วายุปิดประตูเสร็จก็เดินกลับมานอนต่อที่เตียงพร้อมกับกอดยี่หวาเหมือนเดิม อย่างกับว่าเมื่อครู่ไม่มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นทั้งนั้น
พอเขาตื่นขึ้นมาอีกครั้งก็เห็นยี่หวาที่อาบน้ำแต่งตัวเสร็จแล้วกำลังนั่งเล่นโทรศัพท์อยู่ข้างเตียง “ตื่นนานยัง?”
“คุณตื่นแล้วเหรอคะ ฉันเองก็เพิ่งตื่นได้ไม่นานค่ะ”
“ไม่ปลุกฉัน?”
“นานๆ ทีจะเห็นคุณหลับ ปกติเห็นทำแต่งาน ฉันก็เลยไม่อยากรบกวนเวลานอนของคุณค่ะ”
“รบกวนได้”
“อะแฮ่ม! คุณไปอาบน้ำเถอะค่ะ จะได้ออกไปข้างนอกกัน” ยี่หวาไล่ชายหนุ่มไปอาบน้ำ ก่อนที่เขาจะอ่อยเธอไปมากกว่านี้
“อืม”
เมื่อวายุอาบน้ำแต่งตัวเสร็จยี่หวาก็ให้เขาเปิดประตูออกไปดูลาดเลาก่อน แต่วายุก็ไม่คิดว่าเขาจะต้องมาเจอกับดาหลาอีก “ฉันรอคุณอยู่ค่ะ กว่าคุณจะออกมาไม่รู้ว่าป่านนี้พี่สาว…”
“ฉันทำไมเหรอ?” ยี่หวาแทรกตัวมาอยู่ตรงหน้าวายุ ถลึงตามองหญิงสาวตรงหน้าอย่างจับผิด
“ยี่…ยี่หวา! ทำไมแกมาอยู่ที่ห้องของคุณวายุ ไม่สิ! นี่แกอยู่ห้องคุณวายุตั้งแต่เช้าเลยเหรอ”
“ผมชื่อภูวิศ!” วายุกดเสียงต่ำเย็นยะเยือก เขาไม่ชอบเลยที่โดนคนอื่นเรียกชื่อเล่นนอกจากยี่หวา
“ตั้งแต่เมื่อคืน แล้วทำไมฉันจะอยู่ห้องแฟนฉันไม่ได้”
“แฟน? นี่ทั้งสองคน…เป็นแฟนกันอย่างนั้นเหรอ” สีหน้าดาหลาตอนนี้พร้อมที่จะฆ่ายี่หวาได้ทุกเมื่อ เดี๋ยวนะ? ถ้าอย่างนั้นก็แสดงว่าวายุรู้ว่าเธอโกหกอย่างนั้นเหรอ…
“ไม่ใช่แฟน” วายุพูดออกมาด้วยน้ำเสียงหนักแน่น ยี่หวาจึงหันไปถลึงตาใส่ ส่วนดาหลาก็ถอนหายใจอย่างโล่งอกพร้อมกับหันไปส่งสายตาเยาะเย้ยให้ยี่หวา แต่ยังไม่ทันที่ทั้งสองคนจะเข้าใจผิดมากไปกว่านี้ วายุก็รีบพูดออกมาอีกครั้ง “เป็นคู่หมั้น”
“คู่…หมั้น!” ดาหลาตะโกนขึ้นอย่างกับคนบ้า นี่ทั้งสองคนไปหมั้นกันตอนไหน เพิ่งเคยเจอกันได้ไม่นานเองไม่ใช่เหรอ “เป็นไปไม่ได้ คุณเป็นพ่อของเรนนะ จะหมั้นกับผู้หญิงคนอื่นได้ยังไง”
“แล้วไง?” วายุส่งเสียงแข็งให้ดาหลา และก้มลงไปส่งเสียงอ่อนให้ยี่หวา “ไปเถอะ”
“ค่ะ” ยี่หวาพยักหน้าแล้วควงแขนวายุเดินเลี่ยงดาหลาที่กำลังยืนช็อกอยู่อย่างไม่สนใจ “ว่าแต่ทำไมเธอดูตกใจมากเลยพอรู้ว่าฉันอยู่ห้องคุณตั้งแต่เมื่อคืน”
“ก็แค่เรื่องตลก”
“ถ้าอย่างนั้นคุณไปก่อนเลยเดี๋ยวฉันขอไปหาพนักงานคนหนึ่งก่อน”
“โจเซฟอยู่ที่นี่”
“ใช่ค่ะ ทำไมเหรอคะ” ยี่หวาเอียงหัวถามอย่างสงสัย เพราะไม่เข้าใจในสิ่งที่เขาต้องการจะสื่อ
“เธอเจอเขาแล้ว?”
“ค่ะ เมื่อวานตอนฉันออกไปรับลมข้างนอก”
“ผู้ชายคนนั้นเป็นศัตรู ฉันไม่ชอบให้เธอไปอยู่ใกล้” วายุพูดออกมาตรงๆ ตามความรู้สึก แต่ก็ดูเหมือนว่าเธอจะไม่เข้าใจ…
และที่สำคัญเธอว่ายน้ำไม่เป็น!
แค่ตอนนี้เธอไม่กลัวน้ำก็ดีแค่ไหนแล้ว…
“ยี่หวา!” โจเซฟที่ยืนดูยี่หวาอยู่ในตอนแรกตะโกนขึ้นเสียงดัง แต่ยังไม่ทันที่จะได้กระโดดลงไปก็มีคนพุ่งตัวลงไปก่อนแล้ว
ตู้ม...!!!
ดาหลาหน้าซีดลงอย่างกะทันหัน เพราะไม่คิดว่าโจเซฟจะยืนมองยี่หวาอยู่ ทั้งที่ตอนแรกเธอก็ไม่เห็นว่าจะมีใคร หวังว่าเขาจะไม่เห็นสิ่งที่เธอทำหรอกนะ
แต่ที่แน่ๆ ทำไมวายุต้องลงไปช่วยยัยนั่นด้วย!
ก่อนหน้านี้วายุกำลังนั่งอยู่ตรงมุมที่ไม่ค่อยมีผู้คนเดินผ่าน ซึ่งอยู่ชั้นล่างที่ยี่หวายืน แต่ใครจะไปคิดว่าขณะที่เขากำลังนั่งมองวิวก็เห็นยี่หวาตกลงมาต่อหน้าต่อตา สมองของวายุสั่งการทันทีว่าเขาต้องรีบกระโดดลงไปช่วยเธอจนลืมผู้คนรอบข้างไปจนหมด
วายุอยู่ใต้น้ำทะเลพยายามเบิกตากว้างเพื่อมองหาหญิงสาวจนในที่สุดก็เจอ เขาไม่รอช้ารีบโอบเอวเธอแล้วพาขึ้นเรือทันที โจเซฟที่ไปตามหมอในเรือมาก็รีบให้เขาดูอาการยี่หวา เพราะตอนนี้เธอหมดสติไปแล้ว
“เป็นไง?” วายุถามออกมาด้วยน้ำเสียงร้อนรน แต่ใบหน้าเขายังคงนิ่งอยู่
“คุณผู้หญิงท่านนี้หมดสติไปเพราะความตกใจ โชคดีที่คุณภูวิศลงไปช่วยได้เร็ว เธอก็เลยยังไม่ทันได้สำลักน้ำเข้าไปเยอะ” หมอประจำเรือเงยหน้าขึ้นไปพูดกับวายุ
“ขอบคุณ คุณภูวิศมากเลยที่ช่วยยี่หวาเอาไว้ ไม่อย่างนั้นเธอต้องแย่แน่เลย ไม่รู้ทำไมถึงตกลงมาได้” ควิลเลอร์พูดออกมาทั้งน้ำตา เพราะเขาตกใจมากตอนที่เห็นยี่หวาตกลงไปในน้ำ
วายุไม่ตอบสายตาเอาแต่จ้องมองยี่หวาที่นอนหมดสติอยู่ จนโจเซฟที่ยืนอยู่ข้างๆ ต้องสะกิด ก่อนจะหันไปพูดกับหมอ “พาเธอไปพักผ่อนที่ห้องเถอะ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผู้หญิงคนนี้คือหม่ามี๊ของผม