ปริศนารักนัดบอด(จบ) นิยาย บท 7

ไป๋ชิงสะดุ้งโหยง

เธอหันไปมองหลินโม่ “พี่ เป็นพี่นี่เอง”

หลินโม่ยกปาก "คุณกับโม่เซียวเกิดปัญหาอะไรกันใช่หรือเปล่า?"

“พี่ ทำไมพี่ถึงมีความคิดแบบนี้ล่ะคะ?” ไป๋ชิงกระพริบตา

เธอเป็นลูกท้อสดใหม่ ดวงตาก็ช่างสุกสกาว

“คนตระกูลหยุนบอกผมว่า หยุนชีชีกลับมาแล้ว” หลินโม่พูดตรงๆ

รอยยิ้มบนใบหน้าของไป๋ชิงค่อยๆจางหายไป "ที่แท้ทุกคนก็รู้กันหมดแล้ว"

คนของตระกูลหยุนรู้ว่าไป๋ชิงแต่งงานกับโม่เซียว

หยุนโหยวลูกสาวที่ถูกต้องตามกฎหมายของตระกูลหยุน แม้ว่าเธอก็ไม่ชอบหยุนชีชี แต่เธอชอบโม่เซียว

ด้วยเหตุนี้ตอนที่โม่เซียวแต่งงานกับเธอ หยุนโหยวยังเคยมาหัวเราะเยาะเธอด้วย

ว่าเธอว่าไม่รู้จักประมาณตน นึกว่าเป็นตัวแทนแล้วจะพลิกสถานการณ์ได้

ในตอนนั้น ไป๋ชิงไม่รู้จักประมาณตนจริงๆ

เธอก็คิดว่าตัวเองจะสามารถพลิกสถานการณ์ที่ยากลำบากให้ดีขึ้นได้

แต่ว่าสถานการณ์ที่ยากลำบากพลิกแล้วก็ยังคงเป็นสถานการณ์ที่ยากลำบากอยู่ดี

หลินโม่มองไป๋ชิงที่เศร้าสร้อย ก็รู้สึกเป็นทุกข์อย่างมาก

เขายกมือขึ้นคิดที่จะลูบหัวของไป๋ชิง แต่ในที่สุดฝ่ามือก็ตกลงที่บนตัวของไป๋เสวี่ย

“ชิงชิง หากว่าคุณต้องการความช่วยเหลือแล้วล่ะก็ มาหาผมได้เลยนะ” หลินโม่พูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนว่า “ผมจะเป็นเหมือนเมื่อก่อน จะทำทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อช่วยคุณ”

ไป๋ชิงเอียงศีรษะและย่นคิ้ว “พี่คะ พี่กำลังพูดถึงอะไรคะ?”

เธอไม่เข้าใจเลยสักคำ

หลินโม่มองดูเธออย่างลังเลที่จะพูด “ไป๋ชิง ที่จริงแล้วเมื่อสิบปีก่อน...”

“หลินโม่ ลูกยังไม่ไปอีกเหรอ” เสิ่นหว่านเดินออกมา “นี่ยังมีปูขนอีกนิดหน่อย ลูกนำกลับไปให้แม่ของลูกนะ เธอจะต้องชอบแน่ๆ”

“ได้ครับ คุณน้า” หลินโม่พยักหน้า

เขายื่นมือออกไปรับปูขนที่อยู่ในกล่องจากมือของเสิ่นหว่าน

“ระหว่างทางขับรถระวังหน่อยนะ” เสิ่นหว่านพูดย้ำ

หลินโม่พยักหน้า “คุณน้าครับ คุณน้าไม่ต้องเป็นห่วงครับ คุณน้าเข้าไปเถอะครับ”

“จ่ะ” เสิ่นหว่านเหลือบมองไป๋ชิงทีหนึ่ง จากนั้นก็หันหลังกลับเข้าไป

เมื่อเสิ่นหว่านเข้าไปแล้ว ไป๋ชิงถึงได้ถามเบาๆว่า “พี่คะ เมื่อกี้พี่พูดว่าอะไรนะ? สิบปีก่อนทำไมเหรอคะ? สิบปีก่อนพวกเรารู้จักกันเหรอ?”

แววตาของหลินโม่อ่อนโยน "แล้วค่อยบอกคุณทีหลังนะ"

รอให้เธอกับโม่เซียวหย่ากันแล้ว

ถึงเวลานั้นก็จะเป็นเวลาที่เหมาะสม

“ผมไปหละ” หลินโม่พูดเสียงเบา

ไป๋ชิงขมวดคิ้ว เธอรู้สึกว่าหลินโม่ดูแปลกๆ

“พวกคุณคุยอะไรกันเหรอ?” โม่เซียวเดินออกมาจากมุมมืด

หลินโม่ได้เดินไปไกลแล้ว

“ไม่มีอะไร” ไป๋ชิงส่ายหัว

“แต่ผมเห็นพวกคุณคุยกันซะนานเลย” น้ำเสียงของโม่เซียวเย็นชา

เมื่อครู่เขายืนอยู่ที่ชั้นสองและเห็นหมดทุกอย่างแล้ว

“ก็แค่แลกเปลี่ยนประสบการณ์การเลี้ยงสุนัขกัน” ไป๋ชิงพูดเสียงเบา

“ประสบการณ์การเลี้ยงสุนัข?” โม่เซียวประชดประชัน “เท่าที่ผมรู้ ไป๋เสวี่ยไม่ใช่คุณเป็นคนเลี้ยงหรอกมั้ง?”

“ค่ะค่ะ ที่จริง สุนัขที่ฉันว่าชื่อเจ้าดำ” ไป๋ชิงพูดเสียงอ้อน

โม่เซียวเข้าใจทันทีว่าเธอกำลังประชดตัวเอง "ไป๋ชิง!"

“ฉันพูดผิดเหรอ ชายโฉด?” ไป๋ชิงอยู่ที่บ้านเก่าของตระกูลโม่ก็ช่างใจเกินกล้าไปแล้ว

“ดีมาก ผมว่าคืนนี้คุณคงไม่ต้องการที่จะมีชีวิตอยู่ซะแล้ว” โม่เซียวคลายเนกไทออก

ไป๋ชิงพูดอย่างใจกล้าว่า “ถ้าคุณกล้าแตะต้องฉัน ฉันจะส่งร่องรอยที่คุณล่วงเกินบนตัวฉันให้ชีชีดู!”

“คุณกล้าเหรอ!” ใบหน้าหล่อเหลาของโม่เซียวหมองลง

“ถ้าคุณรังแกฉัน ฉันก็กล้า!” ไป๋ชิงก็ทุ่มหมดหน้าตักแล้ว

มีสิทธิ์อะไรที่ตัวเองได้รับความไม่เป็นธรรมแล้วยังจะไม่สามารถพูดได้อีก

“คุณกล้าเหรอ” โม่เซียวถูกเธอทำให้โมโหซะแล้ว

ไป๋ชิงได้ใจ

“โม่เซียว ชิงชิง คืนนี้ลูกก็นอนที่นี่กันเถอะนะ พรุ่งนี้ค่อยกลับไป” เสิ่นหว่านเดินเข้ามา

มีสิทธิ์อะไรมาทำกับเธอแบบนี้!

“เป็นคุณที่ทำตัวเอง” โม่เซียวพูดอย่างเย็นชา “สามปีที่แล้วผมก็เคยบอกคุณแล้วว่าผมจะไม่มีวันชอบคุณ คุณเองที่ต้องการจะแต่งงานกับผมให้ได้”

“ใช่ สามปีที่แล้วฉันโง่เกินไป คิดว่าสามปีนี้จะสามารถทำให้หินอย่างคุณกร่อนได้” ดวงตาของไป๋ชิงแดงขึ้นเล็กน้อย “โม่เซียว สิบปีก่อน...”

เธอเพิ่งจะเอ่ย โทรศัพท์มือถือของโม่เซียวก็ดังขึ้นมา

โม่เซียวหยิบโทรศัพท์ออกมา จากนั้นแววตาก็หมองลง

“ชีชี ผมอยู่ครับ” น้ำเสียงของโม่เซียวอ่อนโยนเท่าที่จะอ่อนโยนได้ “ผมรู้แล้ว คุณอย่าร้องไห้เลยนะ ผมจะกลับไปเดี๋ยวนี้เลย”

พูดจบ เขาก็วางสายลงด้วยแววตาที่เย็นยะเยือก “สวมเสื้อกันหนาวแล้วกลับไปกับผม!”

ไป๋ชิงกัดริมฝีปาก “ฉันไม่ไป!”

เธอไม่อยากอยู่ในบ้านอันหนาวเหน็บตามลำพัง

“ไป๋ชิง ไม่มีประโยชน์หรอก คุณคิดว่าซ่อนตัวอยู่ในบ้านเก่าแล้วจะสามารถหลีกเลี่ยงการหย่าได้หรือ?” โม่เซียวบีบคางของเธอ “คิดถึงลุงของคุณสิ ถ้าคุณทำให้ผมโกรธ ผมจะให้เขาอยู่เป็นสุขไหม?”

ไป๋ชิงตัวแข็งทื่อ

“ไปสวมเสื้อซะ” โม่เซียวคลายมือออก “ผมจะไปรอคุณอยู่ในรถ หากคุณไม่ลงมาภายในห้านาที คุณรอเก็บศพลุงของคุณก็แล้วกันนะ”

พูดจบ โม่เซียวก็หันหลังจากไป

ไป๋ชิงเข่าอ่อน แล้วยันกำแพงลุกขึ้น

ดวงตาของเธอแดงก่ำไร้ที่เปรียบ ทว่าอดกลั้นไม่ให้ตัวเองร้องไห้ออกมา

โม่เซียวใจร้ายเกินไปแล้วจริงๆ

สุดท้ายแล้วเธอก็เป็นแค่ตัวแทน แล้วยังจะคาดหวังให้ผู้ชายคนนั้นอ่อนโยนกับเธอเพียงใดกัน

เธอหลับตาลง แล้วน้ำตาไหลก็ได้ไหลรินลงมา

หลังจากใช้หลังมือเช็ดแล้ว เธอก็สวมเสื้อกันหนาวแล้วลงไปชั้นล่าง

โม่เซียวรออยู่ในรถอย่างร้อนใจ

เขาเร่งให้ไป๋ชิงรีบขึ้นรถ

ไป๋ชิงขึ้นไปเธอก็นั่งที่ด้านหลัง

แต่ก่อนเธอนั่งอยู่ที่ข้างคนขับเสมอ

โม่เซียวขมวดคิ้ว เขาไม่ชอบการต่อต้านอย่างไร้ซุ่มเสียงแบบนี้ของไป๋ชิง

เขาชอบที่เธอโอนอ่อน ชอบที่เธอเชื่อฟัง

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ปริศนารักนัดบอด(จบ)