ่มกันแล้วหรือคะ" เลขาซึ่งยืนรอรับคำสั่งเจ้านายอยู่เดินเข้ามาใกล้
"ใช่ค่ะ"
"จะมีชุดของหวานเข้ามาบริการอีกค่ะ ถ้างั้นขอเก็บตรงนี้ก่อนนะคะ"
"มีของหวานอีกเหรอ" เอวาและเกวลินกระซิบถามกัน
เพียงไม่นานพนักงานของร้านอาหารก็เข้ามาเก็บโต๊ะ เพื่อที่จะบริการของหวานต่อ
"ตามสบายเลยครับ" รามสูรเห็นว่าเพื่อนร่วมงานของเธอมองมา
"กินสิโรส" เกวลินสะกิดสโรชาเมื่อเห็นว่านั่งอยู่เฉยๆ
"โรสไม่ชอบของหวานค่ะ"
"ผมรู้ครับว่าคุณไม่ชอบของหวาน แต่จานนี้ทำมาสำหรับคุณโดยเฉพาะ" ชายหนุ่มก็เลยขยับจานที่เขาสั่งมาให้เธอเป็นพิเศษมาตรงหน้า
"แต่ฉันอิ่มแล้ว" ว่าแล้วสโรชาก็ลุกขึ้นจากโต๊ะอาหาร เธอไม่เข้าใจว่าเขากำลังจะทำอะไร
เพื่อนสองคนที่กำลังตักของหวานใส่ปากต้องรีบวางช้อนลง เมื่อเห็นว่าสโรชาเดินออกไป
"พวกคุณทานต่อเลยครับ เดี๋ยวผมจะให้คุณพิมพ์อยู่เป็นเพื่อน" รามสูรพูดแค่นั้นแล้วก็รีบลุกเดินตามออกไป ทิ้งให้คนที่อยู่ในห้องได้แต่มองตาม
พอทั้งสองเดินไปจนลับสายตาแล้ว เกวลินและเอวาก็หันมองดูเลขาที่ชื่อพิมพ์
"ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันค่ะ" คนที่เป็นเลขาตอบออกไปก่อนที่จะถูกถามเลยด้วยซ้ำ
"อุ๊ยคุณ!" เดินออกมาถึงข้างนอกสโรชากำลังจะไปเรียกแท็กซี่ แต่ถูกคนที่เดินตามมาขวางไว้ก่อน "หลบไปฉันจะรีบกลับไปทำงาน"
"ผมกำลังจะพากลับไปอยู่นี่ไง"
"ฉันกลับเองได้"
"มาขึ้นรถ"
"คุณจะให้ฉันนั่งตรงไหนล่ะคะ" หญิงสาวกรอกสายตามองไปดูรถคันหรู อดไม่ได้ที่จะพูด
สายตาคมก็มองไปเช่นกัน แต่จังหวะนั้นสโรชาไม่รอที่จะคุยกับเขาต่อ เธอรีบเดินไปหาแท็กซี่คันที่ผู้โดยสารเพิ่งลงจากรถ
"ไปเลยค่ะ" หญิงสาวรีบปิดประตูล็อกรถไว้ แต่เขาก็ไม่ได้ตามมาหรอก
บ่ายโมงวันเดียวกัน..
"ก็เพราะมันเร่งไง ผมถึงอยากได้บริษัทข้างนอกมาช่วยเช็ค" ขณะที่พูดเขาก็ยังไม่ได้มองมา
"พวกฉันมีกันแค่สามคนจะทำให้คุณทันเวลาได้ยังไง ฉันขอแนะนำให้คุณส่งบัญชีทั้งหมดไปที่บริษัท" สโรชาหมายถึงว่าให้เขาส่งบัญชีนี้ไปที่บริษัทของเธอเลย
ปากกาในมือถูกวางลงที่โต๊ะทำงาน พร้อมกับสายตาคมมองดูคนที่กำลังขึ้นเสียงใส่
"ถ้าเอกสารของผมรั่วไหลออกไป คุณจะรับผิดชอบได้ไหมล่ะ" ชายหนุ่มพูดพร้อมกับยืนขึ้นเต็มความสูง
"ถ้าเอกสารคุณจะรั่วไหลมันคงไม่มาจากบริษัทฉัน....?" ขณะที่พูดขาเรียวก้าวถอยหลังไปด้วยเพราะตอนนี้เขาเดินตรงเข้ามาหา
"ถ้าผมจะทำแบบนั้นตั้งแต่แรก แล้วผมจะให้พวกคุณมาเช็คที่นี่ทำไม"
"นั่นน่ะสิคะ บริษัทรับทำบัญชีในกรุงเทพฯ ก็มีตั้งเยอะ ทำไมคุณต้องไปเลือก?" มือเรียวผลักดันหน้าอกอีกฝ่ายไว้ เพราะตอนนี้เขาเดินเข้ามาใกล้มากไปแล้ว "ถอยออกไปนะ"
"ลืมไปแล้วเหรอว่านี่มันห้องผม"
"ก็ได้ถ้างั้นเราไปคุยกันข้างนอก" หญิงสาวพยายามขยับออกจากมุมนี้ให้ได้ แต่ก็ถูกมือของอีกฝ่ายขวางไว้
"ทำไมเสียงดูสั่นๆ หรือว่าไม่ได้สั่นแค่เสียง" เขาหมายถึงว่าใจเธอสั่นด้วยไหม และขณะที่พูดใบหน้าคมก็ได้ขยับเข้ามาใกล้ แทบจะสัมผัสลมหายใจกันได้อยู่แล้ว
"คุณรามสูร!"
"ไหนบอกไม่รู้จักกันไง"
"ก็ชื่อของคุณแปะอยู่ประตูทางเข้าทำไมฉันจะ อืม!" หญิงสาวรีบปิดปากตัวเองไว้ก่อนที่ริมฝีปากอีกฝ่ายจะเข้ามาใกล้กว่านี้
"ทำไมไม่พูดต่อล่ะ พูดสิผมกำลังฟังอยู่"
"คุณขยับออกไปเลยนะ" มือหนึ่งปิดปากอีกมือก็ผลักหน้าอกของเขาให้ออกห่าง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ภรรยาที่(ไม่)รัก