บทที่33 แม่กลัวต่อไปจะไม่มีลูกเขยเหรอ
“จะพูดอะไรก็พูด เธอมองพี่ทำไม?”พอเห็นกวนหลิงเอ๋อจ้องเขาอย่างไม่ละสายตา ถังซินจึงรู้สึกอึดอัด ทนไม่ไหวเลยตีเข้าไปหนึ่งที“ถึงชั้นแล้ว!”
กวนหลิงเอ๋อเป่าลมออกจากปาก:“บอกว่าอย่าตีไง!”
ตีจนมึนไปหมดแล้ว
ถังซินซื้อเสื้อผ้าให้แม่สองสามตัว หลังจากเดินเข้าไปในร้าน กวนหลิงเอ๋อที่ปกติออกมาข้างนอกมักจะบ่นว่าเหนื่อยแต่ครั้งนี้กลับเข้าไปช่วยแม่เลือกเสื้อผ้าเอง และยังแย่งถังซินจ่ายเงินอีก
“พี่หนูเองหนูเอง หนูมีเงิน!”
“......”
พวกเขาซื้อเสื้อผ้ากันเสร็จก็เดินลงไปชั้นล่างของห้างซื้อผักสดเนื้อสดเพื่อมาทำอาหาร หลังจากนั้นจึงกลับไปที่พักของแม่
แม่ยังพักอยู่ที่เก่าๆเล็กๆที่เคยเลี้ยงพวกเขามาตั้งแต่เด็ก ห่างจากในเมืองประมาณหนึ่งชั่วโมง ถังซืนอยากเปลี่ยนที่พักใหม่ให้แม่หลายรอบแล้ว แต่แม่ไม่อยากเปลี่ยน บอกว่าอยู่นี่ก็ดีอยู่แล้ว
พอถึงบ้านแม่ก็เข้าไปทำอาหารในครัว กวนหลิงเอ๋อกับถังซินดูทีวีไปพูดคุยไป คุยไปได้สองสามนาที กวนหลิงเอ๋อก็เปิดเผยธาตุแท้ออกมา:“พี่คะ คืนวันเสาร์นี้พี่ว่างไหม!”
“พี่ว่านะโลกนี้ไม่ของฟรีจริงๆ!”ถังซินหยิบหมอนข้างเขวี้ยงไปที่หลิงเอ๋อแล้วยกมุมปากขึ้น:“ในที่สุดก็เปิดเผยออกมาแล้วสินะ?ถามพี่ทำไม?”
กวนหลิวเอ๋อเข้าไปนวดถังซินแล้วพูดอย่างเอาอกเอาใจว่า:“คืนวันเสาร์ที่คฤหาสน์เย่นซานมีงานปาร์ตี้แอลกอฮอล์ และก็มีผู้กำกับต่างชาติดังๆมาร่วมงานด้วย พี่ไปเป็นเพื่อนหนูหน่อยสิ!”
ถังซินปฏิเสธอย่างชัดเจน:“ไม่ไป ฉันไม่สนใจปาร์ตี้แอลกอฮอล์พวกนั้น”
ถ้าหากพูดคุยเรื่องสัญญา เขาต้องไปแน่ๆปกติไม่ชอบสถานการณ์แบบนั้น
“พี่คะ พี่ที่แสนดีของฉัน”กวนหลิงเอ๋อพูดด้วยท่าทางเศร้าโศก “ด้านในนั้นมีผู้กำกับที่ฉันชอบอยู่คนหนึ่ง หนังของเขากำลังเปิดรับนักแสดงชาวจีน ฉันอยากคุยกับเขา ถ้าหากสำเร็จขึ้นมาล่ะ?แต่ว่าพี่ก็รู้ ภาษาอังกฤษฉันแย่ ก็เลยอยากให้พี่มาเป็นล่ามของฉันชั่วคราว”
ถังซินชำเลืองมองหลิงเอ๋อตาขวางด้วยความรู้สึกผิดหวัง:“นี่ อายบ้างไหม ให้พี่ไปเป็นล่ามให้น่ะ ทำไมภาษาอังกฤษอ่อนขนาดนั้น?ภาษาอังกฤษของเด็กประถมยังจะดีกว่าเธอซะอีก!”
“โอ้โห งานอดิเรกของคนแต่ละคนก็ชอบไม่เหมือนกันไหมล่ะ พี่เหมาะกับการแปล ส่วนฉันก็ชอบการแสดง”กวนหลิงเอ๋อย้อนกลับ“ถ้าพี่ไปเป็นนักแสดง พี่ก็สู้ฉันไม่ได้เหมือนกันแหละ!”
คำพูดของกวนหลิงเอ๋อทำให้ถังซินพูดไม่ออก
กวนหลิงเอ๋ออ้อนวอนอย่างนี้ ถังซินจึงตอบตกลง ใครจะปล่อยให้น้องสาวสุดที่รักอยู่วงการบันเทิงอย่างลำบากยากเย็นล่ะ จะให้ไม่ช่วยได้ยังไง?
“พี่ดีที่สุดเลย!”กวนหลิงเอ๋อทั้งกอดทั้งจูบถังซิน และยังดึงถังซินเข้ามาเซลฟี่ ดีใจจนเหมือนอะไรสักอย่าง จนกระทั่งถังซินรับไม่ได้และผลักเขาออกไป
แม่ทำกับข้าวเสร็จ จึงเรียกทั้งสองคนมากินข้าว ตอนที่ถังซินลุกขึ้น โทรศัพท์บนโต๊ะก็ดังขึ้นมาพอดี เขามองเห็น2คำว่า”พี่เขย” จึงขมวดคิ้วออกมา
“หลิงเอ๋อ เธอมีวีแชทมู่หยางซิวเหรอ?”ถังซินถามกวนหลิงเอ๋อแล้วหยิบโทรศัพท์ของเขามา นอกจากมู่หยางซิว เธอก็คงไม่ได้เรียกใครว่าพี่เขยอีก
กวนหลิงเอ๋อเห็นถังซินหยิบโทรศัพท์ของตัวเองไปก็รีบแย่งคืนมา แล้วจึงแก้ตัวว่า:“หนูไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับเขา ไม่มีเรื่องอะไรแล้วจะแอดผู้ชายเลวๆคนนั้นทำไมล่ะ?อีกอย่างพวกพี่ก็หย่ากันแล้ว”
“ฉันเห็นคนที่ชื่อพี่เขยส่งวีแชทหาเธอน่ะ”
“นั่นมันสไตลิสต์ของฉันค่ะ!”กวนหลิงเอ๋อตอบกลับอย่างหน้านิ่ง “ชื่อวีแชทเขาตั้งว่าพี่เขย แล้วฉันก็ลืมเปลี่ยนชื่อ เอาเหอะพี่ เรามากินข้าวกันดีกว่าไหม?”
หลิงเอ๋ออธิบายจนถ้งซินเขื่อ
คนสมัยนี้มีใช้ชื่อวีแชทแปลกๆทั้งนั้น ขนาดเขายังมีเพื่อนร่วมงานคนนึงชื่อวีแชทตั้งว่าพ่อ
สองสามเดือนแล้วที่ถังซินไม่ได้กินข้าวฝีมือแม่ก็เลยกินจนหมดชาม ส่วนกวนหลิงเอ๋อก็ยังคงเส้นคงวาเลือกกินเหมือนเดิม ถังซินจึงยกเรื่องปาร์ตี้เหล้ามาเตือนหลิงเอ๋ออย่างเย็นชา แล้วจ้องเขม่งหลิงเอ๋อให้กินข้าวให้หมด
จะมาเลือกกินไม่กินอะไร ก็เลยสั่งสอนไปทีนึง
ถังซินมีธุระต่อ ตอนบ่ายต้องกลับไปบริษัท ส่วนกวนหลิงเอ๋อก็มีโฆษณาที่ต้องถ่ายอีกตัว แม่เลยต้มโจ๊กเห็ดหูหนูขาวใส่ขวดน้ำเก็บความรัอนให้พวกเขาพกไปด้วย
“แม่ ต่อไปแม่ไม่ต้องมาดูแลพวกเราหรอก” ก่อนจะไปถังซินย้ำกับแม่ว่า “ถ้าไม่มีเงินใช้ก็บอกหนูนะแม่ ลูกแม่หิวได้แต่แม่จะเป็นอะไรไปไม่ได้นะ”
แม่พยักหน้าตอบ:“แม่รู้ ต่อไปแม่ก็จะไปช่วยงานที่ห้องสมุด”
ถังซินถอนหายใจออกมา “แม่อาการดีขึ้นมากแล้ว ถ้าเบื่อๆแม่ก็ออกไปเต้นที่ลานกีฬาได้นะแม่ อ้อใช่ หนูกับมู่หยางซิวหย่ากันแล้วนะแม่ มีอะไรแม่ก็ไม่ต้องไปที่บ้านนั้นอีกนะ”
“เธอสองคนก็ดูรักกันดีนี่ ทำไมหย่ากันล่ะ?”แม่เงียบไปชั่วขณะแล้วจึงพูดต่อว่า “งั้น งั้นลูกหย่าแล้วต่อไปจะทำยังไงล่ะ จะมีใครอยากมาแต่งงานกับลูกอีกล่ะ?”
ถังซิน:“......”
“แม่ แม่อ่ะไม่เข้าใจ พี่หย่าน่ะถูกต้องแล้ว อยู่กับผู้ชายประเภทนั้นอนาคตก็ไม่มี!”กวนหลิงเอ๋อพูดแทรก“พี่ดีขนาดนี้ คนจีบก็เยอะเนอะ แม่กลัวต่อไปจะไม่มีลูกเขยเหรอ?”
“แต่แม่ว่าหยางซิวก็ดีมากนะ ทุกครั้งมาหาก็ทักแม่ตลอด มีของฝากมาให้ทุกครั้ง”แม่ยังคงบ่นต่อ
หลิงเอ๋อกลอกตามองบนแล้วดึงถังซินเดินออกมา
ผู้ช่วยจางไม่ได้ถามอะไร รับมาแล้วพูดว่า:“ขอบใจมากคุณถัง เดี๋ยวผมบอกประธานมู่ให้”
“ไม่ต้องเกรงใจค่ะท่าน”
หลังจากส่งถังซินที่แผนกแปล ผู้ช่วยจางก็ขึ้นลิฟต์ต่อไปที่ชั้นบนสุด มือหนึ่งถือขวดน้ำเก็บความร้อน อีกมือถือเอกสาร เดินก้าวยาวๆเข้าไปห้องประธาน
“เวรแล้ว!”
ผู้ช่วยจางก้าวเท้าเข้าไปถึงในห้อง แต่กระดาษกองหนึ่งโดนเข้าไปที่ศีรษะเขา หลังจากนั้นก็ค่อยๆร่วงลงบนพื้น มู่เฉินหย่วนยืนเท้าสะเอวอยู่หน้าหน้าต่าง ด้วยสีหน้าเศร้าซึม
แอร์ในห้องกำลังดี แต่กลับทำให้คนรู้สึกเหมือนตกอยู่ในลานน้ำแข็ง
ผู้ช่วยจางไม่ได้พูดอะไร ปิดประตูอย่างเงียบๆ หยิบกระดาษบนพื้นขึ้นมา หลังจากนั้นเอาของในมือวางไว้บนโต๊ะไม้มะฮอกกานี
“ทุกคนต่างรอกันไม่ไหวแล้วยังจะกล้าเอาของของคนหน้าไม่อายมาโชว์บนโต๊ะอีก” มู่เฉินหย่วนหงุดหงิดเป็นอย่างมาก ดึงเน็กไทออกอย่างสุรุ่ยสุร่าย “คิดว่าผมตาบอดหรือไง !”
“สองสามปีมานี้ประธานมู่ ท่านเอาแรงกายจองท่านไปไว้ที่ตลาดต่างประเทศหมด พอบริษัทไม่มีคน พวกเขาเลยไม่กลัว ”ผู้ช่วยจางพูด “คุณชายน้อยมู่หยางซิวไม่มีสมองอีกแล้ว”
มู่เฉินหย่วนยิ้มออกมาด้วยความเย็นชา:“ก่อนหน้านี้เขายังมีหน้าไปหาคุณพ่อที่บ้าน ดูจากพฤติกรรมของเขาละเนี่ย ถ้าไม่ใช่เพราะมีเฉียวมั่นหลัวนะ เขาก็ไปไม่ถึงตำแหน่งรองกรรมการผู้จัดการหรอก”
“พ่อคุณชายหยางซิวเสียไว เขากับแม่ของเขาไม่มีอะไรต่อต้าน ” ในห้องหยุดเงียบไป ผู้ช่วยจางพูดต่อ:“ก็แค่กลัวว่าถึงตอนนั้นจะมีคนไปหาเขา ถึงแม้จะเป็นลูกพี่ลูกน้องกัน ยังไงก็นามสกุล “มู่” ”
มู่เฉินหย่วนขมวดคิ้วถามว่า:“เขากับถังซินหย่ากันรึยัง?”
ผู้ช่วยจางพยักหน้า:“ผมไปหาคุณชายหยางซิว ท่านบอกว่าเซ็นต์ใบหย่าแล้วครับ แต่ว่าแปลกใจนิดหน่อย สองวันก่อนไม่ว่ายังไงคุณชายหยางซิวก็ไม่ยอมเซ็นต์ใบหย่า และจะฟ้องร้องคุณถังอีก สุดท้ายก็ยอมเซ็นต์”
“แค่เซ็นต์ก็พอแล้ว”พวกเขาจะหนีไปยังไง มู่เฉินหย่วนไม่สน” คุณจองตั๋วเครื่องบิน ให้มู่หยางซิวไปอยู่ตอนเหนือของบริษัท อย่าให้เขาหนีไปที่อื่น”
“ครับ เดี๋ยวผมจะไปจัดการครับ”ผู้ช่วยจางตอบรับเสร็จจึงพูดต่อว่า:“ประธานมู่ครับ วันเสาร์ประธานเจียงจัดปาร์ตี้แอลกอฮอล์ที่คฤหาสน์เย่นซาน อยากให้ท่านพาคุณซือซือไปด้วย”
ปาร์ตี้แอลกอฮอล์เหรอ?
มู่เฉินหย่วนคิดอย่างเงียบๆจึงรู้ว่าฝ่ายนั้นมีความคิดจะทำอะไร เขาครุ่นคิดแล้วจึงตอบรับไป:“บอกประธานเจียงว่าผมไป ให้คนรับผิดชอบCHANELโทรไป ว่าต้องการเซ็ทที่ดีที่สุดหนึ่งชุด”
“ครับ”
มู่เฉินหย่วนรู้สึกคอแห้งเนื่องจากพูดมากไป จึงอยากดื่มกาแฟขึ้นมา มองไปเห็นขวดน้ำเก็บความร้อนบนโต๊ะ ไม่รู้ว่าจะหัวเราะหรือร้องไห้ออกมาดี:“นี่คุณต้มเก๋ากี้มาบำรุงร่างกายให้ผมเหรอ?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักเต็มใจ ประธานจงรักของฉัน
สนุกมากๆ เลยค่ะ ขอบคุณมากๆ นะคะ ที่มีนิยายสนุกๆ ได้อ่าน...
สนุกมากๆๆๆ...