หญิงสาวเดินออกจากห้องของประธานบริษัทด้วยสีหน้าซึมๆ
เดิมที เธอคิดว่าประธานบริษัทจะถูกใจในความสวยของเธอ
แต่เมื่อได้ฟังคำพูดของประธานเตชินเมื่อกี้แล้วเธอก็เข้าใจเรื่องราวทันที
ก่อนหน้านี้เธอได้เจอกับผู้ช่วยคังในผับ เธอเห็นว่าผู้ช่วยคังมาคนเดียวจึงเข้าไปทักทาย
และทำความรู้จักเพราะเธอก็มาเที่ยวผับคนเดียวเช่นกัน แล้วช่วนกันนั่งดื่มนั่งพูดคุยทั้งคืนจนเมา
จบด้วยการขึ้นเตียงเป็นวันไนท์สแตนด์ของทั้งคู่
หญิงสาวเดินมานั่งลงบนเก้าอี้ทำงานของตนเองพร้อมกับคิดทบทวนและพึมพำในใจ
[ คงเพราะคืนนั้นที่เราพูดเรื่องฝึกงาน
คุณคังเลยมาขอท่านประธานให้สินะ
ดูคุณคังจะสนิทสนมกับท่านประธานมาก
ท่านประธานถึงขนาดยอมรับเราเข้าฝึกงานเพราะเขา
พวกเขาคงจะผูกพันธ์กันมากเลยสินะ
คุณคังช่างเป็นเพื่อนที่ดีและมีน้ำใจจริงๆเลย ]
เลขาสาวเห็นว่าหญิงสาวนั่งเหม่อ เธอจึงเอ่ยถามขึ้นด้วยความเป็นห่วง
" เฮ้...น้องริสา เป็นอะไรหรือเปล่า พี่เห็นนั่งเหม่อสักพักแล้ว หรือว่าถูกท่านประธานตำหนิมา "
หญิงสาวหันมายิ้มให้พี่เลขาสาวแล้วเอ่ยตอบว่า
" นิดหน่อยค่ะ ริสาผิดเอง ที่ทำตัวไม่ดี "
พอหญิงสาวพูดแบบนั้น เลขาสาวก็พอเข้าใจเรื่องราวทันที
เพราะเธอดูออกว่าหญิงสาวจงใจอ่อยท่านประธานหลายครั้งแล้ว แต่เธอไม่กล้าเตือน
แล้วเลขาสาวก็พยักหน้าอย่างเข้าใจ
จากนั้นก็เอ่ยว่า
" อือ...พี่ว่าน้องควรขอบคุณผู้ช่วยคังนะ
เขาเป็นคนขอให้ท่านประธานรับคุณเข้ามาฝึกงานที่นี่
ตอนแรกพี่นึกว่าน้องเป็นแฟนของเขาซะอีก
เพราะดูเขาใส่ใจเรื่องของน้องมากเป็นพิเศษ
ปกติเขาจะเย็นชาตลอดมีแต่คนเกรงกลัวออร่าของเขา น้องรู้มั้ยว่าน้องน่ะโชคดีมากที่ผู้ช่วยคังเลือกคุณ
พี่ขอพูดตรงๆ อย่าโกรธพี่เลยนะ เรื่องที่น้องส่งสายตาให้ท่านประธาน พี่ขอเตือนในฐานะพี่เลี้ยง
ที่ต้องคอยสอนงานคอยดูแลน้อง ต่อไปอย่าได้บังอาจคิดทำแบบนั้นอีก
ถ้าไม่ใช่เพราะคุณเป็นคนของผู้ช่วยคนสนิทท่านประธาน พี่ว่าท่านประธานคงไม่ให้น้องอยู่ตั้งแต่วันแรกแล้ว
อีกอย่างถ้าถึงหูภรรยาท่านประธาน ต่อให้ท่านประธานไว้หน้าผู้ช่วยคังแค่ไหน ถ้าภรรยาท่านประธานไม่พอใจ
ต่อให้เป็นท่านประธานก็ช่วยคุณไม่ได้แล้ว เพราะท่านประธานรักภรรยากับลูกมาก
อีกอย่างนะภรรยาท่านประธานแม้จะดูสวยใสดูอ่อนหวานอ่อนโยนไม่น่ากลัว แต่แท้จริงแล้วเป็นคนที่ดุและเด็ดขาดมาก
ตอนนี้คนที่น่ากลัวกว่าท่านประธานคือภรรยาของท่านประธานนี้แหละ "
หญิงสาวได้ยินดังนั้นก็แอบกลัวอย่างมาก
จึงเอ่ยอย่างนึกกลัวว่า
" จริงเหรอคะ แล้วแบบนี้จะถูกคิดบัญชีมั้ยอ่ะ "
" คงยังหรอก แม้ภรรยาท่านประธานจะดุ
แต่เธอก็มีเหตุผลและมีจิตใจเมตตาอยู่มาก "
" โล่งอก ขอบคุณพี่เมย์มากนะคะ ที่เตือน
ต่อไปริสาจะระมัดระวังเรื่องการวางตัวให้ดีกว่านี้
จะพยายามไม่ทำให้คุณคังกับพี่ผิดหวังค่ะ จะตั้งใจเรียนรู้งานให้ไวเลยค่ะ "
เมย์เลขาสาวของเตชินยิ้มแล้วเอ่ยว่า
" ดีแล้ว ตั้งใจทำงานเพื่อบริษัทเพื่ออนาคตตัวเองจะดีกว่า ไม่แน่
น้องอาจจะได้เป็นเลขาของท่านรองประธานณัชชาก็ได้ถ้าน้องตั้งใจทำงาน มีผลงานดี "
" ค่ะ "
" คุณลองทานอันนี้ดูนะ ถ้าชอบหรือไม่ชอบขอให้บอกนะครับ ผมจะได้จำไว้ ต่อไปจะได้สั่งแต่สิ่งที่คุณชอบ "
ริสายิ้มแล้วเอ่ยอย่างเกรงใจและแอบรู้สึกผิดที่เคยมองข้ามผู้ชายดีๆแบบผู้ช่วยคังไป
" ความจริง ริสาเป็นคนทานง่ายๆค่ะ อะไรก็ได้ขอแค่อิ่มท้อง ริสาไม่ค่อยเน้นเรื่องรสชาติเท่าไหร่ แค่พอทานได้ไม่แย่เกินไปก็พอค่ะ "
ผู้ช่วยคังจ้องหน้าริสาแล้วยิ้มอ่อนจากนั้นก็เอ่ยว่า
" ดีจังครับ ผมชอบคนแบบคุณริสาเลย "
ผู้ช่วยคังเล่นเอ่ยสารภาพความรู้สึกออกมาตรงๆ
ทำเอาริสาถึงกับอึ้งก้มหน้าทานข้าวอย่างเขินๆ
ในใจเต้นแรงไม่เป็นจังหวะ
เธอไม่คิดว่าบนโลกนี้จะยังมีผู้ชายดีๆหลงเหลืออยู่อีก และไม่คิดว่าจะมีคนชอบเธออย่างจริงใจแบบนี้
ที่ผ่านมา เธอเข้าใจมาตลอดว่าผู้ชายรวยๆที่มีเงินมากๆจะต้องการเพียงผู้หญิงสวยไว้ประดับข้างกายเท่านั้น
เธอเลยคิดว่าขอแค่ผู้ชายหน้าตาดีๆยอมจ่ายเธอแพงๆ ดูแลเธอและครอบครัวดีแค่นี้ก็เพียงพอแล้ว
การได้พบกับผู้ช่วยคังได้รับการตักเตือนจากท่านประธานเตชิน
ทำให้เธอเปลี่ยนความคิดเปลี่ยนทัศนคติ
ที่มีต่อผู้ชายรวยๆ
ทำให้เธอรู้ว่า ไม่ว่าจะคนรวยหรือคนจนก็มีหัวใจเหมือนกัน คนดี คนเลว คนเจ้าชู้ คนมักมากในกาม คนรักเดียวใจเดียว คนจริงใจ
สิ่งเหล่านี้ล้วนเกิดจากสันดานของแต่ละคนที่ออกมาจากจิตใต้สำนึกที่แตกต่างกันออกไป
มันจะถูกกลั่นกรองออกมาเป็นนิสัย ขึ้นอยู่กับว่าใครจะกลั่นกรองดีมากน้อยแค่ไหนต่างหาก
ทั้งหมดนี้ไม่เกี่ยวกับฐานะ ชาติตระกูลหรือตำแหน่งหน้าที่การงาน แต่อยู่ที่ตัวบุคคล
เธอรู้สึกขอบคุณผู้ช่วยคังที่เข้ามาทำให้เธอเปลี่ยนทัศนคติได้
ผู้ช่วยคังเองเมื่อเห็นว่าหญิงสาวดูเขินอาย
ไม่ปฏิเสธเขา
เขาแอบอมยิ้มด้วยความดีใจแล้วทานข้าวกับเธออย่างมีความสุขในช่วงค่ำคืนนี้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ป่วนหัวใจท่านประธานเย็นชา