ประธานวายร้ายจะแต่งงานกับฉันให้ได้! นิยาย บท 223

การฟื้นขึ้นมาครั้งนี้ แม้ว่าจะรู้สึกอ่อนเพลียไร้เรี่ยวแรงอยู่บ้าง แต่กลับรู้สึกว่าทั่วทั้งร่างกายปลอดโปร่งโล่งสบาย รู้สึกว่าตัวเองมีสุขภาพแข็งแรงขึ้นกว่าแต่ก่อนไม่น้อย

เขาส่ายหน้า พูดอย่างมั่นใจว่า “หมอจ้าว คุณเข้าใจผิดแล้ว ลูกสาวของลูกพี่ลูกน้องผมเป็นคนช่วยผมเอาไว้จริงๆ ผมสามารถรับรู้ได้ด้วยตัวเอง”

หมอจ้าวเดินเข้าไปหาและพูดว่า “ท่านประธานสวี่ คงเป็นเพราะเพิ่งจะผ่านความเป็นความตายมา สมองจึงไม่ค่อยแจ่มใสมาก เริ่มหลงเชื่อสิ่งที่ไม่เป็นวิทยาศาสตร์พวกนี้ ผมจะช่วยตรวจวินิจฉัยให้เอง เครื่องมือทางวิทยาศาสตร์ไม่มีทางหลอกลวงแน่นอน”

สวี่ยิงซานมองไปทางมู่ซย่าอย่างลังเลใจ

แต่กลับเห็นใบหน้าที่เผยรอยยิ้มจางๆของมู่ซย่า และพยักหน้าพูดว่า “แม้ว่าการแพทย์จีนจะกว้างขวางและลึกล้ำมาก แต่ในด้านการตรวจพิสูจน์ก็ไม่ได้แม่นยำเท่ากับเครื่องมือทางวิทยาศาสตร์ ใช่ไหมคะหมอจ้าว เชิญคุณหมอตรวจร่างกายให้ท่านประธานทีนะคะ”

เมื่อครู่หมอจ้าวไม่ได้มองหมอเทวดาที่ทุกคนต่างก็พูดถึงกันเลย คิดว่าคงเป็นแม่หมอแก่ๆคนหนึ่ง คิดไม่ถึงว่าอีกฝ่ายจะอายุน้อยขนาดนี้

ชั่วขณะนั้น ใบหน้าของหมอจ้าวยิ่งเผยแววดูแคลนมากขึ้น

เขาถูกเชิญให้เป็นแพทย์ประจำตัวของเหล่าเศรษฐีทั้งหลาย นั่นย่อมเป็นเพราะว่ามีการศึกษาที่สูงมาก ประสบการณ์ในการรักษาก็เยอะมาก

เขาทำเสียงขึ้นจมูก พูดว่า “ที่แท้หมอเทวดาคนนี้ก็เป็นสาวน้อยคนหนึ่งนี่เอง นึกว่าเป็นพวกแม่มดหมอผีที่ใช้ไสยศาสตร์ซะอีก”

มู่ซย่าขมวดคิ้ว “ดิฉันไม่เข้าใจว่าทำไมหมอจ้าวต้องโจมตีสถานะของฉันด้วย ฉันเป็นผู้หญิงแล้วยังไง จะเรียนวิชาแพทย์ไม่ได้เลยเหรอ”

สีหน้าดูแคลนของหมอจ้าวยิ่งชัดเจนมากขึ้น

“ผมไม่ได้โจมตีสถานะของคุณ ผมก็แค่กำลังพูดความจริง อายุน้อยหมายถึงความไร้ประสบการณ์ ส่วนแพทย์หญิงก็สามารถรักษาได้แค่อาการป่วยทั่วไปเท่านั้น ผมไม่เคยเห็นแพทย์หญิงคนไหนที่ที่มีความเป็นเลิศทางการแพทย์เลย ถึงจะมี ก็ถือว่าน้อยมาก”

เขาดูถูกแพทย์ที่เป็นผู้หญิงตลอดมา คิดว่าผู้หญิงจะรักษาคนป่วยได้ยังไง

มู่ซย่ามองหมอจ้าวด้วยสายตานิ่งขรึมเย็นชา พูดว่า “ในเมื่อคุณไม่เชื่อฉัน ก็ให้เครื่องมือของคุณช่วยพูดดีกว่า”

หมอจ้าวมองมู่ซย่าอย่างดูถูกแวบหนึ่ง พูดว่า “คุณนี่ช่างไม่เห็นโลงศพไม่หลั่งน้ำตาจริงๆเลยนะ”

ว่าแล้ว เข้าก็หันไปเรียกให้คนยกเครื่องมือต่างๆนานาจากรถพยาบาลเข้ามา

สวี่ซิงซิงร้อนใจมาก ดึงตัวหมอจ้าวและถามว่า “หมอจ้าว พูดอะไรบ้างสิ ข้อมูลในผลตรวจใบนี้หมายถึงอะไรบ้าง”

หมอจ้าวส่ายหน้าอย่างเลื่อนลอย “เป็นไปไม่ได้ เป็นไปไม่ได้”

สวี่ซิงซิงขมวดคิ้วและถามว่า “อะไรเป็นไปไม่ได้ ”

หมอจ้าวมองสวี่ซิงซิงแวบหนึ่ง จากนั้นก็เลื่อนสายตาไปที่มู่ซย่า

ผ่านไปไม่กี่วินาที เขาก็รีบเดินเข้าไปหาอย่างรวดเร็ว ในขณะที่ทุกคนไม่ทันจะตั้งตัว เขาก็คุกเข่าลงตรงหน้ามู่ซย่าแล้ว

สวี่ซิงซิงรู้สึกมึนงงมาก แขกทั้งหลายก็รู้สึกมึนงงเช่นกัน มีแต่มู่ซย่าที่เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเรียบๆว่า “หมอจ้าว นี่คุณทำอะไร”

สีหน้าของหมอจ้าวเต็มไปด้วยความละอายใจ เขาครุ่นคิดอยู่ชั่วครู่ จากนั้นก็ฟาดฝ่ามือไปที่ใบหน้าของตนเองหนึ่งที