“ยี่หวา!”
เสียงผู้ชายคนหนึ่งดังขึ้นข้างหลังยี่หวา อยู่ๆ ร่างกายของเธอก็ชาวาบ ปืนในมือร่วงหล่นลงสู่พื้น เธอไม่กล้าแม้แต่จะหันกลับไปมองเพราะเธอรู้ดีว่าเขาเป็นใคร
เขาเห็นเธอฆ่าคนแล้วใช่ไหม
เขาจะผิดหวังในตัวเธอไหม
เขาจะเกลียดเธอ แล้วเขาจะสั่งให้เธอห้ามเข้าใกล้เรนจิหรือเปล่า…
วายุที่เห็นหญิงสาวยืนนิ่งไปก็ยิ่งกระวนกระวายใจขึ้นไปอีก รีบเดินเข้าไปกอดเธอเบาๆ จากข้างหลัง แล้วลูบหัวอย่างอ่อนโยน “ไม่เป็นไร เธอไม่ผิด เธอทำเพราะปกป้องตัวเอง”
“ฉัน…ตั้งใจ…ฆ่าพวกเขา” ยี่หวาพูดออกมาด้วยเสียงสั่นเครือพยายามกลั้นไม่ให้ตัวเองร้องไห้ออกมา
“เธอทำดีแล้ว คนพวกนั้นสมควรตาย”
ยี่หวาหันกลับมาหาวายุแล้วจ้องไปที่ตาของเขา เมื่อเห็นว่าแววตาชายหนุ่มไม่ได้รังเกียจเธอก็โผเข้าซบลงไปในอ้อมกอดเขาด้วยท่าทีหวาดกลัว “คุณไม่โกรธ ไม่เกลียด ไม่กลัวฉันใช่ไหม”
“อืม ฉันไม่มีวันโกรธ เกลียด และกลัวเธอ” วายุพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่นเพื่อให้เธอมั่นใจในตัวเขา
ส่วนการ์ดคนอื่นๆ ที่ยืนอยู่ได้ยินดังนั้นก็ขนลุกซู่ไปทั้งตัว เจ้านายไม่กลัว แต่พวกเขากลัวจนหัวหดแล้ว!
ทันทีที่พวกเขามาถึงก็เห็นหญิงสาวลั่นไกไปที่ผู้ชายสามคนทั้งที่ยังไม่ได้เล็ง แต่ก็ทำให้อีกฝ่ายขาดใจตายในทันที ดูก็รู้ว่าผู้หญิงคนนี้มีฝีมือขนาดไหน
วายุยืนกอดกับยี่หวาสักพักก็รู้สึกชื้นๆ ที่แขนพอก้มลงดูใบหน้าของเขาก็ถอดสีฉับพลัน “เธอโดนยิง?”
“จริงด้วย! ฉันลืมไปเลย มัวแต่ตกใจคุณมากไปหน่อย”
คราวนี้ใบหน้าที่มีแต่ความอ่อนโยนให้หญิงสาวก็เปลี่ยนเป็นดุดันปนหวาดกลัว ยื่นแขนข้างหนึ่งเข้าไปใต้เข่าของเธอ แล้วช้อนตัวยี่หวาขึ้นมา “ไปโรงพยาบาลด่วน! ที่เหลือเคลียร์สถานที่”
“ครับนาย!”
ตอนนี้ยี่หวานอนอยู่บนตักของวายุเพราะเขาไม่ยอมวางเธอลง สีหน้าวายุตอนนี้ดูโกรธเธอมาก เพราะทั้งแขนทั้งมือและเท้าของเธอต่างก็มีเลือดออกเต็มไปหมด ทั้งที่ก็รู้ว่าตัวเองพิเศษกว่าคนอื่นๆ
“คือว่าฉันกระโดดออกมาจากรถของพวกมันก็เลยเป็นแบบที่เห็นนี่แหละค่ะ แต่ว่าฉันไม่เป็นไรจริงๆ ที่แขนก็แค่เฉี่ยวไปเท่านั้นไม่เข้าค่ะ” ถึงแม้จะเลือดออกเยอะก็เถอะ
ยิ่งยี่หวาอธิบาย สีหน้าวายุก็แย่ลงเรื่อยๆ ถ้าเขามาเร็วกว่านี้เธอก็คงจะไม่เจ็บตัวแบบนี้ “ฉันจะไม่ยอมให้เธอต้องเสี่ยงกับอันตรายใดๆ อีก”
“ฉันเชื่อคุณ”
สักพักรถยนต์สีดำก็มาจอดอยู่หน้าโรงพยาบาล คนขับรถรีบเร่งลงมาเปิดประตู วายุก้าวขาลงจากรถแล้วอุ้มยี่หวาตรงไปยังห้องไอซียูทันที
ระหว่างทางยี่หวาได้แต่ซุกเข้าไปที่อกวายุอย่างเขินอาย โดนยิงที่แขนไปแค่ห้องทำแผลก็ได้ ไม่เห็นต้องเข้าห้องไอซียูเลย
รชานนท์ที่เห็นวายุอุ้มยี่หวาก็ต้องทำหน้าแปลกใจ เมื่อเช้าตอนแยกกันยังดีๆ อยู่เลย ทำไมกลับมาอีกรอบถึงได้มีเลือดเต็มตัวแบบนั้นล่ะ “นี่มันเกิดอะไรขึ้น?”
“เธอโดนยิงที่แขน มือและเท้าถลอก”
“ฮะ! โดนยิง?” แล้วทำไมเจ้าตัวยังคงทำหน้าอย่างกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น ไม่ได้เป็นอะไรอย่างนั้นล่ะ
“แค่โดนเฉี่ยวค่ะ” ยี่หวาแก้คำให้เพราะกลัวหมอจะตกใจ แต่วายุก็ส่งสายตาดุดันมาให้เธอ
วายุวางหญิงสาวลงบนเตียงก่อนจะถูกเข็นเข้าไปในห้องฉุกเฉิน หลังจากเวลาผ่านไปเกือบครึ่งชั่วโมง ประตูห้องฉุกเฉินก็ถูกเปิดอีกครั้งพร้อมกับหญิงสาวที่กำลังนั่งอยู่บนรถเข็น
“เป็นยังไงบ้าง” วายุถามหญิงสาวด้วยใบหน้าเหยเก เพราะตอนนี้หน้าเธอซีดมาก คงเป็นเพราะเสียเลือดเยอะ
“ฉันอยากนอนค่ะ”
“งั้นเอาร่มนี้ไปใช้เถอะค่ะ” ยี่หวายื่นร่มให้ผู้หญิงคนนั้นก่อนจะเดินกลับไปขึ้นรถด้วยสภาพเปียกปอน
พอวายุกลับมาถึงที่รถเห็นสภาพยี่หวาก็กุมขมับ “ฉันไม่ได้บอกว่าอย่าซนเหรอ?”
ฟังจากเสียงก็รู้ว่าเขากำลังควบคุมตัวเองไม่ให้โมโหเธอขนาดไหน “ฉันก็ไม่ได้ซนนะคะ พอดีเจอสองแม่ลูกเขาเดินตากฝนก็แค่ลงเอาร่มไปให้เท่านั้น”
“แต่เธอเปียก”
“ฉันเปียกแป๊บเดียว แต่พวกเขาต้องเดินเปียกไปถึงหน้าปากซอย” ยี่หวาพยายามเถียงเพราะเธอมั่นใจว่าครั้งนี้เธอต้องชนะ แต่สุดท้ายเธอก็คิดผิด
“แต่เธอมีแผล หมอบอกว่าห้ามโดนน้ำ”
สุดท้ายยี่หวาก็ต้องยอมก้มหน้ารับผิด “ฉันขอโทษค่ะ”
เรนจิส่งสายตาไม่พอใจให้พ่อของเขาที่รังแกหม่ามี๊ ก่อนจะหันไปพูดกับยี่หวาด้วยน้ำเสียงเป็นห่วง “หม่ามี๊เป็นอะไรครับ ทำไมที่มือมีผ้าพันแผลแบบนี้”
“หม่ามี๊ของลูกเล่นซนนิดหน่อยจนล้ม เท่านั้นไม่พอยังเดินออกไปตากฝนให้แผลเปียกด้วย” ได้ทีวายุก็ฟ้องใหญ่เลย
สีหน้าเรนจิจากเป็นห่วงเริ่มเปลี่ยนเป็นโกรธ เขาโกรธที่หม่ามี๊ไม่ดูแลตัวเองให้ดี “หม่ามี๊ทำให้ผมเป็นห่วง”
“หม่ามี๊ขอโทษ คนเก่งอย่าโกรธหม่ามี๊เลยนะ หม่ามี๊ผิดไปแล้ว”
“ผมหายโกรธก็ได้ถ้าหม่ามี๊สัญญาว่าต่อจากนี้หม่ามี๊จะดูแลตัวเองให้ดี”
“หม่ามี๊สัญญา”
“สัญญาแล้วก็ทำให้ได้ด้วย” วายุยังคงไม่จบกับเธอ เขาโกรธเธอมากแค่ไหนกันเนี่ย!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผู้หญิงคนนี้คือหม่ามี๊ของผม