ยี่หวาไล่ให้วายุกลับไปที่ห้องของเขาตั้งแต่เช้าตรู่ เพราะเธอกลัวว่าจะมีคนมาเห็น ทันทีที่วายุออกไปยี่หวาก็รีบกดโทรออกหาฮาเดส
ปลายสายกดรับอย่างไม่เต็มใจ พร้อมกับส่งเสียงห้วนๆ ใส่เธอ “โทรมาทำไม หรือว่าเธอเปลี่ยนใจจะกลับมาหาฉัน?”
“เปล่า” ยี่หวารีบปฏิเสธทันควัน “ฉันแค่จะโทรมาขอยืมคนสักส่วนหนึ่ง”
“ทำไร?”
“นายไม่ต้องรู้หรอก เอาเป็นว่านายจะให้ฉันยืมไหม ไม่อย่างนั้นฉันจะได้ไปหาคนอื่นแทน” ยี่หวาตัดสินใจไม่บอกเขา เพราะเธอกลัวว่าเขาจะไปฆ่าคนพวกนั้นโดยที่เธอยังไม่ได้ทำอะไร
“ไม่ต้อง! คนของฉันก็คือคนของเธอ” อีกอย่างเขาไม่อยากให้ยี่หวาไปหาคนอื่น เพราะหากอีกฝ่ายทรยศผลที่ตามมาอาจจบไม่สวย
“ขอบคุณ แล้วนายก็เลิกลอบกัดคุณวายุได้แล้ว อย่าคิดว่าฉันไม่รู้นะว่าตอนนี้นายกำลังวางแผนทำอะไรอยู่”
“ก็บอกให้ผู้ชายคนนั้นยอมแพ้ซะสิ แล้วฉันจะหยุด ทำไมเธอถึงต้องสร้างศัตรูให้ฉันเหนื่อยด้วยก็ไม่รู้ แต่ก็ดี ชีวิตช่วงนี้เลยไม่น่าเบื่อ”
“เรื่องของนายแล้วกัน แค่นี้แหละ” แต่ยังไม่ทันที่ยี่หวาจะกดวางสาย ฮาเดสก็พูดแทรกขึ้นมาก่อน
“มีอะไรให้ช่วยก็บอก”
“ขอบใจ”
หลังจากที่ยี่หวาวางสายจากฮาเดส เธอก็อาบน้ำแต่งตัวและเก็บกระเป๋า เพราะวันนี้เป็นวันสุดท้ายที่จะได้อยู่บนเรือลำนี้ แถมวันนี้เธอจะได้เจอเรนจิลูกของเธอแล้ว!!!
พอยี่หวาเดินออกมาจากห้องเพื่อไปหาควิลเลอร์ ก็เห็นมีคนยืนล้อมรอบดาหลาเยอะมาก เหมือนกับว่าพวกเขากำลังแสดงความยินดีอะไรบางอย่างกับเธอ
เกิดอะไรขึ้น?
“อ่าว! ยี่หวามาแล้วเหรอ เธอเห็นข่าวหรือยัง” ควิลเลอร์เดินเข้ามาหายี่หวาพร้อมกับเอ่ยถามอย่างตื่นเต้น
“ข่าวอะไรคะ?”
“ก็ข่าวที่ดาหลากำลังจะหมั้นกับประธานภูวิศเร็วๆ นี้ไง”
ยี่หวาตะลึงเล็กน้อยก่อนจะปรับสีหน้าและเก็บอารมณ์ความรู้สึกแปลกใจให้มิดชิดอย่างรวดเร็ว พร้อมกับพูดออกมาอย่างประชดประชัน “เป็นเรื่องที่น่ายินดีจริงๆ”
“ไม่อยากจะเชื่อเลย ก็ว่าอยู่ทำไมเธอถึงได้เล่นหนังแถมยังเป็นนางเอกอีก ไหนจะงานเลี้ยงครั้งนี้ที่ถูกจัดขึ้นอย่างกะทันหัน”
ยี่หวาทำเป็นพยักหน้าเห็นด้วยกับควิลเลอร์ ก่อนจะกดโทรศัพท์พิมพ์ข้อความไปหาวายุว่า [คุณยังไม่ต้องปฏิเสธอะไรทั้งนั้น ปล่อยให้เธอมีความสุขไปก่อน]
แม้วายุจะไม่เห็นด้วย แต่เขาก็ไม่กล้าขัดหญิงสาว เขายอมที่จะกลายเป็นเครื่องมือในการแก้แค้นของเธอ [อืม]
“ว่าแต่ที่เธอโพสต์หมายความว่ายังไงเหรอดาหลา ทำไมถึงโพสต์แบบนั้น เกี่ยวกับเรื่องนี้ด้วยหรือเปล่า”
“หรือว่าจะมีมือที่สาม!”
“แต่ว่าฉันก็ยังไม่เคยเห็นคุณภูวิศยุ่งกับผู้หญิงคนไหนเลยนะ แถมเขาเองก็เพิ่งออกมาเปิดตัวด้วย ไม่อย่างนั้นถ้าเขามีผู้หญิงคนอื่นจริงๆ ก็ต้องมีข่าวออกมาบ้างแหละ”
“พวกเธอไม่รู้หรอก...” ดาหลาพูดออกมาทำให้คนอื่นๆ ต่างก็หันมามองหน้ากัน แสดงว่าเรื่องนี้ต้องมีมือที่สามแน่ๆ
“คู่หมั้นจอมปลอม ฉันต่างหากที่เป็นคู่หมั้นตัวจริง คุณเคยถามฉันใช่ไหมว่าทำไมฉันถึงหนีคุณมา”
“อย่าบอกนะว่าคุณจำเรื่องทั้งหมดได้แล้ว”
“อืม เหตุผลที่ฉันหนีคุณมา เป็นเพราะฉันต้องกลับมาหาลูกกับสามีของฉัน หวังว่าคุณจะเข้าใจฉันนะ” ว่าจบยี่หวาก็เดินแยกออกมาแล้วเดินไปขึ้นรถที่ซัพพอร์ตกำลังจอดรออยู่ ปล่อยให้โจเซฟได้แต่ยืนนิ่ง
แสดงว่าเธอคบหากับประธานภูวิศนานแล้ว แถมยังมีลูกด้วยกันอีก แล้วแบบนี้เขาจะเอาอะไรไปสู้ แบบนี้มันเหมือนกับว่าแพ้ตั้งแต่ยังไม่เริ่มเลย เพราะเขาก็คงไม่เลวพอไปทำให้ครอบครัวคนอื่นเขาแตกแยกหรอก
ยี่หวานั่งรถมาได้สักพักก็มาหยุดที่สำนักทะเบียนเขต เธอจึงถามซัพพอร์ตอย่างงงๆ “มาทำอะไรที่นี่?”
ซัพพอร์ตไม่ตอบอะไร ลงจากรถมาเปิดประตูให้ยี่หวาก็เห็นว่าวายุยืนรออยู่ คงไม่ใช่ว่าเขาพาเธอมาจดทะเบียนสมรสหรอกใช่ไหม แบบนี้มันไม่รีบเกินไปหน่อยเหรอ เธอเพิ่งจะเอ่ยปากเมื่อคืนเองนะ
“ไปกันเถอะ” วายุพูดพร้อมกับส่งมือมาให้เธอจับ แล้วพาเดินเข้าไปข้างใน
“แต่ว่าฉันยังไม่ได้เตรียมเอกสารอะไรมาเลยนะ” เพราะคงไม่มีใครพกทะเบียนบ้านตัวจริงเดินไปเดินมาหรอก วายุไม่ตอบแต่หยิบซองเอกสารมาจากมือกองทัพและส่งให้ยี่หวา เธอจึงเปิดดูข้างในอย่างมึนงง ก็พบกับเอกสารที่ใช้ในการจดทะเบียนสมรสทั้งหมด “ไปเอามาจากไหนคะ?”
“พี่เธอ”
“อ้อ! ว่าแต่ทำไมวันนี้ไม่มีคนเลย ไม่ใช่ว่าเขาปิดแล้วหรอกนะ”
“สั่งปิด” วายุตอบออกมาด้วยสีหน้าเรียบเฉย ที่แท้เขาก็เป็นคนสั่งปิดนี่เอง
เฮ้อ! คนมีอำนาจนี่มันดีจริงๆ เลย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผู้หญิงคนนี้คือหม่ามี๊ของผม