เขาลุกขึ้นยืนแล้วเอ่ยตะคอกเสียงกร้าวด้วยความโกรธเคืองว่า
" เออ! พี่จะไม่ขอโทษ จะไม่สารภาพหรือจะไม่อธิบายเชี่ยอะไรก็ช่างพี่ ผมไม่ยุ่งแล้ว
แต่พี่รู้ไว้นะ ถ้าภรรยากับลูกของเตชินที่หนีออกจากบ้านเป็นอะไรไป
ผมจะคอยดูว่าถึงตอนนั้นเตชินมันจะทำยังไงกับบริษัทเรา
ตอนนี้เธอขาดการติดต่อเป็นอาทิตย์แล้ว แล้วผมจะคอยดูว่าพี่จะมีความสุขกับผลการกระทำของพี่มั้ย
ที่ผู้หญิงที่พี่รักที่สุดหนีออกไปจากบ้านจนสามีเขาจนปัญญาตามหาน่ะ
พี่คิดว่ามันปกติมั้ย ผมก็หวังว่าเธออยู่ข้างนอกแล้วจะปลอดภัยจากศัตรูของเตชิน
นับจากนี้ไปผมจะไม่ยุ่งเรื่องของพี่แล้ว พี่อยากเสียลูกไป
เพราะแย่งคนรักเก่าคืนทั้งที่เธอเป็นภรรยาคนอื่น ก็เรื่องของพี่! "
พูดจบเขาก็เดินดุ่มๆออกมาจากห้องของประธานบริษัทด้วยสีหน้าขมึงทึง
พนักงานที่ได้ยินเสียงทะเลาะของสองพี่น้องก็ต่างพากันเงียบกริบ
ก้มหน้าทำงานของตัวเองด้วยความตื่นเต้นตกใจไปตามๆกัน
เพราะพวกเขาไม่เคยเห็นท่านประธานกับรองประธานทะเลาะกันใหญ่โต
จนหน้าหล่อๆของรองประบอบช้ำขนาดนี้มาก่อน
ป๊อบได้ยินว่าพิมหนีไปจากเตชิน ก็ถึงกับอึ้งไป ใจหนึ่งรู้สึกดีใจ
แต่อีกใจกลับเป็นห่วงเธอจนทำอะไรไม่ถูก
คิดอะไรไม่ออก
กลับไปนั่งลงบนเก้าอี้ทำงาน สงบสติอารมณ์อย่างเงียบๆจนใจเริ่มสงบเย็นลง
จึงหยิบโทรศัพท์ออกมาโทรไปหาพิม แต่โทรกี่ทีกี่ครั้งก็ได้ยินเพียงเสียง
" ขออภัยค่ะ / ขออภัยค่ะๆๆ "
ได้ยินแต่เสียงนี้ซ้ำๆ จนใจเขาเริ่มไม่สบายใจได้แต่ตัดพ้อในใจด้วยความน้อยใจว่า
[ พิม ทำไมคุณหนีไปแล้วไม่โทรมาหาผมนะ หรือว่าในใจคุณแม้แต่ในฐานะเพื่อน ฐานะพี่ชายก็ให้ผมไม่ได้เลย งั้นเหรอคุณใจร้ายกับผมเกินไปมั้ย ]
เมื่อติดต่อพิมไม่ได้ เขาเริ่มรู้สึกกระวนกระวายใจด้วยความเป็นห่วงมากขึ้น กลัวจะเป็นอย่างที่ป้องพูด
เตชินมีศัตรูรอบตัวที่คอยจ้องจะเล่นงานมากมาย ทั้งคนอิจฉา คนเกลียดชังอยากจะค่นล้มจนนับไม่ถ้วน
[ เรื่องนี้จะให้ใครรู้ไม่ได้ว่าพิมกับลูกหนีออกจากบ้านไป ไม่งั้นเธออาจจะตกอยู่ในอันตรายได้
หรือว่าเตชินคิดแบบนี้ก่อนแล้ว เลยจะให้เราขอโทษและอธิบายให้พิมฟังผ่านสื่อ
เพื่อให้พิมเข้าใจแล้วกลับมาหาเขา หึ อุบายแยบยล แกร้ายกาจไม่เปลี่ยนเลยนะไอ้เตชิน ]
เมื่อคิดได้ดังนั้น ป๊อบก็ออกไปตามหาพิมในที่ๆพิมเคยไป ไปตามหาตามบ้านรุ่นพี่ที่พิมรู้จัก
โทรไปหาเพื่อนสนิทพิมทีละคนๆ หนึ่งในนั้นคือฟ้าใส ทันทีที่ได้ยินเสียงฟ้าสายเอ่ย
" ว่าไง พี่ป๊อบ "
เขาก็รีบเอ่ยถามทันทีว่า
" พิมเคยติดต่อน้องบ้างมั้ยช่วงนี้ "
ฟ้าใสที่อยู่ปลายสายจึงเอ่ยตอบว่า
" ไม่นะ เกิดอะไรขึ้นเหรอ "
ดูคลิปวีดีโอของพิมกับลูกกำลังเล่นกันอยู่ในห้องในจอโทรศัพท์ ที่เขาเคยถ่ายเก็บไว้ พอดูจบเขาก็วางโทรศัพท์ลงบนโต๊ะ
เลื่อนสายตาไปมองภาพของพิมที่ตั้งวางบนโต๊ะทำงานของเขา
แล้วหยิบรูปของพิมกับลูกมาจูบเบาๆจากนั้นก็เอามากอดไว้ในอ้อมอก
เอนหลังพิงนพนักพิงเก้าอี้แล้วหลับตาลงด้วยความคิดถึงลูกกับภรรยาอย่างสุดหัวใจ แล้วเอ่ยพึมพำในใจ
[ พิมครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้ายที่ผมจะให้คุณหนีไปจากผม
จะเป็นครั้งสุดท้ายที่จะเกิดเรื่องเข้าใจผิดแบบนี้ และครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้ายที่ผมจะใกล้ชิดผู้หญิงคนอื่น
หากคุณกลับมาผมจะไม่ทำให้คุณเสียใจหรือรู้สึกผิดหวังในตัวผมอีก ]
หลายวันมานี้ เขานอนแทบไม่หลับ หลับก็เหมือนไม่ได้หลับ หลับๆตื่นๆ
เอาแต่กังวลเรื่องความปลอดภัยของภรรยากับลูก จนไม่มีความอยากอาหารเลย
" จริงสิ เดือนนี้ลูกชายเราอายุครบสองขวบแล้ว แทนที่เราจะได้ฉลองวันเกิดให้ลูกด้วยกัน
ทำไมคุณถึงพาลูกหนีไปโดยไม่รอฟังคำอธิบายจากผมเลยนะพิม
ใจคุณเด็ดเดี่ยวเกินไปจนผมกลัว กลัวจะเสียคุณไปตลอด
ผมยอมให้คุณไปทุกอย่างแล้วเพื่อที่จะไม่เสียคุณไป ครั้งนี้ ผมผิดที่ไม่เปิดใจคุยกับคุณตั้งแต่แรก
ผมเสียใจ หากผมรู้ว่าคุณจะหนีไป ผมคงอธิบายให้คุณฟังแต่แรกแล้ว ผมมันโง่ ผมมันโง่เองที่คิดได้ช้าไป "
เขาเสียใจมาก ที่ชะล่าใจ เขารู้สึกเจ็บใจที่ตัวเองลืมคิดถึงนิสัยเด็ดเดี่ยวของพิม เจ็บใจที่ไม่หันหน้ามาเปิดใจคุยกันตั้งแต่แรก
ครั้งนี้ถือเป็นบทเรียนในการใช้ชีวิตคู่สำหรับเขา ทำให้เขารู้ว่าชีวิตคู่มีอะไรต้องรีบเคลียร์กันให้เข้าใจโดยเร็ว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ป่วนหัวใจท่านประธานเย็นชา