Chris Part
.
“เป็นไงบ้างวะ” ผมลุกขึ้นยืนเมื่อมาเฟียเปิดประตูเข้ามาหลังจากไปคุยกับคุณย่าเกือบสามสิบนาที มันปรายตามองผมเล็กน้อยก่อนจะหันไปหาแฟนตัวเองที่ยังนั่งนิ่งอยู่ไม่ขยับไปไหน
“นับดาว รอฉันก่อนนะ”
“จะไปไหนเหรอ”
“ฉันมีเรื่องต้องคุยกับคริส”
“คุยกับกู” ผมชี้นิ้วเข้าหาตัวเองอย่างงุนงง คนที่มันควรคุยด้วยตอนนี้คือนับดาวไม่ใช่เหรอ
“เออ” มันตอบเสียงดังฟังชัด ก่อนจะหันไปคุยกับแฟนตัวเองด้วยเสียงที่อ่อนลง “รอหน่อยนะ ไม่นาน”
“อือ” นับดาวพยักหน้ารับ มาเฟียยื่นมือไปลูบหัวเล็กของแฟนสองสามครั้ง ก่อนจะหันมามองผมด้วยสายตาที่แข็งกร้าวขึ้น
“ส่วนมึงออกไปกับกู”
.
.
“มีอะไรวะ”
“มึง...ที่นอนกับพรีม ได้ป้องกันหรือเปล่า” ที่มาเฟียรู้ว่าผมเคยนอนกับพรีมเพราะผมบอกมันเอง ตอนนั้นมันทำท่าว่าจะแต่งงานกับพรีมและเลิกกับนับดาว ผมรู้ว่านับดาวรักมันและมันก็ยังรักนับดาวอยู่เต็มหัวใจ สิ่งที่มันกำลังทำอยู่ไม่ต่างอะไรจากการประชดและทำให้เรื่องทุกอย่างแย่ลง ผมเถียงกับมันและพลั้งปากเรื่องที่เคยนอนกับพรีมออกไป...
ได้ยินแบบนั้นมันก็โกรธและต่อยผมจนปากแตก ก่อนจะถูกยามแยกตัวพวกเราออกจากกัน ไม่กี่วันให้หลังผมก็รู้ว่ามันก็กลับไปคืนดีกับนับดาวแล้วโดยที่พรีมไม่ได้ว่าอะไร หลายครั้งที่ผมไปเยี่ยมคุณย่าแล้วเจอว่าทั้งมาเฟีย นับดาว และพรีมนั่งคุยกันอยู่ ก็เลยมั่นใจว่าเรื่องทั้งหมดคงจบลงแบบแฮปปี้เอนดิ้งแล้ว พอเห็นแบบนั้นผมก็รู้สึกยินดีกับมัน แต่อีกใจก็อยากย้อนเวลากลับไป เพราะผมไม่น่าเอาเรื่องแบบนี้ไปบอกต่อใครเลย คนที่เสียหายมีแค่พรีมคนเดียว ดีที่มาเฟียไม่ใช่ผู้ชายปากสว่าง มันไม่เคยแสดงท่าทีไม่ดีหรือพูดเรื่องนั้นออกไปเลย จนกระทั่งวันนี้...
“มึงก็รู้ว่ากูซีเรียสกับเรื่องพวกนี้มาก ต่อให้เมาเป็นหมากูก็ไม่มีทางลืม” ผมเอ่ยด้วยความมั่นใจ วันนั้นผมใส่ถุงยางด้วยมือตัวเอง และถอดด้วยมือตัวเอง ผมแน่ใจว่าผมป้องกันทุกรอบไม่มีพลาด
“กูไม่เคยนอนกับพรีม ลูกของพรีมไม่ใช่ลูกกู”
“กูรู้”
“พรีมไม่ประวัติเรื่องพวกนี้ ครอบครัวเขาเป็นตระกูลเก่าแก่ แม่เขาหัวโบราณมาก ขนาดไปเรียนที่ออสเตรเลียยังให้ญาติจับตามองทุกฝีก้าวเลย”
“อืม” ผมพยักหน้ารับ เพราะนี้ผมถึงได้เป็นคนแรกของเธอสินะ วันนั้นเห็นไปนั่งดื่มคนเดียว แถมชวนผมไปต่ออีก ตอนแรกผมก็คิดว่าเธอคงผ่านมาพอสมควร จนได้พิสูจน์ด้วยตัวเองนั่นแหละ
“มึงแน่ใจใช่ไหมว่ามึงไม่ได้พลาด ได้เช็กถุงยางตอนเสร็จหรือเปล่าว่ามันรั่วหรือขาดไหม”
“กู...” ผมชะงักไปเมื่อนึกขึ้นได้ ปกติแล้วผมจะเช็กถุงยางหลังจากใช้แล้วทุกครั้งว่ามีการชำรุดหรือเปล่า เพราะถ้าเกิดมันขาดหรือรั่วเพราะแรงเสียดสีผมจะได้ให้ฝ่ายหญิงกินยาคุมได้ทัน แต่วันนั้น...
เพราะมัวแต่ภูมิใจที่ได้กินของดี และไม่รู้ว่าผีหื่นตัวไหนมาเข้าสิง พอเสร็จรอบแรกแล้วผมก็ถอดออกและใส่ใหม่เพื่อต่อรอบสองทันที ไม่ได้เอาถุงยางไปแกว่งน้ำเพื่อเช็กเหมือนเคย และไม่ใช่แค่รอบเดียว วันนั้นผมนอนกับพรีมสามครั้ง และทั้งสามครั้งผมไม่ได้เช็กอะไรเลย
หมายความว่าถ้าพรีมท้องกับผม อาจจะเกิดจากถุงยางที่รั่วหรือขาดแค่เพียงเล็กน้อยโดยที่ผมเห็น ผมรู้ดีว่าการป้องกันมันไม่มีทางไหนที่กันได้ร้อยเปอร์เซ็น แต่ตั้งแต่อายุสิบเจ็ดที่ได้นอนกับผู้หญิงครั้งแรกจนถึงตอนนี้ผมก็ไม่เคยพลาดเลยแม้แต่ครั้งเดียว
แต่ไม่เคยพลาด ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่พลาด...
“ว่ายังไง”
“กูไม่ได้เช็ก”
“ไอ้คริส...”
เกิดความเงียบจนได้ยินเสียงลมยามบ่ายแก่ ๆ ที่พัดไปมาเบา ๆ ผมกลืนน้ำลายอย่างยากลำบาก สายตาที่เพื่อนสนิทมองมาเหมือนกำลังต้องการรู้ว่าผมกำลังคิดอะไร แต่หัวสมองผมกลับว่างเปล่าไปหมด
“ลูกของพรีม คือลูกกูหรือเปล่าวะมาเฟีย”
“กูไม่รู้” มาเฟียตอบเสียงเรียบ แต่ท่าทีของมันคงโกรธไม่น้อย เพราะเรื่องนี้คนที่เดือดร้อนที่สุดคือมัน ทั้ง ๆ ที่มันไม่ได้ทำอะไรเลย แถมเรื่องนี้ยังทำให้คนที่มันรักเสียใจอีก เป็นผมผมก็โกรธ... “แต่ที่กูมั่นใจคือตั้งแต่ที่ย่ากูเข้าโรงพยาบาล พรีมก็สละเวลาว่างทั้งหมดมาอยู่กับย่ากูตลอด เวลานอนแทบไม่มี เขาจะเอาเวลาที่ไหนไปนอนกับคนอื่นวะ”
.
.
ผมจอดรถลงหน้าบ้านตัวเอง ความคิดของผมยังคงล่องลอยไปไกล หลังจากที่คุยกับมาเฟียเสร็จผมก็ขอตัวกลับทันทีไม่ได้เอ่ยลาใคร ผมอยากใช้เวลาคิดทบทวนเรื่องทุกอย่างด้วยตัวเอง
ซองยาที่แม่ของพรีมปาใส่หน้ามาเฟียตอนนี้อยู่ในมือของผม โรงพยาบาลที่พรีมไปใช้บริการเป็นโรงพยาบาลของครอบครัวเควิล เพื่อนสนิทอีกคนของผม ผมลูบซองนั้นอย่างชั่งใจ อยากรู้ว่าพรีมท้องได้กี่เดือนแล้วเพื่อให้แน่ใจ แต่ไม่รู้ว่าเควิลจะช่วยได้แค่ไหน เพราะปกติแล้วโรงพยาบาลต้องเก็บรักษาความลับของผู้ใช้บริการให้ดีที่สุด ยิ่งเป็นโรงพยาบาลใหญ่ขนาดนั้นด้วย...ถ้าพลาดโดนฟ้องขึ้นมามันไม่คุ้มกับชื่อเสียงที่เสียไปเลย
“เออ อย่างที่มึงคิดนั่นแหละ”
‘มึงแม่งล้วงคองูเห่าไม่กลัวตายเลยนะ แล้วนี่ผู้หญิงคนนี้มันอดีตคู่หมั้นไอ้มาเฟียไม่ใช่เหรอ มึงนะมึง เตรียมคำตอบไว้ให้กูดี ๆ ก็แล้วกัน อีกยี่สิบนาทีกูโทรหา แค่นี้’
“ขอบใจมากนะเว้ย”
‘FxxK YOU’
เควิลวางสายทันทีเมื่อได้ด่าผมแล้ว ตอนนี้ผมไม่มีความรู้สึกอะไรเลยแม้จะโดนด่าแบบนั้น หัวสมองมันโล่งไปหมด ร่างกายก็เหมือนชาจนไม่รู้สึกอะไร ผมไม่รู้เหมือนกันว่าจะอธิบายความรู้สึกนี้ยังไงให้คนอื่นเข้าใจ
อีกยี่สิบนาทีหลังจากนี้ผมคงได้คำตอบที่แน่ชัดแล้วว่าเธอท้องกับผมหรือไม่ ผมใช้เวลาที่รอสายจากเพื่อนสนิทเดินเข้าไปในบ้าน ป๊าและหม่าม้าน่าจะกลับมาแล้ว ผมจึงเดินเลี่ยงนั่งไปที่สวนหลังบ้านแทน ยังไม่พร้อมเจอหน้าใครตอนนี้จริง ๆ
นั่งคิดอะไรเรื่อยเปื่อยซักพักมือถือที่ถืออยู่ก็สั่น บ่งบอกว่ากำลังมีสายเรียกเข้า ซึ่งชื่อที่ปรากฏอยู่บนหน้าจอก็ทำให้ผมมือสั่นน้อย ๆ อย่างประหม่า แต่สุดท้ายก็กดรับเพราะอะไรมันจะเกิดก็ต้องเกิดอยู่ดี ผมไม่มีทางหนีมันพ้นอยู่แล้ว
“ฮัลโหล”
“ได้ข้อมูลที่มึงต้องการแล้วนะ”
“อะ...อืม”
“พริมาตามาหาหมอเมื่ออาทิตย์ก่อน ตอนนั้นหมอตรวจพบว่าเธอตั้งครรภ์ได้แปดสัปดาห์กับอีกสามวัน แต่ถ้านับจนถึงตอนนี้คงสิบสัปดาห์แล้ว และก่อนมาหาหมอเธอไม่รู้มาก่อนว่าตัวเองกำลังตั้งท้อง”
“แน่ใจใช่ไหมวะ” ผมถามเควิลย้ำอีกครั้ง เพราะถ้าพรีมท้องสิบสัปดาห์จริง ๆ ก็จะเป็นช่วงเดียวกับที่ผมมีอะไรกับเธอวันนั้น และนั่นก็แปลว่าผมเป็นพ่อของเด็กจริง ๆ นอกจากเธอจะไปมีอะไรกับใครต่อหลังจากนั้น ซึ่งผมไม่คิดว่าเธอจะทำ เพราะคืนนั้นผมรู้ดีว่าเธอบอบช้ำแค่ไหน ครั้งแรกและมาเจอผม แถมผมยังจัดเต็มตั้งสามครั้ง ถ้าเธอยังสามารถนอนกับคนอื่นได้ภายในสามวันก็แกร่งเกินไปแล้ว
“เออ โรงพยาบาลกูไม่เคยตรวจพลาด” ไอ้เควิลเอ่ยย้ำให้ผมมั่นใจ ผมหลับตาลงอย่างยอมรับความจริง ตั้งใจจะวางสายเพื่อนเพื่อใช้เวลากับตัวเองซักหน่อย แต่เสียงของปลายสายที่ดังขึ้นทำให้ผมหยุดการกระทำนั้นลง “และที่สำคัญ”
“...”
“พริมาตาตั้งท้องลูกแฝด”
“ฝะ...แฝด”
“เออ แฝด ถ้าเขาท้องลูกมึงจริง ๆ แปลว่ามึงกำลังจะมีลูกสองคน”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: PLAYBOY คุณพ่อฝึกหัด