ผู้หญิงคนนี้คือหม่ามี๊ของผม นิยาย บท 55

ภายในรถยนต์มินิคูเปอร์ เด็กน้อยคนหนึ่งเอาแต่นั่งยิ้มตั้งแต่ที่ก้าวขาขึ้นรถมาแล้ว ไม่คิดเลยว่าที่หม่ามี๊หายไปก่อนหน้านี้ก็เพื่อไปซื้อรถเอาใจเขา

“ผมดีใจที่หม่ามี๊ไม่ขับรถคันนั้นแล้ว” เพราะรถคันนั้นนิสัยไม่ดี ทำให้เขาต้องเข้าใจหม่ามี๊ผิด

“ถ้าหม่ามี๊ขับเดี๋ยวเรนก็โกรธหม่ามี๊อีก” ยี่หวาพูดด้วยใบหน้าง้องอน

เรนจิรีบก้มหน้าสำนึกผิด “ผมขอโทษที่งี่เง่าครับ”

ยี่หวาที่เห็นใบหน้ารู้สึกผิดของคนด้านข้างก็หลุดหัวเราะออกมาเล็กน้อย “เป็นเด็กจะงี่เง่าก็ได้ไม่ผิด”

อีกอย่างไม่ว่าคนเก่งของเธอจะทำอะไรก็ย่อมไม่ผิด!

“แล้วนี่เราจะไปไหนกันครับ” เรนจิถามขึ้น เมื่อเห็นว่าทางที่ยี่หวากำลังขับไปไม่เหมือนทางกลับคอนโดเธอ

“ไปตลาดสดซื้อของทำอาหารกัน”

เรนจินิ่งไปสักพักเหมือนกำลังคิดอะไร สักพักเขาก็พูดขึ้น “จริงสิครับ! คุณปู่ชอบทานอาหารฝีมือหม่ามี๊มาก หม่ามี๊ไปทำที่บ้านผมได้ไหมครับ”

“ได้สิจ๊ะ”

หลังจากที่ทั้งสองคนซื้อวัตถุดิบสำหรับทำอาหารที่ตลาดเสร็จ ยี่หวาก็ขับรถไปยังบ้านพิทวัสชญวงศ์ทันที ซึ่งนี่เป็นครั้งแรกที่พิชญ์สิณีได้เห็นรถของยี่หวา ใบหน้าของเธอตอนนี้จึงเกิดการดูถูกเหยียดหยาม

พิชญ์สิณีเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงหยาบกระด้าง “เธอมาทำอะไร”

ยี่หวารู้สึกได้ว่าคนตรงหน้าดูเหมือนจะกำลังหงุดหงิดเธอ แววตาและน้ำเสียงเปลี่ยนไปจากคราวก่อน เธอไปทำอะไรให้คุณหญิงท่านนี้โกรธตอนไหน หรือว่าเป็นเพราะเธอเข้ามายุ่งวุ่นวายกับชีวิตหลานชายของคุณหญิงมากเกินไป บวกกับฐานะของเธอที่เป็นเพียงคนธรรมดาเท่านั้น

เรนจิที่อยู่ในอ้อมกอดของยี่หวาก็รับรู้ได้ถึงแรงกดดันจากย่าของเขา จึงเอ่ยขึ้นแทน “หม่ามี๊มาทำอาหารให้ผมทานครับ”

“แล้วนี่พ่อเราไปไหน ทำไมถึงให้คนนอกมาส่ง” พิชญ์สิณีเน้นย้ำคำว่าคนนอก ทำเอาเรนจิถึงกับไม่พอใจ

“หม่ามี๊ไม่ใช่คนนอกนะครับ”

“เอ๊ะอะอะไรกัน...อ้าวแม่หนู!” ธวัฒน์ที่เพิ่งเดินออกมาจากห้องรับแขก พอเห็นยี่หวาก็ตกใจ สายตาเหลือบไปมองถุงในมือหญิงสาว “ในมือนั่น...เธอจะทำอาหารเหรอ”

“ใช่ค่ะ”

“ดีๆ ฉันจะรอทาน” สีหน้าธวัฒน์ดูปลาบปลื้ม ในที่สุดเขาก็ได้ทานอาหารอร่อยๆ ที่ผู้หญิงคนนี้ทำอีกครั้ง ผิดกับพิชญ์สิณีที่ส่งสายตาอำมหิตไปให้ แต่เจ้าตัวก็ไม่รู้สึกเลยสักนิด

ในขณะที่ยี่หวากำลังทำอาหารอยู่นั้น เรนจิที่อยู่ๆ ก็รู้สึกสงสารพ่อตัวเองขึ้นมา จึงแอบเดินขึ้นไปบนห้องแล้วกดเบอร์โทรออกหาวายุ

“ให้ทายตอนนี้ผมอยู่ไหน” น้ำเสียงเรนจิมีความหยอกล้อนิดหน่อย แต่อีกฝ่ายกลับไม่ได้สนใจเลย

“อยู่ไหน”

เรนจิที่เห็นว่าวายุไม่เล่นตัวแม้แต่น้อยก็อดหัวเราะออกมาไม่ได้ “ผมบอกก็ได้ ตอนนี้หม่ามี๊กำลังทำอาหารอยู่ที่บ้านเรา...” ยังไม่ทันที่เด็กน้อยจะพูดจบ ปลายสายก็ถูกตัดไป

ทำไมพ่อเขาไร้มารยาทเช่นนี้!!!

สิบนาทีต่อมาหลังจากที่วางสายเรนจิ รถของวายุก็ขับมาจอดอยู่หน้าบ้านด้วยความรวดเร็ว ทำเอาพิชญ์สิณีกับธวัฒน์มึนงงไปชั่วขณะ เพราะนี่เป็นครั้งแรกที่วายุกลับบ้านเร็ว

ครั้งแรกจริงๆ

“เกิดอะไรขึ้น ทำไมวันนี้แกกลับบ้านเร็ว” พิชญ์สิณีเอ่ยถามอย่างร้อนรน ไม่ใช่ว่าเกิดเรื่องอะไรร้ายแรงขึ้นหรอกนะ

“หิว” คำเดียวสั้นๆ ได้ใจความ

เรนจิที่อยู่ในครัวกำลังดูยี่หวาทำอาหาร พอได้ยินเสียงวายุก็เดินออกมาด้วยท่าทางของผู้ชนะ “ทีหลังอย่าทำแบบนั้นกับผมอีก” อย่าขังเขาไว้ในห้อง ไม่งั้นเขาจะไม่ช่วยพ่อให้ได้เจอหม่ามี๊แล้ว

“อืม” วายุไม่คิดว่าลูกชายตัวเองจะแสบและเจ้าเล่ห์ขนาดนี้

ยี่หวาที่เดินออกมาจากห้องครัวตั้งใจว่าจะมาเรียกพิชญ์สิณีและธวัฒน์ให้ไปทานข้าว ก็ต้องตกใจเมื่อเห็นวายุ “อ่าวคุณ? งานเสร็จแล้วเหรอคะ”

ผู้ชายคนนี้โกรธที่เธอขับรถเร็ว แต่ตัวเขาเองก็ไม่ต่างกันเลย เพราะดูจากระยะเวลาแล้วเขาคงจะตามมาทีหลังด้วยความเร็วสูง

“อืม” เขาโกหก นี่เป็นครั้งแรกที่วายุต้องเอางานกลับมาทำที่บ้าน ซึ่งมันก็คุ้มเพราะมันทำให้เขาได้เจอเธออีก

“ก็ได้ค่ะ” ยี่หวาตอบรับพีรพัฒน์ทันทีเพราะไม่อยากถามอีกฝ่ายให้มากความ เธอเดินออกมาขณะที่ทานข้าวอยู่ก็นับว่าเสียมารยาทมากแล้ว ขืนกลับไปช้ามีหวังโดนคุณหญิงเพ่งเล็งอีกแน่

“ดีมากน้องรัก ส่งโลเคชั่นให้ในไลน์นะ บาย” แล้วเจ้าตัวก็ตัดสายเธอไปเลย

พอคุยโทรศัพท์เสร็จยี่หวาก็กลับมานั่งที่เดิมด้วยท่าทางเกร็งๆ เมื่อไหร่พวกเขาจะกินเสร็จ เธออยากกลับบ้านแล้ว

“ใครโทรมาเหรอครับหม่ามี๊”

“เรนจิถามแบบนั้นเป็นการเสียมารยาทนะ” พิชญ์สิณีดุเรนจินิดหน่อยด้วยเสียงอ่อนโยน เพราะเธอกลัวว่าหลานจะตกใจ

ส่วนวายุแม้สีหน้าจะนิ่งเฉยแต่ในใจกลับชื่นชมลูกชาย ทำดีมาก!

“ไม่เป็นไรค่ะ พี่ชายหม่ามี๊โทรมา...”

ยังไม่ทันที่ยี่หวาจะพูดกับเรนจิจบ ก็ได้ยินเสียงแหลมๆ ตะโกนขึ้นมาจากข้างนอกเสียก่อน “คุณแม่คะ!”

เสียงนี้มัน...

เหมือนกับเสียงในโทรศัพท์ที่คุยกับเรนจิตอนนั้นเลย...เสียงน้องสาวต่างแม่เธอ!

สีหน้ายี่หวาดูลนลานมาก เพราะเธอไม่อยากให้ผู้หญิงคนนั้นเห็นหน้าเธอ ซึ่งวายุกับเรนจิก็รู้ได้ทันทีว่าผู้ที่มาใหม่เป็นใครก็มีท่าทีลนลานไม่ต่างกัน

วายุหันไปส่งสายตาไม่พอใจให้กับพิชญ์สิณี เพราะเขารู้ว่าแม่เขาโทรเรียกผู้หญิงคนนั้นมาสินะ ไม่รอช้าวายุรีบลุกขึ้นจากเก้าอี้แล้วเดินไปหายี่หวา ดึงแขนเธอให้ลุกขึ้นตาม เก็บจานของเขากับเธอ ก่อนจะส่งสายตาไปให้ลูกชาย

ซึ่งเรนจิก็รู้ได้ทันทีว่าพ่อเขาต้องการจะสื่อถึงอะไร รีบลงจากเก้าอี้แล้ววิ่งไปหาดาหลาที่กำลังเดินหาพิชญ์สิณีอยู่ทางด้านนอกห้องทานข้าว

วายุพายี่หวาเดินอ้อมมาทางห้องครัว ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกับที่เรนจิกำลังจูงมือดาหลามาที่ห้องทานอาหาร

เรนจิแทบอยากจะร้องไห้ ทำไมเขาต้องมาจูงมือผู้หญิงคนนี้ด้วย พ่อนะพ่อ! ก็รู้ว่าเขาไม่ชอบแม่ ตัวเองรีบจูงมือหม่ามี๊ตัดหน้าไปเลยนะ

ถ้าไม่ใช่เพราะหม่ามี๊ เขาไม่มีทางยอมทำแบบนี้แน่!

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผู้หญิงคนนี้คือหม่ามี๊ของผม