พ่อคำกับแม่มะลิมองตามแผ่นหลังสุดเพอร์เฟกต์ของลูกเคยแล้วถอนหายใจออกมายาวๆ
เตชินผิดหวังกลับไปขึ้นเครื่องเหมือนเดิม เมื่อถึงท่าอากาศยานดอนเมือง คนขับรถของเขาก็มารอรับตรงทางออก
เขาเดินขึ้นไปนั่งในรถ ระหว่างทางก็นั่งคิดอะไรเงียบๆ โดยไม่รู้ว่าจะไปตามหาพิมที่ไหนแล้ว
เขาจนปัญญาจริงๆแต่ก็ไม่คิดละความพยายามในการตามหาภรรยาลงเลยสักนิด
สำหรับเขาแล้ววันนี้ไม่เจอ วันหนึ่งก็ต้องเจอ เขาเชื่อนเช่นนั้น
อยู่ๆเสียงโทรศัพท์เขาก็ดังขึ้นทำลายความเงียบสงัดในรถลง
เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูเมื่อเห็นว่าเป็นณัชชาที่โทรมาหาเขา จึงกดรับสายแล้วเอ่ยเสียงเรียบ
" ว่าไง "
เมื่อได้ยินเสียงเตชินณัชชาที่อยู่ปลายสายจึงเอ่ยถามขึ้นว่า
" พี่ตามหาคุณพิมอยู่ใช่มั้ย ได้เบาะแสเธอบ้างหรือยัง "
" ยัง "
เตชินเอ่ยตอบเพียงสั้นๆด้วยน้ำเสียงหนักอึ้งอย่างเคร่งขรึม
" ทำไมพี่ไม่ลองตามหาเธอผ่านสื่อล่ะ "
ณัชชาเสนอไอเดียด้วยความจริงใจ เตชินได้ยินดังนั้นจึงเอ่ยว่า
" จะทำแบบนั้นได้ยังไง ถ้าทำแบบนั้นพิมกับลูกก็ต้องตกอยู่ในอันตรายสิ
น้องก็รู้ในวงการธุรกิจมีคนไม่พอใจก็มาก คนอิจฉาก็เยอะ คนไม่หวังดีก็นับไม่ถ้วน
หากมีคนนอกรู้ว่าภรรยาพี่หายไปและกำลังตามหาอยู่พวกเขาอยู่ พวกเขาจะยิ่งไม่ปลอดภัย "
" อือ...มันก็จริงนะ แล้วพี่จะทำยังไงล่ะ ในเมื่อคุณพิมเงียบแบบนี้พี่มั่นใจแค่ไหน
ว่าเธออยู่ข้างนอกแล้วเธอจะปลอดภัยดี
ไม่ลำบากน่ะ
ณัชชาว่าในเมื่อพี่ไม่มีโอกาสอธิบายต่อหน้า
พี่ก็อธิบายผ่านสื่อไปเลยสิ
เผื่อเธอเข้าใจแล้วหายโกรธพี่ วิธีนี้คงไม่มีใครรู้หรอกว่าภรรยาพี่หนีไป "
ณัชชาพยายามเสนอความคิดในการช่วยพี่ชายนอกสายเลือดอย่างเตชินตามหาภรรยากับลูก
เตชินได้ยินดังนั้นก็นึกอะไรขึ้นมาได้จึงเอ่ยถามณัชชาว่า
" คุณป๊อบล่ะ ได้โทรมาหาน้องบ้างมั้ย "
ณัชชาได้ยินดังนั้นก็เงียบไปสักพัก แล้วเอ่ยตอบเตชินว่า
" เราจบกันแล้วค่ะ "
" เช่นนั้นก็ดีแล้ว "
เตชินเอ่ยเสียงเรียบแต่แฝงไปด้วยเลศนัย เขาไม่เชื่อหรอก
ว่าผู้ชายคนหนึ่งที่มั่นคงในความรักมั่นคงในความรู้สึกขนาดนั้น
จะไร้หัวใจ ไม่สนใจลูกที่กำลังจะเกิดมาลืมตาดูโลกได้
ณัชชาเห็นว่าเตชินเงียบไปเธอจึงเอ่ยถามขึ้น
" ทำไมเงียบไปล่ะแล้วพี่คิดจะทำยังไงต่อ "
เตชินที่อยู่ปลายสายยกมุมปากขึ้นมายิ้มร้ายๆอย่างมีแผนการแล้วเอ่ยตอบณัชชาว่า
" เดี๋ยวน้องก็รู้เอง "
เอ่ยจบเขาก็กดวางสายไป แล้วโทรไปหาผู้ช่วยคังต่อ พอได้ยินเสียงผู้ช่วยคังเอ่ย
" ครับ คุณชาย "
เขาจึงเอ่ยว่า
" คุณช่วยติดต่อไปหาคุณป้องให้ผมหน่อย แล้วบอกเขาว่าผมขอพบเป็นการส่วนตัว ไม่เกี่ยวกับงาน "
" ได้ครับ "
" อ้อ แล้วบอกเขาด้วยว่าผมจะไปนั่งรอในร้านกาแฟหน้าทางเข้าบริษัทเขา "
" ครับ "
พูดจบเขาก็วางสายไป ส่วนผู้ช่วยคังก็ติดต่อไปหาป้องทันที
ป้องที่นั่งทำงานอยู่เงียบๆเมื่อเห็นเบอร์แปลกโทรเข้ามาจึงกดรับสายแล้วเอ่ย
" สวัสดีครับ ผมป้องพูดครับ "
ผู้ช่วยคังจึงเอ่ยว่า
" สวัสดีครับคุณป้อง ผมผู้ช่วยคัง จากบริษัทT-chin นะครับ "
" อ๋อ ครับ คุณคังโทรมาหาผมมีธุระอะไรหรือเปล่าครับ "
" พอดีท่านประธานเตชินอยากจะพบปะพูดคุยกับคุณสักหน่อย คุณป้องสะดวกมั้ยครับตอนนี้
จริงสิ ตอนนี้ท่านประธานเตชินไปรอคุณที่ร้านกาแฟหน้าบริษัทคุณแล้ว
หวังว่าท่านประธานของผมจะไม่รอเก้อนะครับ ท่านประธานมีเรื่องสำคัญจะคุยกับคุณจริงๆ "
คำพูดของผู้ช่วยคังมันไม่ใช่การขอแต่เป็นการบังคับอย่างไม่อาจปฏิเสธได้
ป้องเองก็อยากรู้ว่าเตชินขอพบเขาด้วยเรื่องอะไร เขาจึงเอ่ยตอบผู้ช่วยคังไปว่า
" แน่นอนว่าไม่รอเก้อครับ ประธานบริษัทใหญ่อย่างคุณเตชินอยากพบผม คงไม่เหมาะถ้าจะปฏิเสธถูกมั้ยครับ "
ผู้ช่วยคังยิ้มมุมปากหน่อยๆแล้วเอ่ยว่า
" งั้นเชิญคุณป้องเลยนะครับ ท่านประธานรอคุณอยู่ "
" ผมวางนะครับ "
" ครับ "
ป้องวางสายของผู้ช่วยคังแล้วลุกจากเก้าอี้เดินห้องจากห้องทำงานตรงเข้าไปในลิฟต์
เตชินนั่งไขว่ห้าง ดื่มกาแฟในมุมส่วนตัวที่ห่างจากโต๊ะอื่นออกไปไกลพอสมควร
ป้องเดินเข้ามาในร้านแล้วเดินตรงมาหาเตชินที่นั่งจิบกาแฟอย่างสง่างาม เตชินยิ้มให้เขาเบาๆแล้วเอ่ย
" เชิญนั่งครับ "
ถ้าไม่เห็นแก่หลานที่กำลังจะออกมาลืมตาดูโลก ผมคงไม่ปล่อยบริษัทคุณกับพี่ชายคุณไปแน่
ผมจะช่วยเขาสักครั้ง แลกกับการให้เขาขอโทษผมออกสื่อและยอมรับผิดในเรื่องที่เขาทำลงไปแบบแมนๆ
หากเขาทำได้ ผมจะช่วยพูดกับณัชชาให้ ให้อภัยเขา
แต่หากเขาไม่ยินยอมไม่ขอโทษและไม่สารภาพความจริงไม่ยอมรับผิดออกสื่อ
ผมจะไม่ให้เขาพบณัชชากับลูกของเขาอีกตลอดกาล
และจะให้เขาชดใช้ในสิ่งที่เขาทำลงไป คุณป้องคิดว่าไงครับกับข้อเสนอนี้ "
ป้องได้ยินแบบนี้ก็ถึงกับเงียบไป เพราะพี่ชายเขาไม่ใช่คนยอมอะไรง่ายๆ
และคงไม่มีทางยอมขอโทษเตชินออกสื่อเพื่อณัชชาแน่นอน
เพราะพี่ชายเขาไม่ได้รักณัชชาเหมือนที่รักพิม เขารู้ดี
มันเป็นไปไม่ได้เลยที่พี่ชายเขาจะทำเพื่อคนที่ไม่ได้รัก ขนาดนั้น
เขารู้สึกคิดหนักมากๆจนคิ้วขมวดมุ่น เกลี้ยกล่อมพี่ชายเขาในเรื่องอื่น เขาทำได้ แต่เรื่องของหัวใจเขาไม่กล้ารับปากจริงๆ
เขาถอนหายใจออกมาอย่างลำบากใจแบบไร้ทางเลือกแล้วผงกหัวเบาๆ จากนั้นก็เอ่ยกับเตชินว่า
" ผมจะลองกลับไปคุยกับพี่ป๊อบดู แต่ไม่รับปากว่าจะสำเร็จหรือเปล่านะ "
เตชินยิ้มแล้วเอ่ยอย่างมีเลศนัยว่า
" ผมมั่นใจว่าสำเร็จ หากเขารู้ว่าพิมหนีไป ขาดการติดต่อหลายวันแล้ว และผมก็หมดหนทางในการตามหาพิม
ถ้าเขารักพิม เป็นห่วงพิมและหวังดีกับพิมจริงๆเขาจะให้ความร่วมมือแน่นอน "
" ดูเหมือนคุณจะมั่นใจมาก "
เตชินยิ้มอ่อนแล้วเอ่ย
" ใช่ เอาเป็นว่าผมรู้จักพี่ชายคุณดีก็แล้วกัน ไม่งั้นคงไม่ชอบผู้หญิงคนเดียวกันหรอก จริงมั้ย "
ป้องมองหน้าเตชินอย่างเข้าใจในความหมายของคำพูดทุกประโยค แล้วแอบพึมพำในใจว่า
[ ดูท่าแล้วประธานเตชินคงจะจนปัญญาในการตามหาภรรยาแล้วจริงๆ
เลยมาขอความร่วมมือจากพี่ป๊อบ ให้ขอโทษแล้วยอมรับผิด สารภาพความจริงออกสื่อ นับว่าเป็นความคิดที่ฉลาดมาก
การทำแบบนี้นอกจากจะทำให้ภรรยาและลูกของเขาไม่ตกอยู่ในอันตรายแล้ว
ยังทำให้ภรรยาเข้าใจเขาและอาจจะหายโกรธโดยไม่ต้องไปเปลืองเวลาอธิบายให้เหนื่อย
ครอบครัวกลับมาคืนดีกันอย่างเข้าอกเข้าใจ
ในขณะเดียวกัน
ก็ให้ทำให้พี่ป๊อบให้รู้ผลของการกระทำตัวเอง
เขาสมกับเป็นประธานเตชินแห่ง T-chin จริงๆ ]
เตชินมั่นใจว่าถ้าป๊อบรู้ว่าพิมหนีไปจนเขาจนปัญญาในตามหา ป๊อบจะต้องยอมทำทุกอย่างเพื่อพิมแน่นอน
เพราะเขารู้ว่าป๊อบนั้นรักและเป็นห่วงพิมมาก
เขารู้จุดอ่อนตรงนี้ของป๊อบดี
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ป่วนหัวใจท่านประธานเย็นชา