ยิ่งกู้หว่านหว่านครุ่นคิด หล่อนก็ยิ่งรู้สึกว่าการที่เยี่ยซือเจวี๋ยมอบเปียโนอาร์ทิมิสให้กับมู่ซย่านั้นเป็นเรื่องที่ดี เป็นเรื่องที่ดีมากเลยด้วย
เมื่อถึงเวลานั้นเธอจะได้ตบหน้ามู่ซย่า เธอยิ่งรู้สึกเกลียด เธอจะทำให้มู่ซย่าพ่ายแพ้และโดนถล่มจนย่อยยับ
เมื่อคิดได้เช่นนี้ ขณะนั้นอารมณ์ของกู้หว่านหว่านพลันสงบลงในทันที เธอคว้าแขนเสื้อของสือซูเจินพลางเอ่ยอย่างใจกว้าง “ป้าสือคะ ช่างเถอะค่ะ หนูใช้เปียโนซิงไห่ก็เพียงพอแล้ว ในเมื่อเปียโนอาร์ทิมิสนั้นเป็นของเพื่อนร่วมชั้นมู่ซย่า พวกเราก็อย่าได้ดึงดันและบังคับหล่อนเลย อันที่จริง เมื่อเปรียบเทียบกับอาร์ทิมิส เสียงเปียโนของซิงไห่นั้นสอดคล้องกับบทเพลงที่หนูจะบรรเลงมากกว่า หนูจะบรรเลงเพลง Rebound ท่วงทำนองเสียงของซิงไห่นั้นเรียบง่ายและหนักแน่นกว่าเล็กน้อย เหมาะสำหรับหนูพอดีเลยล่ะค่ะ”
ขณะที่กู้หว่านหว่านเอ่ยโน้มน้าวสือซูเจิน หล่อนไม่ลืมที่จะเอ่ยถึงบทเพลงที่หล่อนต้องการจะบรรเลง
แน่นอนว่าเมื่อหล่อนเอ่ยคำพูดนี้ออกไป ท่าทางของเยี่ยซือเจวี๋ยนั้นแปลกไปเล็กน้อยและเขาชำเลืองมองหล่อนอยู่หลายครา
แม้ว่าจะเป็นการพูดออกไปเพียงแค่เสี้ยววินาที แต่กู้หว่านหว่านนั้นรู้สึกพึงพอใจเป็นอย่างมาก
เพราะไม่เพียงแค่เยี่ยซือเจวี๋ยเท่านั้นที่ชำเลืองมองเธออยู่หลายครั้ง แม้แต่การจ้องมองด้วยสายตาแปลกประหลาดของเพื่อนร่วมชั้นที่อยู่รอบข้างนั้นก็จางหายและเบาบางลงไปมาก ผู้คนบางส่วนก็เอ่ยวิจารณ์ด้วยเสียงแผ่วเบา----
“กู้หว่านหว่านจะเล่นเพลง Rebound งั้นเหรอ??? เพลง Rebound ที่ยากที่สุดในโลกนั้นใช่ไหม?”
“งั้นก็แสดงว่าอันที่จริงแล้วหล่อนเองก็เล่นเปียโนเก่งเช่นกัน เพลง Rebound มีนักเปียโนเพียงแค่ไม่กี่คนเท่านั้นที่สามารถเล่นเพลงนี้ได้”
“เมื่อเอ่ยเช่นนี้ ฉันเองก็ตั้งหน้าตั้งตารองานเลี้ยงต้อนรับนักเรียนใหม่อยู่เล็กน้อย ไม่รู้ว่ามู่ซย่าจะบรรเลงบทเพลงใดผ่านอาร์ทิมิส?”
“ไม่รู้สิ...แต่ฉันตั้งหน้าตั้งตารอมากเลยล่ะ!”
ทางด้านกู้หว่านหว่านและสูซือเจิน
อันที่จริงสือซูเจินนั้นต้องการจะทะเลาะกับเยี่ยซือเจวี๋ยครั้งใหญ่ แต่ในฐานะหญิงสาวที่มีชื่อเสียงและมีหน้ามีตาในสังคม การทะเลาะกับลูกชายของตนต่อหน้าสาธารณชนคงเป็นเรื่องน่าอายมาก
เธอจะไม่เป็นหัวข้อบทสนทนาหลังอาหารค่ำของผู้หญิงคนอื่น
ในเมื่อกู้หว่านหว่านนั้นส่งไม้ต่อมาให้สือซูเจินได้ทันเวลา เช่นนั้นสือซูเจินก็รีบรับไม้ต่อไว้และเอ่ยตามน้ำไปกับหล่อน
สือซูเจินฟื้นคืนสติ ตระหนักได้ว่าตนเองกำลังจะทะเลาะกับเยี่ยซือเจวี๋ยอีกครั้ง เธอสูดลมหายใจเข้าเต็มปอด อารมณ์ของเธอสงบลงเล็กน้อย แต่ทว่าเธอก็ยังคงพูดคุยกับเยี่ยซือเจวี๋ยด้วยน้ำเสียงที่ไม่ดีเท่าไรนัก “พรุ่งนี้แกจะต้องกลับบ้าน ถ้าหากแกไม่กลับบ้าน ฉันจะไปหาแกที่บริษัท”
เยี่ยซือเจวี๋ยขมวดคิ้วแต่ยังคงกล่าว “ผมจะกลับไปครับ”
จากนั้นสีหน้าของสือซูเจินก็ผ่อนคลายลงและเอ่ย “งั้นก่อนแกจะกลับมาก็บอกฉันล่วงหน้าสักหน่อย ฉันจะได้ลงมือเข้าครัวทำอาหารให้แกทาน ระหว่างแม่กับลูกจะได้มานั่งพูดคุยกันดีๆ”
ความสัมพันธ์ระหว่างแม่กับลูก จะบาดหมางกันข้ามคืนได้อย่างไร?
เพราะคนนอกเพียงคนเดียว เหตุใดจะต้องมาทะเลาะเบาะแว้งกันด้วย?
เมื่อคิดได้เช่นนี้ สือซูเจินก็บีบฝ่ามือของกู้หว่านหว่านด้วยความรักใคร่เอ็นดูและเอ่ย “โชคดีที่มีหนูอยู่”
ลุยน้ำโคลน[1] หมายถึง เปรียบเทียบได้ว่าเหมือนคอยติดตามผู้อื่นทำเรื่องชั่ว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ประธานวายร้ายจะแต่งงานกับฉันให้ได้!
ปลดล๊อคด้วยเหรียญแล้ว กลับมาอ่านซ้ำทำไมอ่านไม่ได้ ยังต้องให้ปลดล๊อคอีก แบบนี้เอาเปรียบผู้อ่านนะ...
When will you come?...
จะมาตอนไหนคะ...
จะมาอัปตอนไหนคะ...
ฮือออใจจะขาดมาต่อนะคะ...
เลิกอ่านดีไหม อยู่ๆก็อัดเหลือ2ตอน...
จากที่อัปวันละ10 ตอนตอนนี้เหลือแค่2ตอนแล้วหรอ...
ทำไมฮับแค่2ตอนละคะ...
โอ้ยค้างอีกจะหาอ่านได้จากแอปไหนเนี่ย...
อยากได้หนังสือเป็นเล่มมีขายไหมค่ะ...