รักเต็มใจ ประธานจงรักของฉัน นิยาย บท 111

บทที่ 111 วันเกิดของคุณอามู่

“ฉันก็ว่าทำไมหน้าคุ้นๆ แล้วยังผิวดำๆของเขาอีก” จู่ซือซือพูดอย่างขุ่นเคืองว่า “ได้ นังจิ้งจอกตัวนี้เหยียบเรือสองแคมไม่พอยังจะหาเศษหาเลยอีก!”

เธออารมณ์เสียมากจริงๆ ไอ่หมาป่าบ้าตัวนี้ก็โง่จริงๆ ไม่รู้หรือไงว่าแฟนตัวเองเป็นผู้หญิงหลายใจแค่ไหน สวยหรอ? สวยก็บ้าแล้ว เทียบกับเธอไม่ได้สักเสี้ยวด้วยซ้ำ

ยิ่งเธอเห็นว่าพวกเขาทั้งสองแต่งกายด้วยโทนสีคล้ายๆกันก็ยิ่งรู้สึกอึดอัดใจเข้าไปอีก

มีผู้ชายคนหนึ่งผูกเสื้อแจ็กเก็ตลายสก็อตไว้ที่เอวเดินผ่านมาทางจู่ซือซือพอดี เธอคว้าผู้ชายคนนั้นไว้แล้วดึงเสื้อแจ็กเก็ตลายสก็อตของเขาออก พร้อมกับยื่นธนบัตรหลายสิบใบให้พร้อมบอกว่า

“เสื้อตัวนี้ฉันซื้อต่อ”

“............” ผู้ชายที่ถูกดึงเสื้อไปไม่ได้ตอบอะไร

จู่ซือซือที่หลบอยู่หลังเสาตลอดกำลังหาจังหวะจู่โจม จนกระทั่งถังซินออกไปเข้าห้องน้ำ พอเธอออกไป จู่ซือซือก็รีบพุ่งไปหากวนชิงเฟิงอย่างรีบร้อน

กวนชิงเฟิงยังคงพูดคุยเรื่องตึกอยู่กับที่พนักงานขายอย่างไม่รู้ร้อนรู้หนาว ที่ปรึกษาถูกเธอดันออกไป

จู่ซือซือยืนเท้าใส่เอวแล้วจ้องไปที่เขาพร้อมกับพูดว่า “ไอ่หมาป่าบ้า ทำไมไม่รับสายฉัน”

“ผมลาออกแล้วนะ แล้วก็ไม่ได้เป็นบอดี้การ์ดของคุณสักหน่อย ทำไมผมต้องรับสายคุณด้วย”กวนชิงเฟิงตอบด้วยความหงุดหงิด เขาดันเธอออกอย่างกับเธอเป็นลูกเจี๊ยบแล้วให้พนักงานขายพูดต่อ

เขายอมเธอจริงๆ แค่มาดูบ้านสักหลังยังต้องมาเจอยัยคุณหนูนี่อีก

พนักงานขายอยากจะพูดก็ไม่กล้าพูด จึงทักทายคุณหนูจู่ซือซืออย่างสุภาพว่า “คุณหนูจู่”

จู่ซือซือไม่สนใจเธอ ยังคงยุ่งวุ่นวายอยู่กับกวนชิงเฟิงต่อ “ คุณลาออกทำไม ฉันอนุญาตแล้วหรอ ผู้ช่วยจางให้เงินไม่พอใช้ แต่ฉันมีนะ”

กวนชิงเฟิงพยายามระงับอารมณ์ตัวเอง “นี่มันไม่ใช่ปัญหาเรื่องเงิน ผมยุ่งมาก เลยไม่อยากทำแล้วเฉยๆ”

“ไม่รู้แหละ ฉันไม่สน ฉันไม่อนุญาตให้คุณลาออก!” จู่ซือซือพูดไปกระทืบเท้าไป “ก็เพราะคุณลาออกไป ก็เลยไม่มีใครทำอะไรให้ฉันกิน ฉันเลยอารมณ์ไม่ดีจนถ่ายหนังไม่ได้เลยเนี่ย”

“งั้นทำไมคุณไม่หิวตายไปเลยล่ะ”

“ฉันสวยขนาดนี้ตายไปเสียดายแย่ ฉันจะมีชีวิตอยู่ต่อไปอย่างดีเลยแหละ”

พนักงานขายที่ยืนห่อไหล่อยู่ถึงกับตะลึงไป

ใครไม่รู้บ้างว่าจู่ซือซือเป็นที่รักของประธานมู่แค่ไหน จึงทำให้ไม่มีใครกล้าขัดอะไรเธอเลย แต่ดูตอนนี้สิ มันเกิดอะไรขึ้นทำไมเธอถึงเห็นมีคนกล้าด่าคุณจู่ซือซือกันเนี่ย

พนักงานขายกลัวว่าเธอจะโดนลูกหลงไปด้วยเลยกะจะย่องออกไปเงียบๆแต่เท้ายังไม่ทันได้ก้าวออกไปเสียงของจู่ซือซือก็ดังขึ้นเหนือหัวเธอ

“เขาอยากได้บ้านหลังไหน”

“บ้านหลังที่อยู่ในชุมชนชั้นสูงบนถนนจิ่นหยวนในโมเดลบ้านตรงนั้นค่ะ” พนักงานขายชี้ไปทางนั้นแล้วตอบอย่างฝืนๆใจ

“เท่าไหร่!”

“9,860,000”

จู่ซือซือหยิบกระเป๋าเงินออกมาเธอหยิบบัตรออกมาจากช่องใส่เงินแล้วยื่นให้พนักงานขาย เธอเชิดคางขึ้นแล้วพูดอย่างหยิ่งผยองว่า “รูดบัตร แล้วพรุ่งนี้ส่งเอกสารซื้อขายบ้านมาที่บริษัทฉันด้วย”

กวนชิงเฟิงเริ่มมีปฏิกิริยากลับมา เขาจับมือเธอไว้ “ทำอะไรของคุณเนี่ย”

“ก็ซื้อบ้านให้คุณไง” จู่ซือซือตอบ “คุณชอบบ้านหลังนี้ไม่ใช่หรอ ฉันก็เลยซื้อให้คุณไง”

“ผมก็มีเงิน คุณจะซื้อให้ทำไม”สีหน้าของกวนชิงเฟิงบึ้งตึง เขารู้สึกเหมือนกำลังโดนดูถูกยังไงอย่างงั้น “เก็บบัตรของคุณกลับไป”

จู่ซือซือพยายามบิดข้อมือออกแต่ก็บิดไม่ออกเธอก็เลยใช้มืออีกข้างหนึ่งหยิบบัตรให้พนักงานขาย แล้วบอกเธอว่า “รีบไปจัดการสิ ยืนเฉยอยู่ทำไม”

พนักงานขายรีบหยิบบัตรแล้ววิ่งออกไป

จู่ซือซือที่เหมือนยัยจิ้งจอกเจ้าเล่ห์ภูมิใจเหลือเกิน ยังหันไปแลบลิ้นใส่กวนชิงเฟิงอีก “ยังไงซะตอนนี้คุณก็เป็นหนี้ฉัน9,860,000บาท คุณต้องมาเป็นบอดี้การ์ดใช้หนี้ฉัน ไม่งั้นฉันจะฟ้องคุณ”

“…….”

ตั้งแต่เด็กจนโตเป็นครั้งแรกเลยที่เขาเจอผู้หญิงที่ไร้เหตุผลขนาดนี้

จู่ซือซือเห็นเสื้อแขนสั้นของเขาแล้วรู้สึกขัดหูขัดตา โยนเสื้อแจ็กเก็ตลายสก็อตให้เขา “เสื้อแขนสั้นน่าเกลียด เปลี่ยนซะ!”

ถังซินที่กำลังดูแบบบ้านอยู่ ก็ได้ยินเสียงใครบางคนมาจากด้านหลัง

เธอหันกลับไปเห็นมู่เฉินหย่วนในชุดลำลอง เมื่อเทียบกับชุดที่ใส่เวลาทำงานแล้วชุดบนตัวของชายคนนี้ดูดีและโดดเด่นกว่าคนอื่นมากเลย

มู่เฉินหยวนมองไปที่โต้ะโมเดลบ้านด้านหลังเธอแล้วถามว่า “ดูบ้านหรอครับ?”

“อื้อ อยากจะเลือกบ้านในย่านที่ดีหน่อยให้คุณแม่ค่ะ” เธอพยักหน้าแล้วตอบ “คุณมู่ก็มาดูบ้านหรอคะ?”

มู่เฉินหยวนหันไปกระซิบกับพนักงานขายข้างๆเขาสองสามคำ หลังจากที่พนักงานขายเดินจากไปก็พูดว่า “พอดีผมมีเพื่อนหลายคนกำลังจะกลับมา เลยมาจัดการเรื่องที่พักให้กับพวกเขา”

ถังซินถึงกับรู้สึกประหลาดใจ

จัดการเรื่องที่พักก็หมายถึงซื้อบ้านเลยไม่ใช่หรือไง ฟุ่มเฟือยอะไรขนาดนี้

ไม่นานนักพนักงานขายก็กลับมาพร้อมกับสัญญาซื้อขายบ้านในมือของเธอ มู่เฉินหย่วนยื่นให้ถังซิน “ตึกอาคารพวกนี้เป็นของบริษัทมู่ซื่อ ถ้ามีอันไหนที่คุณชอบคุณก็ลองเลือกมาสักอัน ผมยกให้คุณหนูถัง”

“ไม่ๆๆ ถ้าลดราคายังพอว่า แต่ถ้าให้เลยขอไม่รับดีกว่า” ถังซินปฏิเสธอย่างรวดเร็วและค่อนข้างตกใจ เธอก็พึ่งจะรู้เนี่ยแหละว่าตึกพวกนี้เป็นของบริษัทมู่ซื่อ “ฉันไม่อยากติดหนี้คุณมากเกินไป มันรู้สึกไม่ค่อยดีค่ะ”

มู่เฉินหยวนที่ปกติเป็นคนยิ้มยากกลับยิ้มออกมา น้ำเสียงเขานุ่มนวล “คุณหนูถัง ช่วงนี้คุณช่วยผมไว้เยอะมาก คำขอสามประการที่ผมติดค้างคุณไว้ก็ยังไม่ได้ให้เลย ต้องเป็นผมสิที่ติดหนี้คุณ ให้ของคุณนิดๆหน่อยๆเป็นเรื่องที่สมควรครับ”

“ไม่มีติดหนี้อะไรทั้งนั้นค่ะ ฉันรับเงินเดือนจากบริษัทมู่ซื่อก็สมควรต้องทำงานที่ได้รับมอบหมายให้ดีที่สุด” ถังซินพูด “”ถ้าคุณมู่ยังพูดเรื่องให้บ้านอีก ฉันก็จะไม่ซื้อที่นี่แล้วนะคะ”

“โอเค งั้นลดราคาแล้วกัน” มู่เฉินหย่วนจึงไม่เอ่ยเรื่องนี้อีก

แต่ว่าเขาก็ไม่ได้จากไปไหน เพียงแค่ให้พนักงานขายออกไป ในตอนที่ถังซินเหมือนจะสนใจบ้านหลังไหน เขาก็จะพาถังซินไปดูบ้านหลังอื่นที่คล้ายกันด้วยอย่างระมัดระวัง

ถังซินสัมผัสได้ว่ามู่เฉินหยวนอารมณ์ดี จึงถามว่า “ช่วงนี้มีอะไรดีดีเกิดขึ้นหรอคะคุณมู่?”

“เปล่า วันนี้เป็นวันเกิดของผม” มู่เฉินหย่วนยิ้มไปทั้งตา น้ำเสียงของเขาก็ดูสงบ “ผมนัดเพื่อนหลายคนมาคุยธุรกิจและถือโอกาสฉลองวันเกิดด้วย”

ถังซินถึงกับอึ้งไป

วันนี้เป็นวันเกิดของคุณคุณอามู่หรอเนี่ย? อายุครบ30ใช่ไหมนะ?

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักเต็มใจ ประธานจงรักของฉัน