รักเต็มใจ ประธานจงรักของฉัน นิยาย บท 456

บทที่456เขาไม่ถนัดทางด้านนี้จริงๆ

“ป้าจะให้อันนี้กับฉันทำไม”ถังซินบ่นพึมพำ

ผ่านไปหลายวินาทีเธอก็นึกขึ้นได้ทันทีว่าเมื่อคืนมีแค่เธอกับมู่เฉินหย่วนที่ออกไปถนนคนเดินเรื่องที่ซื้อต่างหูก็ไม่ได้บอกใครมีแค่พวกเขารู้กันอยู่สองคน

งั้นต่างหูนี้........

ตอนเช้าตอนที่ทานอาหารเช้าในห้องอาหารบาดแผลบนมือผู้ชายก็แวบเข้ามาในหัวของถังซินเธอมองต่างหูดอกเดซี่ที่กลีบดูคดเคี้ยวคู่นี้อีกทีใจรู้สึกเต้นแรง

แท้จริงแล้วเมื่อคืนเขาไม่ได้ไปซื้อรองเท้าแตะกลับมาก็ดึกคือไปทำของพิเศษนี้อยู่เหรอ

ถังซินยืนหน้ากระจกเปิดผมออกแล้วสวมต่างหูคู่นี้เข้าไป

สัมผัสกลีบดอกสีขาวที่คดเคี้ยวเธอเผยรอยยิ้มออกมาเล็กน้อยความเศร้าที่อยู่ในใจก็จางหายไป

เธอพลาดต่างหูคู่นั้นไปแต่กลับได้อันที่ทำขึ้นมาด้วยมือคู่หนึ่งแทนเป็นต่างหูที่สวยกว่ามาก

ถังซินเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดสบายๆกลัวว่าตอนนั่งรถจะถูกคนอื่นเห็นท้องของเธอและเพิ่มผ้ามาคลุมไหล่และไปรวมกลุ่มกับทุกคนตรงด้านนอกโฮมสเตย์ด้วยความอารมณ์ดี

“ประธานถัง”ผู้กำกับเหวินเห็นถังซินมาก็ส่งสัญญาที่อยู่ในมือให้เธอ“คนของบริษัทเหอซ่งส่งสัญญาเก็บความลับมาให้ครับพวกเราทุกคนเซ็นชื่อกันหมดแล้วครับ”

เรื่องเพิ่งผ่านไปเมื่อวานนี้เองทัศนคติของผู้กำกับเหวินที่มีต่อถังซินก็เปลี่ยนไปเยอะมาก

ถังซินเปิดสัญญาดูจากนั้นก็เก็บใส่กระเป๋า“โอเคค่ะทุกคนมากันครบแล้วใช่ไหมฉันนั่งคันไหน”

ผู้กำกับเหวินตอบ“ประธานถังคุณนั่งคันเดียวกับคนเขียนบทอ้อแล้วก็ประธานมู่บอกว่าจะเป็นคนขับรถเองครับ”

มู่เฉินหย่วนขับรถเองงั้นเหรอ

ถังซินพึมพำว่าไม่มีใครขับรถเป็นเลยเหรอทำไมให้มู่เฉินหย่วนมาขับ

ส่ายสายตามองหาเห็นมู่เฉินหย่วนเปิดประตูรถตู้เข้าไปนั่งที่นั่งคนขับแล้วเรียบร้อยงอตัวเข้าไป

“……”

ถังซินก็พูดอะไรมากไม่ได้เลยรีบเดินไปขึ้นรถ

บนรถตู้คันนี้นอกจากมู่เฉินหย่วนที่ขับรถก็มีคนเขียนบทสไตล์ลิสล้วนแล้วแต่เป็นผู้หญิงทั้งนั้นตอนแรกก็มีความหวาดระแวงอยู่บ้างเล็กน้อยไม่กล้าพูดต่อหน้ามู่เฉินหย่วน

ต่อมามองผู้ชายที่ขับรถโดยเงียบตลอดทางผู้หญิงสองสามคนก็เริ่มค่อยๆพูดคุยกัน

คนเขียนบทพบเห็นว่าต่างหูที่ถังซินใส่อยู่ดูพิเศษมากหลายสายตามองมา“ประธานถังนี่เป็นต่างหูทำมือที่คุณซื้อใหม่เหรอคะสวยงามมากๆเลยค่ะ”

ถังซินยิ้ม“ไม่ใช่หรอกเพื่อนให้น่ะ”

“น่าจะเป็นของที่เพื่อนคนนั้นของคุณทำขึ้นมาเอง”สไตล์ลิสก็มองต่างหูคู่นั้นพูดเหน็บว่า“ดอกเดซี่มันเบี้ยวแล้วดูๆไปเพื่อนของประธานถังคงจะเพิ่งเริ่มทำได้ไม่นาน”

“จริงๆแล้วเขาไม่ถนัดด้านนี้หรอก”ถังซินตอบแต่น้ำเสียงกลีบมีความสุข“แต่ฉันชอบมากนะ”

“อิจฉาประธานถังมากเลยนะมีเพื่อนสนิทให้เครื่องประดับฉันไม่มีเพื่อนแบบนี้เลย”นักเขียนบทอิจฉามากเห็นถังซินอารมณ์ดีต่างก็มีสายตามองมาและเสียงซุบซิบนินทาขึ้น

“ประธานถังคะเขาที่คุณเอ่ยถึงเป็นเพื่อนผู้ชายหรือเพื่อนผู้หญิงคะ”สไตล์ลิสก็ถามกลับมา“ฉันก็อยากรู้เหมือนกันค่ะฉันคิดว่าเป็นฝีมือผู้หญิงครั้งแรกทำของออกมาก็ไม่ได้ดูแย่อะไรมีนิดหน่อยที่เหมือน....ของผู้ชายทำ”

รอยยิ้มของถังซินชะงักไปเล็กน้อยคิดไม่ถึงว่าพวกเขาจะถามเยอะขนาดนี้

เธอเผลอไปมองผู้ชายที่กำลังขับรถเปลี่ยนเรื่องคุย“บทคุณแก้แล้วหรือยังให้ฉันดูหน่อย”

นักเขียนบทเห็นสถานการณ์คงไม่ดีถ้าจะถามซอกแซกอีกยุ่งอยู่กับเอาบทให้ถังซิน

มู่เฉินหย่วนมองถังซินผ่านกระจกมองหลัง

ผู้หญิงก้มหน้าคุยเรื่องบทกับนักเขียนบทด้านหลังหูดอกเดซี่เล็กๆดูเบี้ยวเล็กน้อย

ทันใดนั้นเขาก็รู้สึกเหนื่อยหน่ายและอับอายนึกขึ้นได้ว่าเมื่อคืนหาวัสดุมาทำของพิเศษนี้

ถังซินเห็นก็รู้สึกตะลึงงัน

สไตล์ลิสตะโกนเรียกถังซินสองครั้งเห็นเธอยังมองกระจกอย่างตะลึงงันก็ตบไหล่เรียกเธอพูดเอ่ยว่า“ประธานถังคะฉันก็รู้ค่ะว่าประธานมู่พอใส่ชุดโบราณแล้วหล่อมากแต่คุณก็ไม่ต้องมองตะลึงงันขนาดนั้นก็ได้นะคะสักพักพวกคุณก็ได้เล่นด้วยกันแล้วค่ะ”

ถังซินหน้าแดงด้วยความอายรีบลุกขึ้นจากเก้าอี้“ฉันฉันไปเปลี่ยนชุดแล้ว”

“ชุดแขวนอยู่บนราวนะคะประธานถังคุณหยิบมาใส่ได้เลยค่ะ”

เห็นผู้หญิงเดินไปที่ราวหยิบชุดที่แขวนไว้อย่างประหม่าดูสับสนมู่เฉินหย่วนตั้งใจจะไปช่วยเธอ

หลังจากถังซินยืนอยู่เขาก็โล่งอกตามรอยยิ้มปรากฏในดวงตาของเขาหลังจากกลับประเทศมาก็ไม่รู้จะทำอย่างไรกับผู้หญิงคนนี้ยิ่งคิดยิ่งสับสน

ตอนถังซินเปลี่ยนชุดในห้องแต่งตัวกังวลว่าชุดใส่แล้วจะปิดท้องที่นูนออกมาไม่มิดหลังจากใส่ช่วงบนไปก็พบว่าชุดใส่ได้พอดีกระโปรงระบายก็ปิดท้องได้ดี

หลังจากเธอออกไปเห็นสไตล์ลิสแต่งตัวให้มู่เฉินหย่วนเสร็จพอดี

ผู้ชายไม่ต้องออกกล้องดังนั้นหน้าไม่ต้องแต่งใส่แค่มงกุฎก็พอแล้วหยกที่อยู่บนมงกุฎสีช่างเข้ากับชุดที่ใส่พอดีทำให้ดูพลิ้วและสง่างามกลมกลืนกับต้นไม้

สไตล์ลิสเอ่ยชมว่า“ประธานมู่พอใส่ชุดสมัยก่อนแล้วดูสง่างามจริงๆหล่อมากเลยค่ะ”

นึกถึงสิ่งน่าเกลียดที่เพิ่งแสดงต่อหน้านักเขียนบทออกไปถังซินก็ไม่กล้าชื่นชมผู้ชายอีกออกไปด้วยความเร่งรีบ

ผู้กำกับเหวินก็จัดฉากทางนี้แล้วเรียบร้อยเปิดกล้อง

หลังจากถังซินกับมู่เฉินหย่วนเดินมาผู้กำกับเหวินก็หยิบบทมาจากนักเขียนบท“นักแสดงชายและหญิงไม่มีบทพูดอะไรสิ่งที่สำคัญคือการแสดงอารมณ์ทางแววตาสายตาจะต้องสื่อถึงกันเข้าใจไหมครับ”

เขาพูดไปด้วยชี้แนะถังซินไปด้วย“โลกหนึ่งคุณเพิ่งพบเจอนักแสดงชายเป็นครั้งแรกทั้งสองคนยังไม่รู้จักกันตอนคุณมองที่ผู้ชายสายตาดูแปลกใจดูอยากค้นหาและมีความเขินอายของหญิงสาว”

ถังซินฟังแล้วงงเล็กน้อย“ในเมื่อฉันกับเขาไม่รู้จักกันทำไมต้องแสดงความเขินอายของสาวน้อยออกมาด้วย”

ผู้กำกับเหวินอธิบายอย่างอดทนว่า“เพราะว่าความสัมพันธ์ของคุณกับนักแสดงชายเป็นเรื่องที่ทั้งสองตระกูลเป็นคนตัดสินคุณได้ยินจากคนอื่นว่าแย่ไม่มีอะไรดีดังนั้นในใจลึกๆไม่อยากแต่งงานกับเขาแต่ก็หลีกเลี่ยงเรื่องนี้ไม่ได้”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักเต็มใจ ประธานจงรักของฉัน