เช้าวันต่อมา
ทั้งที่วันนี้เป็นวันอาทิตย์ แต่ทำไมที่บ้านถึงได้ดูครึกครื้นขนาดนี้ เพราะพอยี่หวากับเรนจิออกมาจากห้องก็พบว่าในห้องรับแขกมีธาราธร พีรพัฒน์ และเดวิลกำลังนั่งคุยกันอยู่
“อ่าว! ยี่หวาตื่นแล้วเหรอ” ธาราธรเอ่ยทักก่อนเพื่อนเมื่อเห็นยี่หวาเดินจูงมือเรนจิมาทางห้องรับแขก
เรนจิที่เห็นภาพตรงหน้าก็รู้สึกอารมณ์ไม่ดีขึ้นมาทันที วันนี้วันหยุดอุตส่าห์คิดว่าจะได้อยู่กับหม่ามี๊สองคน แต่ทำไมตอนนี้กลับมีสมาชิกในบ้านเพิ่มมาอีกสามคน แต่ถึงแม้ว่าเขาจะโกรธแค่ไหน อยู่ต่อหน้าหม่ามี๊เขาก็จะต้องทำตัวดีไว้ก่อน
“สวัสดีครับ” เรนจิพนมมือก้มหัวไหว้ผู้ใหญ่ที่มาใหม่ทั้งสามคนอย่างว่านอนสอนง่าย ใบหน้ายิ้มแย้มออกมาอย่างน่ารักทั้งที่ข้างในบึ้งตึง
“มาทำอะไรกันเยอะแยะ” ยี่หวาเห็นการรวมตัวที่คาดไม่ถึงนี้ก็ได้แต่เอ่ยถามอย่างสงสัย เพราะธาราธรเธอเข้าใจว่ามาหาพี่ชาย แล้วเดวิลกับพี่ชายเธอมาทำไม
“ก็แค่อยากมาหาน้องสาวบ้างไม่ได้เหรอ ไม่ได้เจอกันตั้งนาน” พีรพัฒน์พูดขึ้นด้วยท่าทางออดอ้อนที่ดูแล้วน่าหมั่นไส้มากกว่าน่าเอ็นดู
“เมื่อวานก็เพิ่งเจอไปเองนะ”
“พี่ธาราชวนฉันมา” เดวิลรีบพูดขึ้นบ้างก่อนที่เขาจะโดนหญิงสาวตรงหน้าบ่น
“แล้วมาทำอะไรกัน” สรุปยี่หวาก็ต้องถามคำถามเดิมซ้ำอีกครั้ง
“ฉันก็แค่คิดถึงบรรยากาศเก่าๆ เธออุตส่าห์กลับมาทั้งที อย่างน้อยก็ขอรวมตัวหน่อยไม่ได้เหรอ” คราวนี้ธาราธรเป็นฝ่ายอธิบายบ้าง
“ทำไมผมรู้สึกเหมือนเป็นส่วนเกิน” พีรพัฒน์เอ่ยออกมาอย่างน้อยใจ ถึงแม้ว่าการมาครั้งนี้เขาจะเป็นคนเสนอหน้ามาเองก็เถอะ เนื่องจากเมื่อวานตอนที่ธาราธรโทรมาชวนเดวิลเขากำลังถ่ายรายการกับเดวิลอยู่พอดี เพราะงั้นตอนที่ยี่หวามีปัญหาเขาเลยไม่ได้โทรมาหาเธอ อีกอย่างระดับน้องสาวเขาก็คงไม่มีอะไรให้ต้องเป็นห่วง
“นายเป็นพี่ชายยี่หวาจะเป็นส่วนเกินได้ยังไง” ธาราธรหันไปพูดกับพีรพัฒน์อย่างเป็นกันเอง เพราะถ้านับตามอายุแล้วธาราธรอายุมากกว่าพีรพัฒน์หนึ่งปี
“ฉันรู้แล้วว่าทุกคนมาทำไม” ทันทีที่ยี่หวาพูดจบทุกสายตาก็จับจ้องมาที่เธอกันเป็นตาเดียว “รู้สึกว่าวัตถุดิบยังเหลืออีกเยอะ เดี๋ยวฉันไปทำอาหารมาให้”
“น้องสาวพี่ฉลาดที่สุด” พีรพัฒน์พูดออกมาอย่างภาคภูมิใจ
คิดว่ายี่หวาจะไม่รู้ทันพีรพัฒน์หรือไง เพราะปกติแล้วพี่ชายเธอใช่ว่าจะตัวติดกับเธอตลอด ขนาดก่อนหน้านี้เธอเจอเขาแค่ปีละไม่กี่ครั้ง แต่เขาก็คิดถึงแต่อาหารที่เธอทำ
“ว่าแต่คุณวายุไปไหนคะ” ยี่หวาหันไปถามธาราธร แต่ทันทีที่เจ้าตัวได้ยินสีหน้าก็ดูจะมีพิรุธสายตาเลิ่กลั่กไปมา
เรนจิที่เหมือนจะนึกอะไรขึ้นมาได้ก็รีบหันไปถามยี่หวาอย่างร้อนใจ “หม่ามี๊ วันนี้วันที่เท่าไหร่ครับ”
“วันที่ 26 จ้ะ ทำไมเหรอ?”
ยังไม่ทันที่เรนจิจะได้ตอบอะไรธาราธรก็ตะโกนแทรกขึ้นมาเสียก่อน “ฉันหิวแล้วเธอรีบไปทำอาหารเถอะ!”
ดูเหมือนว่าจุดประสงค์ของธาราธรจะไม่ใช่เรื่องเดียวกับพีรพัฒน์
“รุ่นพี่รู้ไหมว่ามีพิรุธทำตัวอย่างกับกินปูนร้อนท้องไปได้…” แต่ยังไม่ทันที่ยี่หวาจะได้จับผิดต่อ เสียงโทรศัพท์เธอก็ดังขึ้น “คะ? พี่ควิล”
“เธอเข้าอินสตาแกรมเดี๋ยวนี้เลย แล้วดูที่แชทแรก”
“ทำไมคะ”
“เข้าไปดูก่อนแล้วค่อยถาม” ควิลเลอร์พูดออกมาอย่างตื่นเต้น เพราะไม่คิดว่าคนระดับนั้นจะส่งข้อความมาหายี่หวา ผู้หญิงคนนี้ยิ่งรู้จักยิ่งใกล้จะหัวใจวาย
“เข้าไปตอบก่อนแล้วค่อยถาม”
ถึงยี่หวาจะไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่แต่ก็กดเข้าไปในอินสตาแกรมแต่โดยดี แล้วก็เห็นข้อความของผู้ชายคนหนึ่งอยู่บนสุด
[ชาร์ล : สำหรับรูปพอใจไหมครับ?]
[ยี่หวา :?]
[ชาร์ล : คุณตอบผมแล้ว! คุณยังจำผมได้ไหม]
วายุไม่สนใจธาราธร ก้มหน้าลงไปพูดกับเรนจิแทน “หม่ามี๊ของลูกล่ะ”
“หม่ามี๊กำลังทำอาหารอยู่”
ยี่หวาที่เพิ่งทำอาหารเสร็จกำลังจะออกมาตามทุกคนก็เห็นวายุพอดีจึงเอ่ยขึ้น “คุณกลับมาแล้วเหรอ กินอะไรมายังคะ มากินข้าวด้วยกันไหม”
“อืม รบกวนเธอแล้ว”
“จริงสิ! ฉันยังไม่ได้ถามเลยว่ายี่หวากับนายเป็นพี่น้องแท้ๆ กันได้ยังไง เพราะฉันจำได้ว่าเมื่อก่อนยี่หวาไม่เคยบอกเลยว่ามีพี่ชายด้วย” ธาราธรพูดขึ้นขณะที่กำลังนั่งทานข้าวเพื่อไม่ให้บรรยากาศเงียบจนเกินไป แต่ดูเหมือนว่าคำถามของธาราธรจะทำให้บรรยากาศอึดอัดมากกว่าเดิมเสียอีก
เพราะตอนนี้วายุคงไม่รู้ตัวว่าเขากำลังแผ่รังสีกดดันพีรพัฒน์อยู่ อันที่จริงเรื่องนี้วายุเองก็อยากรู้ แต่เขาก็ไม่อยากสืบประวัติยี่หวาโดยพลการ ได้แต่รอให้เธอเป็นคนพูดออกมาเองทุกครั้ง
“ก็เกิดจากพ่อแม่เดียวกันก็ต้องเป็นพี่น้องกันสิครับ” พีรพัฒน์เอ่ยออกมาอย่างไม่ได้คิดอะไร เพราะเขาไม่เข้าใจจุดประสงค์ของอีกฝ่ายเท่าไหร่
“นายก็เป็นลูกของคุณดนัยณัฐเหรอ?” ธาราธรถามขึ้นอีกครั้ง เพราะจากที่เขารู้ดนัยณัฐมีแต่ลูกสาวสองคนที่เกิดจากคนละแม่
พีรพัฒน์เริ่มเข้าใจความหมายที่อีกฝ่ายต้องการจะสื่อแล้วจึงพูดออกมาอย่างขำขัน “แปลกใช่ไหมครับที่พ่อผมคือคนคนนั้น”
“ใช่ แปลกมาก”
“อันที่จริงเรื่องนี้ผมก็ไม่ค่อยรู้รายละเอียดแน่ชัด ผมรู้แค่ว่าตากับยายผมไม่ชอบพ่อ เพราะงั้นตอนที่ผมเกิดเขาก็เลยเอาผมไปเลี้ยง ยายผมเล่าให้ฟังว่าพวกเขาสั่งให้หมอบอกพ่อกับแม่ผมว่าผมตายแล้ว แต่ในกรณีของยี่หวาอันนี้ผมก็ไม่เข้าใจว่าทำไมไม่พาเธอไปด้วย ปล่อยให้ถูกรังแกอยู่ในบ้านหลังนั้นตั้งนาน”
ทันทีที่พีรพัฒน์พูดจบ วายุ ธาราธร และเดวิล ก็หันมาทางยี่หวาทันที ส่วนยี่หวาที่กำลังตักข้าวเข้าปากถึงกับชะงัก “ฉันโอเคค่ะ”
“หม่ามี๊ยังมีเรนนะ” เรนจิพูดขึ้นเมื่อเห็นสีหน้าของผู้ใหญ่ทั้งสี่คนดูเหมือนว่าจะเป็นห่วงยี่หวา
“ขอบใจนะคนเก่ง”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผู้หญิงคนนี้คือหม่ามี๊ของผม