จังหวะที่เขาเดินลงมาจะหลบก็หลบไม่ทันแล้ว สโรชาก็เลยต้องได้ยืนอยู่ตรงนั้นกับแม่บ้าน
"คุณผู้ชายกำลังจะไปงานเลี้ยง คุณผู้หญิงก็ไปด้วยสิคะ" แม่บ้านก็พูดไปตามสิ่งที่คิด
"เดี๋ยวโรสไปเองค่ะ" เธอแค่คิดว่าจะไปรับลูกกลับ เพราะงานหรูขนาดนั้นกลัวรามิลจะไปดื้อ "งานหรู??" สโรชาเพิ่งนึกขึ้นได้ ว่างานนี้ต้องมีพ่อกับแม่ของเธอไปร่วมแน่ แล้วคุณย่าเอาตาหนูไปแบบนั้นพวกท่านก็ต้องเห็นสิ
หญิงสาวกำลังจะรีบวิ่งออกมา เพื่อไปขอให้คนขับรถพาไปส่ง แต่ไม่ทันร่างของเธอถูกคนที่เพิ่งเดินลงมาจากชั้นบนหยุดไว้ก่อน
"เป็นอะไร" ถ้าเขาไม่ใช้วิธีนี้คงรั้งตัวเธอไว้ไม่ทัน
"ฉันจะรีบไปพาลูกกลับ"
"ทำไม"
"คุณอย่าลืมสิว่าพ่อกับแม่ฉันยังไม่รู้เรื่องตาหนู"
"แล้วคุณจะไปในชุดนี้เหรอ" เพราะเธอยังอยู่ในชุดทำงาน
จริงด้วยถ้าเธอไปแบบนี้ มีหวังต้องทำให้พ่อกับแม่ขายหน้าแน่ คิดถึงหน้าแม่ใหญ่ขึ้นมาท่านคงจะอายเพื่อน ถ้าลูกสาวไปในสภาพนี้
"แต่ฉันไม่มี.."
"คุณท่านเตรียมชุดไว้ให้คุณผู้หญิงที่ห้องแล้วค่ะ" แม่บ้านรู้ดีว่าเธอกำลังจะพูดอะไร
สโรชาไม่รอช้ารีบขึ้นไปชั้นบน
"??" พอขึ้นมาถึงเห็นชุดที่คุณย่าเตรียมไว้ให้ แทบไม่กล้าใส่ มันดูหรูเกินไป แต่นาทีนี้เธอต้องใส่แล้วล่ะเพราะมีแค่ชุดนี้ชุดเดียว
หญิงสาวอาบน้ำเพียงไม่นานก็ออกมาแต่งหน้าทำผมแบบง่ายๆ แต่ถึงแม้เธอไม่แต่งแต้มอะไรใส่ใบหน้าเลย ความงามของเธอก็เด่นชัดมาก
"คุณยังไม่ไปอีกเหรอ" ลงมาถึงก็เห็นเขานั่งรออยู่ที่โซฟารับแขก
"รอไปพร้อมกัน" ว่าแล้วคนร่างสูงก็ลุกขึ้น
"ให้คนขับรถไปส่งฉันก็ได้นี่" เธอกลัวว่าพอไปถึงหน้างาน ต้องเจอกับด่านนักข่าวก่อนแน่
"ทำไมต้องทำแบบนั้น" เขาแค่อยากรู้เหตุผลของเธอ
"ถ้านักข่าวเห็นก็ต้องขอสัมภาษณ์"
"สัมภาษณ์แล้วยังไงต่อ"
"คุณไม่กลัวหรือไงว่าผู้หญิงคนใหม่ของคุณจะรู้ ว่าเรายังคงเลี้ยงลูกอยู่ด้วยกัน"
"ไม่มีหรอก" เพิ่งรู้ว่าเธอคิดแบบนี้เอง แต่ก็ไม่มีเวลาอธิบายมากกว่านี้แล้ว มือหนาเอื้อมไปจูงมือของเธอให้เดินตามมาที่รถ โดยมีแม่บ้านอดมองตามและยิ้มไม่ได้
"รถใครคะ" รถคันนี้ไม่ใช่คันที่เขาซื้อใหม่ แต่คันนี้ก็ใหม่เหมือนกัน
"ผมจะซื้อรถจนกว่าถูกใจคุณ"
"คุณหมายความว่ายังไง?"
"ก็คันที่ซื้อมาใหม่คุณไม่อยากนั่งหน้า ถ้าคันนี้ยังไม่อยากนั่งเดี๋ยวผมก็จะเปลี่ยนอีก"
"..??.." สโรชาได้แต่มองเจ้าของรถ เขาหมายความว่ายังไง หญิงสาวที่อยู่ในชุดสวยหรู แอบเซ็กซี่เล็กน้อย เพราะเปิดหลังโชว์ความขาว เดินไปเปิดประตูด้านหลังอีกฝั่งหนึ่งของคนขับแล้วขึ้นไปนั่ง..
{"เอารถคันใหม่เข้ามา"} ชายหนุ่มที่ยืนมองอยู่ล้วงเอาโทรศัพท์ออกมาโทรหาใครไม่รู้ แต่เพียงไม่นานรถคันที่หรูไม่ต่างจากคันนี้ก็วิ่งเข้ามาจอด
"คุณทำบ้าอะไร" หญิงสาวที่ยังไม่ปิดประตูรถรีบชะเง้อมองมาดูอีกคน
"ยังเหลืออีกหลายคัน"
"ฉันนั่งข้างหน้าก็ได้" สโรชารีบเปลี่ยนที่นั่งก่อนที่เขาจะทำบ้าอะไรไปมากกว่านี้
พอเห็นว่าเธอยอมนั่งหน้าแล้ว รามสูรก็ขึ้นไปนั่งประจำที่คนขับแล้วขับออกไป
"เจ้านายเราท่าจะหนัก" แม่บ้านที่แอบยืนมองอยู่ก็อดเอ็นดูไม่ได้
ใช้เวลาขับรถไม่นานเท่าไรก็มาถึงโรงแรมที่ใช้จัดงาน..
ไม่ต้องพูดถึงบรรยากาศรอบข้าง ตอนนี้ทุกคนที่ถูกเชิญมาร่วมงานก็ได้อยู่ในงานนี้ทั้งหมดแล้ว รวมทั้งเพื่อนร่วมงานและเจ้าของบริษัทที่รับทำบัญชี
งานเลี้ยงที่จัดขึ้นในวันนี้ พุดตาลเป็นแม่งานเอง นี่แหละคือสิ่งที่นางคิดว่าต้องจัดการเคลียร์ทุกปัญหาให้จบไป
"เราค่อยกลับไปคุยกันที่บ้าน" ส่วนท่านพลเอกและท่านพลโท ไม่กล้าต่อว่าให้เธออยู่แล้ว เพราะตัวเองก็ผิดไม่ต่างกัน ที่ไม่สนใจครอบครัว จนหลานออกมาจะพูดได้อยู่แล้ว ถึงรู้ว่าตัวเองมีหลานที่น่ารักขนาดนี้
"นี่มันอะไรกัน" เพื่อนที่อยู่บริษัทถามเอวา
"ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน" เอวาตอบออกไปได้ในทันทีเพราะเธอก็ไม่รู้
"ฉันก็ไม่รู้" เกวลินรีบตอบเพื่อนๆ ออกไป เพราะรู้ดีว่าต้องหันมาถามเธออีกแน่
"จะไม่รู้ได้ยังไง ไปทำงานด้วยกันไม่ใช่เหรอ"
พวกเธอไม่รู้ไม่ใช่เรื่องใหญ่หรอก แต่คุณเลขานี่สิไม่รู้เรื่องใหญ่แน่ ทั้งเอวาและเกวลินต่างก็มองไปดูพิมพ์ซึ่งมองไปทางครอบครัวนั้นแบบหน้าบอกบุญไม่รับอยู่แล้ว
ที่คิดว่าเรื่องใหญ่เพราะทั้งสองสังเกตเห็นการกระทำของเลขาหน้าห้อง เหมือนหวงก้าง
ส่วนพวกคุณหญิงคุณนายต่างก็เข้ามาร่วมแสดงความยินดี และอดที่จะเอ็นดูเด็กน้อยซึ่งอยู่ในชุดหูกระต่ายแบบน่ารักน่าเอ็นดูไม่ได้
"เอาล่ะค่ะ เจ้าของงานก็ได้มาถึงแล้ว" ในเวลาใกล้เคียงกัน พุดตาลซึ่งเป็นคนจัดงานนี้ขึ้นมาก็ได้เอ่ยพูดพร้อมกับมองไปดูหน้าลูกชายและลูกสะใภ้
"เจ้าของงาน?" สโรชาเอ่ยออกมาเบาๆ พร้อมกับกวาดสายตามองไปทั่วงาน ซึ่งทีแรกไม่ได้ให้ความสนใจในงานนี้เท่าไร เพราะคิดว่าจะมารับลูกชายแล้วรีบออกไป
พอเห็นทุกคนในงานมองมา เธอก็อดไม่ได้ที่จะมองดูหน้าเขา ดวงตางามกระพริบปริบๆ เมื่ออีกฝ่ายก็มองมาที่เธอเช่นกัน
"ขอแนะนำให้ทุกคนในงานนี้ได้รู้จักกับลูกสะใภ้ของฉัน ไม่สิ..ก่อนอื่นฉันต้องแนะนำตัวเองก่อน ฉันชื่อพุดตาลเป็นแม่ของรามสูรซึ่งเป็นท่านประธานในบริษัท" ประโยคนี้พุดตาลต้องการแนะนำให้คนที่อยู่ในงานได้รู้จักกับนางก่อน อย่างเช่นบริษัทรับทำบัญชี และเลขาคนใหม่ที่เพิ่งจะเข้ามาทำงานหลังจากที่นางมอบงานกลับไปให้ลูกชายแล้ว "ทุกคนอาจจะสงสัยว่างานนี้ถูกจัดขึ้นมาเพราะอะไร"
ทุกคนต่างก็ตั้งใจฟังว่าคุณแม่ของท่านประธานจะพูดอะไรต่อ
"งานนี้ฉันจัดขึ้นมาเพื่ออยากเปิดตัวหลานชายคนแรก" พุดตาลเอื้อมไปขออุ้มหลานชายจากคุณปู่ที่อุ้มไม่ยอมปล่อยเลย "แกชื่อรามิลเป็นลูกชายของหนูสโรชา"
พอแนะนำแม่ของหลานท่านเท่านั้น กลุ่มที่ฟังอยู่เงียบๆ มุมหนึ่งของห้องต่างก็มีเสียงพูดกันดังขึ้น จนท่านๆ และคุณหญิงคุณนายในงานต่างก็หันมองไปดูว่ามันเกิดอะไรขึ้น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ภรรยาที่(ไม่)รัก