บทที่ 450 อดีตคู่หมั้นผมไม่สบาย
เมื่อออกมาก็เห็นมู่เฉินหย่วนยืนพิงผนังห้องเคบิน ขาที่ยาวงอเล็กน้อย มีลักษณะโดดเด่นและมีเสน่ห์
คล้ายกับได้ยินเสียงการเคลื่อนไหว เขาจึงทอดสายตามองไปที่เธอ
ถังซินรู้สึกลุกลี้ลุกลนในใจ จิตใต้สำนึกอยากที่จะเอามือวางไว้บนท้อง แต่กลัวว่าเขาจะระแคะระคายจึงรีบวางมือไปที่วงกบประตูและค่อยๆเดินออกมา
มู่เฉินหย่วนยืดตัวขึ้นและเดินเข้ามา “ฉันอุ้มเธอ……”
“ไม่ ไม่ต้อง ถังซินรีบพูดออกไป เธอกลัวมากว่าตอนที่เขาอุ้มเธอ เขาจะรู้อะไรเข้า
เธอเอามือจับไปที่แขนของเขา “รบกวนประธานมู่พยุงฉันก็พอแล้ว”
ดวงตาของชายหนุ่มก็เคร่งขรึมขึ้นมาทันที แต่กลับไม่ได้พูดอะไร ปล่อยให้เธอเอาตัวเองใช้เป็นไม้เท้าและเดินไปด้วยกัน
ขณะนี้เป็นเวลาของการรับประทานอาหาร พนักงานต้อนรับบนเครื่องบินได้สอบถามผู้โดยสารในระดับเฟริสคลาสว่าต้องการอาหารอะไร ผู้โดยสารบางคนได้รับอาหารและเริ่มกินแล้ว ในห้องผู้โดยสารที่ปิดสนิทได้กลิ่นหอมของอาหารโชยออกมาเบาๆ
ถังซินกับมู่เฉินหย่วนนั่งอยู่บริเวณทางเดิน ไม่รู้ว่ากลิ่นเหม็นของปลาจีนลอยมาจากตรงไหน
เมื่อจมูกเธอดมเข้าไป ในท้องก็ปั่นป่วนขึ้นมาอย่างกะทันหัน
เมื่อรู้สึกอยากที่จะอาเจียน ถังซินจึงรีบเอามือปิดปากไว้ ผลักมู่เฉินหย่วนออกและรีบวิ่งไปที่ห้องน้ำ
ผลสุดท้ายเธอก็เดินไม่ทันกับท้องที่กำลังปั่นป่วนของเธอ
เธอก้มตัวและอาเจียนออกมา
หลังจากที่ผู้โดยสารที่นั่งอยู่บริเวณหน้าต่างเห็นเข้า จึงดึงหน้าและพูดด่าพึมพำขึ้นมา “ไม่มีคุณสมบัติผู้ดีเลยแม้แต่นิดเดียว อยากอ้วกก็ไปอ้วกในห้องน้ำสิ? น่าสะอิดสะเอียนจริงๆ!”
มู่เฉินหย่วนชำเลืองมองผู้โดยสารคนนั้นด้วยสายตาที่เย็นชาแวบหนึ่ง “เธอไม่สบายจึงกลั้นไว้ไม่ได้ก็เท่านั้น”
ผู้โดยสารคนนั้นโดนเขาจ้องมองจึงรู้สึกหวาดกลัวเล็กน้อย ทุกคนที่นั่งอยู่ในห้องโดยสารเฟิร์สคลาสต่างก็อยู่ในตำแหน่งที่ใกล้ๆกัน จึงแสดงความไม่พอใจ “ไม่สบายก็กินเมลาโทนินสองเม็ดแล้วไปนอนสิ”
“ใช่แล้ว” ผู้โดยสารที่อยู่ข้างหลังยื่นหัวออกมาดู และพูดอย่างไม่พอใจ “เครื่องบินไม่ใช่ของเธอ เธอเป็นผู้โดยสาร พวกเราก็เหมือนกัน เธอทำแบบนี้ทำให้พวกเรารู้สึกรังเกียจ!”
“ตอนนี้คนแบบไหนก็สามารถนั่งระดับเฟิร์สคลาสได้เหรอ? น่าสะอินสะเอียนจริงๆ!”
“ทำไมไม่ไปนั่งรถไฟความเร็วสูง”
“………”
มู่เฉินหย่วนเห็นแขนของหญิงสาวที่กำลังจับผนังห้องเคบินไว้สั่นเครือ ในใจจึงรู้สึกโกรธอย่างไม่รู้สาเหตุขึ้นมาทันที จึงใช้สายตาที่เย็นชาจิกมองผู้โดยสารทั้งสอง
สองคนนั้นสั่นไปทั้งตัวและหดหัวกลับไปไม่ได้พูดอะไรออกมาอีก
มู่เฉินหย่วนตบหลังถังซินและเอ่ยถามเธอ “ยังรู้สึกไม่สบายอยู่ไหม”
ถังซินส่ายหน้า “ฉัน……”
เธออยากจะพูดอะไรออกมาแต่สุดท้ายก็พูดไม่ออก
เพราะถูกคนอื่นต่อว่าจนรู้สึกไม่สบายใจ สองไหล่จึงสั่นเครือ อดกลั้นน้ำตาไว้ไม่ไหวจึงร้องไห้ออกมา
มู่เฉินหย่วนเอามือจับที่ไหล่ของเธอ และพาเธอกลับมานั่งที่ และถือโอกาสเรียกพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินให้มาทำความสะอาด
พนักงานต้องรับบนเครื่องบินขานรับและสอบถามถังซินอย่างอ่อนโยนว่าต้องการยาหรือไม่
ถังซินนั่งอยู่บนเก้าอี้โซฟา รับน้ำร้อนที่ชายหนุ่มยื่นมาให้ ในมือยังคงสั่นเครือ
“ต้องโทษที่ฉันกินเยอะเกินไป แถมยังเป็นพื้นที่ปิดไม่มีอากาศถ่ายเท” ถังซินเอ่ยออกมา “ฉันอยากจะไปห้องน้ำ แต่กลั้นไว้ไม่ได้จริงๆ……”
“ไม่เป็นไร ใครๆก็เจอเหตุสุดวิสัยกันได้ทั้งนั้น” มู่เฉินหย่วนลูบคลำไปที่ผมของเธอและพูดด้วยน้ำเสียงที่เบาและแฝงไว้ด้วยความปลอบโยน “ไม่ใช่ความผิดของเธอและเธอก็ได้พยายามแล้ว”
เมื่อเห็นเขาปกป้องตนเองเช่นนี้ถังซินจึงรู้สึกจะร้องไห้
เมื่อสักครู่เธอรู้สึกหิวมาก ถ้าไม่กินอาหารกลัวว่าเด็กๆจะหิว คิดไม่ถึงว่าจะเกิดเหตุสุดวิสัยเช่นนี้
กลัวว่าถังซินท้องว่างแล้วจะรู้สึกไม่สบาย มู่เฉินหย่วนจึงสั่งให้พนักงานต้อนรับบนเครื่องบินเอาก๋วยเตี๋ยวมาหนึ่งที่
แต่ถังซินกลับไม่กล้ากิน ดื่มเพียงแค่น้ำร้อน “ใกล้จะถึงแล้ว รออีกสักครู่ไปกินที่โรงแรมก็ได้ ในห้องโดยสารเฟิร์สคลาสยังมีผู้โดยสารหลายคน ถ้าให้พวกเขาพูดขึ้นอีกก็คงจะไม่ดี”
มู่เฉินหย่วนพยักหน้า “ได้”
ถังซินดูข่าวไปสักครู่จึงรู้สึกง่วงนอน ไม่นานเธอจึงเอนตัวนอนลงบนเก้าอี้โซฟา
มู่เฉินหย่วนเอาหูฟังออก และยัดไปที่หูของถังซิน จากนั้นก็หันตัวและเดินออกไป
หัวหน้าพนักงานได้ประกาศว่าเครื่องบินกำลังลงจอดแล้ว ให้ทุกคนพับโต๊ะหน้าที่นั่งและอื่นๆ เมื่อเห็นชายหนุ่มที่ดูดีมีเสน่ห์ออกมาจากห้องผู้โดยสารเฟิร์สคลาส เขาจึงพักงานที่กำลังทำอยู่
“คุณผู้ชายมีธุระอะไรเหรอคะ?” หลังจากจำผู้ชายที่เดินเข้ามาใกล้ได้ หัวหน้าพนักงานต้อนรับก็ตกตะลึง “มู่ ประธานมู่”
ผู้โดยสารทั้งสองคนต่างหน้าเสีย หนึ่งในนั้นจึงถามขึ้นว่า “เจ้านายของพวกเธอเป็นใคร ทำไมอารมณ์ร้ายแบบนี้!”
“ประธานมู่จากกลุ่มบริษัทมู่ซื่อ”
“……”
เมื่อเห็นทั้งสองคนไม่พูดอะไรออกมา หัวหน้าพนักงานต้อนรับจึงพูดขึ้นอีกว่า “เจ้านายของเราฝากบอกกับพวกคุณว่า ไม่ใช่ว่านั่งระดับเฟิร์สคลาสถึงจะมีคุณสมบัติผู้ดี ของแบบนี้ต้องออกมาจากจิตใจ”
“………”
เมื่อถังซินตื่นขึ้นมาก็พบว่าตัวเองเหมือนกับไม่ได้อยู่ที่เก้าอี้โซฟาของห้องผู้โดยสารเฟิร์สคลาส บนที่เธอนอนเหมือนกับเป็น……เตียง?
ถังซินมองดูรอบๆ เห็นว่าการจัดวางเหมือนห้องนอนที่อยู่ในบ้านไม่มีผิด จึงมึนงงยิ่งขึ้น
ยังไม่ได้ตื่นนอนเหรอ?
เธอพึ่งคิดว่าเครื่องบินน่าจะถึงแม่น้ำหลีเจียงแล้ว ถ้าไม่ตื่นอีกต้องถูกมู่เฉินหย่วนอุ้มลงไป บังเอิญเงยหน้าไปเห็นชายหนุ่มกำลังดึงผ้าม่าน และเดินเข้ามา
“ไม่ใช่ว่าฉันพึ่งจะฝันถึงคุณเหรอ?” เมื่อเห็นเขา ถังซินจึงถลึงตาใส่ “ทำไม ฉันฝันอะไรต้องมีคุณแทรกเข้ามาเหรอ?”
เมื่อได้ยินดังนั้นชายหนุ่มก็กระพริบตาและยิ้มขึ้นเบาๆ
“เธอไม่ได้ฝัน เธอตื่นแล้วจริงๆ” มู่เฉินหย่วนเดินเข้าไป และยื่นมือไปปิดผ้าม่านที่อยู่บนผนังห้องโดยสาร “และเธอก็ไม่ได้อยู่บ้าน อยู่บนเครื่องบิน”
ถังซินหันหน้าออกไปก็เห็นก้อนเมฆเป็นชั้นๆจึงตะลึงงัน
“ห้องผู้โดยสารเฟิร์สคลาสสามารถเปลี่ยนรูปแบบได้ด้วยเหรอ?” เธอหันไปมองชายหนุ่มอีกครั้ง ถึงตอนนี้เธอก็ยังคงมึนงง “สองพันหยวนสามารถเพลิดเพลินไปกับสวัสดีการแบบนี้ก็………ดีมากเลย”
มู่เฉินหย่วนยิ้มเล็กน้อย “คุณถัง คุณคิดเยอะไปแล้ว เครื่องบินที่พวกเราโดยสารไปเกิดขัดข้องเล็กน้อย ในขณะที่คุณหลับก็ได้บินกลับมาที่เมืองหนานเฉิง”
“เปลี่ยนเครื่องบินเหรอ?” ถังซินพูดอย่างอึกอักเล็กน้อย “คุณ คุณอุ้มฉันเปลี่ยนเครื่องบินเหรอ?”
“เที่ยวบินที่ไปแม่น้ำหลีเจียงจะมีอีกทีตอนห้าโมงเย็น” มู่เฉินหย่วนเอ่ยขึ้น “ตอนนี้เธออยู่บนเครื่องบินส่วนตัวของฉัน”
ถังซินชะงักงงก่อนจากนั้นก็รู้สึกปวดร้าวเป็นทุกข์
คนมีอำนาจบารมีก็คือคนมีอำนาจบารมี ไม่มีเที่ยวบินก็นั่งเครื่องบินส่วนตัวบินไป
เธอรู้สึกปวดร้าวเป็นทุกข์!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักเต็มใจ ประธานจงรักของฉัน
สนุกมากๆ เลยค่ะ ขอบคุณมากๆ นะคะ ที่มีนิยายสนุกๆ ได้อ่าน...
สนุกมากๆๆๆ...