บทที่ 320 ยังเจอกันอีกมั้ย
ฉันไม่เป็นไร หลี่ซูเจ๋เม้มริมฝีปาก เห็นเขาใส่ใจตนเองขนาดนี้ มีบางคำพูดที่อยู่ในใจแต่ไม่สามารถพูดออกมาได้ “ลู่เหวินซู ฉันคิดว่า… “เธอรู้สึกเหนื่อยเล็กน้อย ไม่อยากที่จะพัวพันอะไรกับเขาต่อไป และไม่อยากที่จะแก้แค้นแล้ว
มีเรื่องอะไรค่อยพูดกันทีหลัง วันนี้มีแสงอาทิตย์ออกมา แต่อากาศกลับเย็นอ่อนๆ ลู่เหวินซูจึงเอาตัวเธอห่อเข้าไปในเสื้อโค้ทของเขาและเดินออกไปข้างนอกด้วยกัน พวกเรากลับไปก่อน
หลี่ซูเจ๋ดมไปที่บนเสื้อโค้ท เป็นกลิ่นอายของความเย็นฉ่ำ ใจสั่นเครือ แต่กลับไม่ได้พูดอะไร
ตะบึงขับรถมาอย่างเร็วตลอดทาง สุดท้ายก็มาถึงที่ที่ลู่เหวินซูพัก
ลู่เหวินซูถอดเสื้อโค้ทและแขวนไว้ที่แขวนเสื้อ ดึงปากกระบอกแขนเสื้อไหมพรมและเอ่ยขึ้นว่า “เธอเข้าไปอาบน้ำอุ่นก่อนเถอะ ฉันจะดูก่อนว่าฉันจะต้มโจ๊กให้เธอกินได้มั้ย?”
เขาจับไปที่ผม พูดพึมพำกับตัวเองด้วยใบหน้าที่ลำบากใจ “ฉันยังไม่เคยต้มโจ๊ก แต่น่าจะไม่ยากหรอก…”
ตั้งแต่เล็กจนโต เขายังไม่เคยทำกับข้าวให้ใครกิน
หลี่ซูเจ๋อยากที่จะหัวเราะออกมามาก แต่กลับรู้สึกสับสนอยู่ในใจ เป็นทุกข์ใจมาก
เธอจึงเรียกเขา “ลู่เหวินซู”
“อะไรหรอ?” ลู่เหวินซูหันหลังมา กำลังอยากจะถามว่าเธอเป็นอะไร หลี่ซูเจ๋ก็โผเข้ามา แล้วใช้มือจับที่คอของเขาไว้ ริมฝีปากที่อ่อนนุ่มประทับไปที่บนนั้น
กลีบริมฝีปากของเธอนั้นอ่อนนุ่ม จูบแล้วรู้สึกถึงความอุ่นร้อน และมีกลิ่นหอมโชยออกมา
ลู่เหวินซูอดไม่ได้จึงจับไปที่เอวบางเล็กของเธอ และกดเธอให้เข้ามาอยู่ในอ้อมกอด สูดดมกลิ่นอายของเธอ
หลังจากนั้นไม่นาน ทั้งสองคนก็แยกออกจากกัน
หลี่ซูเจ๋ทอดถอนหายใจออกมาเบาๆ หน้าผากของทั้งคู่ก้มเข้าหากัน ลมหายใจแทบจะรดเข้าด้วยกัน เธอจึงจูบริมฝีปากของชายหนุ่มอีกครั้ง และพูดด้วยเสียงเบาๆว่า “ฉันอยากจะมีอะไรกับนาย”
ลู่เหวินซูชะงักงง “ตอนนี้หรอ? สองวันมานี้เธอไม่ได้พักผ่อน ไม่เหนื่อยหรอ?”
หลี่ซูเจ๋ส่ายหน้า รอยยิ้มสวยงามแพรวพราว ทำให้ใจสั่นและสับสน “ไม่ใช้สิ้นเปลืองแรงกำลังของฉันหรอก นายอยากจะทำมั้ย? ถ้าไม่อยากก็ช่างมันเถอะ”
“ถ้าอย่างนั้นก็ทำเถอะ!”
ลู่เหวินซูรู้สึกทรมานตั้งแต่ที่เธอจูบแล้ว ตอนนี้ได้ยินเธอพูดเช่นนี้ จึงกอดไปที่เอวเธอ ถีบเปิดประตูห้องนอน ทั้งสองคนจึงเดินไปที่บนเตียงอันอ่อนนุ่ม
ข้างนอกพระอาทิตย์ขึ้นสูง สองคนที่อยู่บนเตียงนอนในห้องจูบกันอย่างเร่าร้อน ต่างฝ่ายต่างกอดกันอย่างแนบชิดแน่น
หลังจากผ่านไปหนึ่งชั่วโมงกว่า ฉากรักนี้ถึงได้สงบลง
ลู่เหวินซูที่เหนื่อยมากมาทั้งสองวัน กอดหลี่ซูเจ๋และหลับไป หายใจทอดยาวติดต่อกัน
หลี่ซูเจ๋มองดูผู้ชายที่อยู่ในอ้อมอก เอานิ้วมือสัมผัสไปตามโครงหน้าของเขา สัมผัสลงไปเรื่อยๆ บนคางของเขามีหนวดขึ้น ทิ่มแทงจนมือเธอคันๆ
เขานอนอยู่ในอ้อมอกของเธอ ไม่ป้องกันตัวแม้แต่นิดเดียว
มือของหลี่ซูเจ๋หยุดอยู่ที่คอของเขา ในใจนึกถึงมีดที่วางอยู่ในโต๊ะหัวเตียงด้านขวา เธอเอามีดออกมา และจะแทงเข้าไปที่คอของลู่เหวินซู
ไม่ถึงสามวินาที แม้แต่จะต่อสู้ดิ้นรนเขายังไม่มีโอกาส ก็ขาดใจแล้ว
แต่ว่าเธอทำไม่ลง
นายทำให้ผู้หญิงชอบได้ง่ายขนาดนี้เลยหรอ? หลี่ซูเจ๋พูดกระซิบ และนิ้วมือก็ลูบไปที่ริมฝีปากของเขา และนึกถึงตอนที่เขาจูบเธอ ว่าเร่าร้อนขนาดไหน
เธอเกลียดชังความใจอ่อนของตัวเอง เกลียดชังความละอายแก่ใจที่มาอย่างไม่ทันได้ตั้งตัว และก็เกลียดเขา
หลี่ซูเจ๋ก้มลง และจูบที่ใบหน้าของเขา พูดด้วยเสียงเบาๆขึ้นว่า ไม่มีใครบอกนายหรอ ว่าผู้หญิงสวยเข้ามาใกล้ชิดนาย ต้องมีเป้าหมายที่ไม่บริสุทธิ์ใจแน่นอน? ผู้ชายคนนี้หลอกง่ายจริงๆ
โทรศัพท์ที่วางอยู่บนโต๊ะหัวนอนก็ดังขึ้น หลี่ซูเจ๋คว้ามาปลดล็อก และเห็นข้อความจากคนแปลกหน้าหนึ่งข้อความ
“ฉันคือเจียน่า ห้าโมงเจอกันที่นั่น?”
หลี่ซูเจ๋พิมพ์ไปไม่กี่บรรทัด อยากบอกว่าฉันไม่คุยแล้ว เงินนั้นจะโอนเข้าหมายเลขบัญชีธนาคารเธอตามเดิม
และเมื่อกำลังจะกดส่ง เธอกลับลังเลใจ
มองดูชายหนุ่มที่หลับลึกอยู่ข้างๆ แววตาเธอเย็นชา และลบคำพูดพวกนั้นทิ้ง และตอบกลับไปว่า “ได้”
ถังซินจึงพูดหยอกล้อขึ้นว่า “ผู้ช่วยจาง เห็นคุณยิ้มอย่างมีความสุขขนาดนี้ หาแฟนได้แล้วหรอ?”
ผู้ช่วยจางรีบหุบยิ้ม “ไม่มี แค่เพื่อนนักเรียนเท่านั้น”
“เพื่อนนักเรียนส่งข้อความมา ทำให้คุณมีความสุขขนาดนี้เลยหรอ?” ถังซินไม่เชื่อจากก้นบึ้งของหัวใจ “ถ้าเพื่อนนักเรียนของคุณดูแล้วใช้ได้จะคุยด้วยก็ไม่เป็นไร คุณควรจะมีแฟนสาวได้แล้ว”
เธอจึงฉวยโอกาสถามขึ้นอีก “เพื่อนสมัยเรียนประถมหรอ?”
ผู้ช่วยจางลังเลใจอยู่สักครู่ และพูดขึ้นว่า “เพื่อนตั้งแต่ประถมถึงมหาวิทยาลัย รู้จักมานานมากแล้ว”
“โอ้ว…”รอยยิ้มของถังซินนั้นมีเลศนัย มือที่ถือเอกสารไว้ชี้ไปทางเขา “รักแรกของคุณหรอ? แต่ฉันได้ยินว่าคุณจบจากมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด เธออยู่มหาวิทยาลัยเดียวกับคุณหรอ?”
“อืม เธอยอดเยี่ยมมาก” เมื่อเอ่ยถึงรักแรกนั้น ผู้ช่วยจางก็รู้สึกเขินอาย “และก็สวยมาก ตอนที่เรียนอยู่มีผู้ชายมาจีบเธอเยอะมาก”
“คุณก็ชอบหรอ?”
ผู้ช่วยจางเกาหัว ไม่พูดตอบ ก็ถือว่าบอกเป็นนัยแล้ว
นายนี่ขี้กลัวจริงๆ ตั้งแต่ประถมถึงมหาวิทยาลัย ยังไม่กล้าสารภาพรักอีก ถังซินลุกขึ้นมาจากโซฟา รู้สึกสนใจเรื่องนี้มาก “ตอนนี้เธอไม่มีแฟนใช่มั้ย?”
“เธอบอกว่าเป็นศาสตราจารย์นั้นยุ่งมาก ไม่มีเวลามีความรักมาโดยตลอด”
“ตอนนี้พวกคุณมาพบกันอีกครั้ง มันเป็นพรหมลิขิตนะ” ถังซินลูบคลำที่คาง และเอ่ยถามผู้ช่วยจางขึ้นอีกครั้ง “แล้วพวกคุณพบกันอีกครั้งที่ไหน? เป็นไปได้มั้ยว่าเธอมาทำธุระที่บริษัทมู่ซื่อ?”
“ไม่ใช่ครับ เจอกันที่ประเทศญี่ปุ่น”
“ประเทศญี่ปุ่น?”
ผู้ช่วยจางพยักหน้า และพูดต่อว่า “ก็คือคืนวันคริสต์มาสอีฟที่พวกเราไปเที่ยวที่คลับ ผมเห็นว่าเธอก็อยู่ร้านเหล้านั้นเหมือนกัน ผมคิดว่าผมจำคนผิด เมื่อจ่ายเงินเสร็จและกำลังจะกลับ คิดไม่ถึงว่าเธอจะรอผมอยู่ที่หน้าประตูทางออก”
“เธอบอกว่ามาเที่ยวญี่ปุ่นเป็นเพื่อนเพื่อน เห็นว่าผมหน้าคุ้นๆ เหมือนกับเพื่อนนักเรียนของเธอคนหนึ่ง หลังจากที่พวกเราพูดชื่อกันออกมา จึงพบว่าพวกเราเป็นเพื่อนนักเรียนกัน ที่พวกเรากลับมาเจอกันอีกครั้งเรื่องก็เป็นเช่นนี้แหละ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักเต็มใจ ประธานจงรักของฉัน
สนุกมากๆ เลยค่ะ ขอบคุณมากๆ นะคะ ที่มีนิยายสนุกๆ ได้อ่าน...
สนุกมากๆๆๆ...