ประธานวายร้ายจะแต่งงานกับฉันให้ได้! นิยาย บท 603

เยี่ยซือเจวี๋ยเหยียดมือออกไปและขวางกั้นตำรวจคนนั้น

“คุณตำรวจ” เยี่ยซือเจวี๋ยเอ่ย “เขาแตกต่างจากคนอื่น สุขภาพร่างกายเขาไม่ดีเท่าไรนักและยังป่วยเป็นโรคฮีโมฟีเลีย[1] ไม่สามารถทนรับโทษได้หรอก นอกจากนี้เขายังเป็นฝ่ายยอมรับสารภาพด้วยตนเอง ช่วยพวกผมตามหาหลัวเฮ่าและเขาทำผิดเพราะว่าถูกพี่ชายหลอกลวง ดังนั้น...ผมยินดีที่จะเขียนหนังสือให้อภัยและพูดคุยกับเขาเป็นการส่วนตัว”

ตำรวจพยักหน้า “ได้ครับ สถานการณ์ของบุคคลนี้ค่อนข้างพิเศษ คุณเองก็ยินดีพูดคุยกับเขาเป็นการส่วนตัว เช่นนั้นก็จัดการตามที่คุณกล่าว แต่ทว่าพี่ชายของเขาเป็นคนรับเงิน สถานการณ์นี้ให้พูดคุยเพียงลำพังคงจะไม่สามารถทำได้ พี่ชายของเขาอย่างไรทางเราก็ต้องดำเนินการตามกฎหมาย”

เยี่ยซือเจวี๋ยตอบรับ ‘อือ’ และเอ่ย “ทำตามที่พวกคุณกล่าวได้เลยครับ”

“ครับ” ตำรวจโบกมือไปมา หลังจากเอ่ยคำว่า ‘รวบรวมทีม’ พวกเขาก็นำกลุ่มคนพวกนั้นเดินออกไป

ความจริงปรากฏแล้ว เยี่ยซือเจวี๋ยไม่จำเป็นที่จะต้องอยู่แถลงข่าว หลังจากมอบหมายงานนี้ให้กับผู้จัดการเจี่ยงและผู้ช่วยผู้จัดการเซวี่ย เขาและหลัวอี้ก็ออกไปด้านนอกพร้อมกับเด็กชายที่นั่งอยู่บนรถเข็น

งานแถลงข่าวยังคงดำเนินต่อไป แต่จำนวนผู้ชมกลับน้อยลงเรื่อยๆ

ไม่ใช่เพราะทุกคนไม่ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้อีกแล้ว แต่เป็นเพราะว่าทุกคนต่างก็ไปซื้อกาแฟที่ร้านเซินเยี่ยคอฟฟี่เฮ้าส์

คำพูดของเด็กชายในตอนนั้นเหมือนกับป้ายโฆษณาไร้รูปลักษณ์แต่กลับมากด้วยประสิทธิภาพ

กาแฟของเซินเยี่ยคอฟฟี่เฮ้าส์นั้นกลมกล่อมมาก

ชั่วขณะหนึ่งยอดขายสาขาหลักภายในเครือของเซินเยี่ยคอฟฟี่เฮ้าส์นั้นแทบจะระเบิด บาริสต้ายุ่งมากจนเท้าแทบจะไม่ได้พัก มูลค่ายอดขายเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว

ทุกคนต่างก็คาดไม่ถึง เหตุการณ์ครั้งนี้ไม่เพียงแต่จะไม่สามารถปิดกิจการของเซินเยี่ยคอฟฟี่เฮ้าส์ แต่ยังทำให้แบรนด์เป็นที่รู้จักมากขึ้นอีกด้วย

สามารถคาดการณ์ได้ เหตุการณ์เรื่องพิษนี้จะถูกเขียนเป็นเรื่องราวของแบรนด์เซินเยี่ยคอฟฟี่เฮ้าส์ จะต้องแพร่สะพัดและถูกเอ่ยถึงตลอดกาล

.....

มู่ชิงชิงคอยเฝ้าดูผู้ชายคนนั้นอยู่ตลอด แต่กลับเห็นว่าสภาพร่างกายของผู้ชายคนนั้นดีขึ้นเป็นอย่างมาก

เธออดไม่ได้ที่จะสงสัย

ทำไมถึงสามารถฟื้นฟูร่างกายได้รวดเร็วขนาดนี้? ทักษะทางการแพทย์นี้ ไม่ต้องเอ่ยถึงเธอ ต่อให้รวบรวมผู้คนตระกูลมู่ของเธอทั้งหมด ทักษะทางการแพทย์ก็ยังด้อยกว่าอีกฝ่ายมาก

หมอเทวดาคนนี้ เธอจะต้องตามหาให้พบและเรียนรู้ทักษะวิชาจากหมอเทวดา!

เมื่อครุ่นคิดได้เช่นนี้ มู่ชิงชิงรวบรวมความกล้าและเอ่ยปากพูดกับเยี่ยซือเจวี๋ยที่นั่งอยู่ภายในรถคันเดียวกัน “เยี่ย คุณเยี่ย คุณช่วยแนะนำฉันให้รู้จักหมอเทวดาที่รักษาผู้ป่วยรายนี้หน่อยจะได้ไหม?”

เดิมทีเยี่ยซือเจวี๋ยหลับตาลงและอยากจะงีบสักพัก ไม่ได้คิดจะพูดคุยกับมู่ชิงชิง

แต่ทว่าคำพูดเชยชมมู่ซย่าทำให้เขารู้สึกมีความสุขมาก ดังนั้นเขากล่าว “ผมสามารถช่วยสอบถามให้คุณได้”

มู่ชิงชิงเห็นว่าริมฝีปากของเยี่ยซือเจวี๋ยโค้งงอเล็กน้อย แม้ว่าจะไม่เข้าใจ แต่เธอก็ยังคงสามารถจับภาพได้อย่างแม่นยำ

เยี่ยซือเจวี๋ยกำลังยิ้มให้เธอเหรอ?

หัวใจของเธอพลันพองโตขึ้นอีกครั้ง เธอรีบพยักหน้าพร้อมกับเอ่ย “ขอบคุณนะคะ คุณเยี่ย”

“ไม่เป็นไร” เยี่ยซือเจวี๋ยเอ่ยอย่างอารมณ์ดี

ในไม่ช้าก็มาถึงโรงพยาบาล

หลัวอี้และมู่ชิงชิงพาผู้ป่วยขึ้นไปยังชั้นบนของอาคาร เยี่ยซือเจวี๋ยกลับไปยังบริษัทเพื่อสะสางเรื่องราวของเซินเยี่ยคอฟฟี่เฮ้าส์ที่ยังคงหลงเหลืออยู่

รายงานผลประกอบการของเซินเยี่ยคอฟฟี่เฮ้าส์แต่ละสาขาทำให้เขารู้สึกพอใจมาก เขาวางแผนที่จะใช้โอกาสจากการวิพากษ์วิจารณ์ในครั้งนี้ ขั้นแรกจะขยับขยายเซินเยี่ยคอฟฟี่เฮ้าส์ให้ครอบคลุมทั่วทั้งตัวเมืองและระแวกโดยรอบ

“เพื่อนงั้นเหรอ?” มู่ชิงชิงยิ้มพลางส่ายศีรษะ “หมอเทวดาอายุตั้งเท่าไรแล้ว ฉันไม่สามารถเป็นเพื่อนกับหมอเทวดาได้หรอกค่ะ แต่อันที่จริงแล้วฉันอยากจะฝากตัวเป็นลูกศิษย์กับหมอเทวดา”

“อายุตั้งเท่าไรแล้ว...” หลัวอี้ยิ้มราวกับไม่ได้ยิ้ม แต่เขารู้ว่ามู่ซย่าไม่ต้องการเปิดเผยตัวตนของตนเอง เขาเองก็ไม่อยากพูดอะไรมากนัก เพียงแค่กล่าว “เรื่องทางนี้จบลงแล้ว คุณเองก็ไปสะสางงานของคุณเถอะ”

เมื่อเอ่ยจบ เขาก้าวเท้าและเดินจากไป

อย่างไรก็ตามหลัวอี้เดินจากไปได้ไม่นานนัก โทรศัพท์พลันส่งเสียงดังขึ้น

เป็นสายโทรศัพท์จากพ่อของเขา

หลัวอี้รับสายอย่างรวดเร็วและเอ่ยถาม “พ่อ ทำไมจู่ๆถึงโทรหาผมครับ? เป็นเพราะเรื่องของหลัวเฮ่าหรือเปล่า? เขาก่อเรื่องผิดพลาดครั้งใหญ่ ได้รับโทษตามสมควร และเขาถูกทีมเท่อลี่จับกุมตัวไป หากว่าพ่อจะมาพูดแทนเขา ไม่ต้องหรอกครับ”

เสียงพ่อหลัวดังออกมาจากสายโทรศัพท์ “ฉันจะไปพูดแทนไอ้เลวนั่นทำไม? ฉันโทรมาเพราะอยากจะบอกแก คุณมู่หมอเทวดาที่แกเคยบอกฉันก่อนหน้านี้หล่อนเป็นคนของตระกูลซือถูใช่ไหม? ภายในตระกูลของหล่อนอาจเกิดเรื่องบางอย่างขึ้น”

ขมับของหลัวอี้กระตุกสองครั้งและเอ่ยถาม “เกิดเรื่องอะไรขึ้นกับครอบครัวของหล่อนงั้นเหรอครับ?”

“ฉันก็แค่คาดเดา ไม่ใช่ว่าแม่ของแกเชื่อเรื่องเทวดาผีสางหรอกเหรอ? วันนี้หล่อนเรียกให้นักพรตเต๋ามาทำนายดวงชะตา นักพรตเต๋ารับสายโทรศัพท์ บอกว่ามู่ซินเย่ว์เชิญเขาไปและมอบเงินให้เขาเป็นสิบเท่าของที่แม่แกมอบให้ ถ้าหากไม่ได้เรียกให้ไปสร้างเรื่องโกหกก็คงไม่ให้เงินมากขนาดนี้หรอก สถานการณ์ในครอบครัวของพวกเขาซับซ้อนมาก ฉันเองก็รู้ดี โดยเฉพาะมู่ซินเย่ว์ หล่อนไม่ใช่คนดีอะไร ฉันรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติก็เลยโทรมาบอกแกสักหน่อยก็เท่านั้น”

คิ้วของหลัวอี้ขมวดแน่นทันที “เป็นความจริงมู่ซินเย่ว์ไม่ใช่คนดีอะไร หล่อนพยายามขับไล่มู่ซย่าออกจากตระกูลอยู่หลายครั้ง ครั้งนี้คาดว่าหล่อนคงวางกลอุบายอะไรบางอย่างเพื่อขับไล่มู่ซย่าอีกอย่างแน่นอน”

พ่อหลัวพึมพำอย่างอดไม่ได้ “แกพูดว่ากลอุบายบางอย่างของมู่ซินเย่ว์งั้นเหรอ? มีลูกสาวที่มีทักษะทางการแพทย์ยอดเยี่ยมเช่นนี้ ไม่เพียงแต่ไม่ดูแลอีกทั้งยังต้องการขับไสไล่ส่ง เท่าที่ฉันรู้มา ลูกสาวคนนั้นที่เธอรับเลี้ยงไว้ก่อนหน้านี้ตายไปแล้วไม่ใช่เหรอ? ไม่เข้าใจเลยจริงๆ ตอนนี้เหลือลูกเพียงคนเดียวแล้วทำไมยังจะต้องขับไล่ออกจากตระกูลด้วย”

“พ่อ พ่อไม่เข้าใจครับ” หลัวอี้ถอนหายใจ “ลูกเลี้ยงไม่ใช่ลูก เป็นศัตรูที่แบ่งปันทรัพย์สินตระกูลกับเธอ แน่นอนว่าเธอจะต้องกำจัดออกไปให้ได้โดยเร็ว! แล้วก็....”

โรคฮีโมฟีเลีย[1] หมายถึง โรคเลือดออกง่ายและหยุดยาก ความผิดปกติที่เลือดไม่จับตัวเป็นก้อน

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ประธานวายร้ายจะแต่งงานกับฉันให้ได้!