บทที่ 60 เครื่องดักฟังบนเสื้อ
"หัวใจวายเฉียบพลันเนื่องจากกล้ามเนื้อหัวใจทำงานหนักเกินไป" สีหน้าของมู่เฉินหย่วนเรียบนิ่ง "บริษัทจะชดเชยให้หัวหน้าหลิวเพื่อเป็นการปลอบใจ เราจะส่งเสียลูกสาวของเขาจนจบวิทยาลัย"
ถังซินคิดว่าเรื่องช่องโหว่ของไม่ใช่เรื่องที่จะเกิดขึ้นได้ง่ายๆ แต่เธอไม่มีหลักฐานอะไร เธอจึงไม่รู้ว่าจะบอกกับมู่เฉินหย่วนยังไง
มู่เฉินหย่วนพูดเบาๆ "รักษาการตำแหน่งหัวหน้าของแผนกคุณคือเจียงจิ้งเหรอ?"
ถังซินตอบรับด้วยเสียงอืมหนึ่งที
"ไม่เห็นมีใครแจ้งให้ผมทราบ ปล่อยให้เธอจัดการเอาเองแบบนี้" มู่เฉินหย่วนแค่นหัวเราะ สีหน้าของเขามืดมนมากขึ้น “ก่อนหน้านี้มีผู้บริหารคนหนึ่งกำลังจะเสียชีวิต แต่ผู้คนในชั้นนั้นกลับไม่มีใครช่วยเอาไว้ได้"
"เจียงจิ้งมีความสามารถจริงๆ และเขาเป็นพนักงานที่อาวุโสที่สุดในแผนกแปล" ถังซินพูดตามจริง ถึงแม้ว่าเจียงจิ้งจะไม่สามารถจัดการกับชีวิตส่วนตัวได้แต่ความสามารถของเธอก็ไม่อาจที่จะปฏิเสธได้
มู่เฉินหย่วนตัดบทอย่างไร้เยื่อใยว่า "หัวหน้าของคุณเคยบอกคุณไหมว่า เธอเป็นคนของรองประธานกาว รองประธานกาวได้วางคนของเขาเอาไว้ในหลายแผนก ผมไม่สามารถให้เจียงจิ้งเป็นหัวหน้าแผนกนี้ได้"
ถังซินนิ่งฟังไม่เปิดปากพูดอะไรออกมา
บางครั้ง การต่อสู้ภายในระหว่างผู้บริหารระดับสูงก็รุนแรงยิ่งนัก รองประธานแต่ละคนล้วนผลักดันคนของตนให้มีอำนาจ เห็นได้ชัดว่าบริษัทมู่ซื่อถูกแบ่งออกเป็นสามฝ่าย
ไม่มีทางที่มู่เฉินหย่วน ผู้บุกเบิกตลาดต่างประเทศ จะยอมให้พวกเขามีอำนาจเหนือกว่า
"หลังจากที่ความร่วมมือนี้เสร็จสิ้น ผมจะกลับประเทศ ส่วนทางนี้จะให้สาขานิวยอร์กเป็นผู้รับผิดชอบ" มู่เฉินหย่วนกล่าว "กินก่อนสิ ก่อนหน้านี้หัวหน้าหลิวเคยคุยเรื่องคุณให้ผมฟังอยู่หลายครั้ง"
ไม่เพียงแค่หัวหน้าหลิวพูดให้ฟัง แต่อันที่จริงในวันที่ถังซินไปช่วยเขาที่โรงแรมคราวก่อน มู่เฉินหย่วนก็สังเกตุเห็นว่า ถังซินมีความโดดเด่นทำงานได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพทั้งยังน่าเชื่อถือ นับว่าเป็นผู้มีพรสวรรค์
"ประธานมู่ ฉันไม่สนใจตำแหน่งนั้น" ถังซินคิดในใจว่าถ้าเธอมีความทะเยอทะยานเธอคงจะสู้ไม่ถอยไปแล้ว แต่ตอนนี้เธอเพียงแค่รู้สึกสับสนเกี่ยวกับการเสียชีวิตของหัวหน้าหลิวเท่านั้น
บางครั้งแผนกแปลก็มีงานจำนวนมาก บางทีอาจจะได้รับอีเมลในตอนเช้าและต้องจัดการกับมันทันที แต่การทำงานจนดึกดื่นจนทำให้หัวใจวาย เธอรู้สึกว่ามีบางอย่างไม่ถูกต้อง
“หัวหน้าของคุณคาดหวังในตัวของคุณเอาไว้สูงมาก คุณควรคิดเรื่องนี้ให้ดี” มู่เฉินหย่วนไม่ได้บังคับเธออีกต่อไป "เราต้องอยู่ที่ตุรกีสักพัก กลับไปแล้วค่อยคุยเรื่องนี้กันอีกครั้ง"
"ขอบคุณค่ะประธานมู่"
ตุรกีเป็นทางเชื่อมต่อระหว่างยุโรปและเอเชียจึงมีเศรษฐกิจที่เติบโตเร็วที่สุดในโลก เป็นประเทศที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว แต่ที่ไม่ได้ถูกบรรยายไว้คือ เป็นประเทศที่สวยงามมาก
การก่อการร้ายของที่นี่รุนแรงมาก เว้นแต่เมืองใหญ่ๆอย่างอิซตัลบูลและอิซเมียร์แล้ว เมืองอื่นๆดูป่าเถื่อนมากเสียจนไม่มีนักท่องเที่ยวกล้าเดินทางไป
พวกเขาเลือกพักที่ Macedonia Card Palace Park Hyatt ในอิสตันบูล
โรงแรมนี้มีแขกเข้าพักเพียงไม่กี่คน พนักงานต้อนรับช่วยจัดการเรื่องเช็คอินให้มู่เฉินหย่วนอย่างรวดเร็ว ก่อนที่พนักงานจะถามมู่เฉินหย่วนเป็นภาษาอังกฤษว่าเขาต้องการไกด์เพื่อนำทางหรือไม่ แต่มู่เฉินหย่วนตอบปฏิเสธไป
"ฉันรู้สึกคุ้นเคยกับโรงแรมนี้ เหมือนเคยเห็นที่ไหนมาก่อน?" ถังซินขมวดคิ้วครุ่นคิดระหว่างที่เธอขึ้นลิฟต์ไปชั้นบน
มู่เฉินหย่วนมองที่เธอ "คุณเคยไปอิสตันบูลรึเปล่า?"
"ไม่เคย แต่ฉันรู้สึกคุ้นเคยกับโรงแรมนี้" ทันใดนั้นถังซินก็เงยหน้าขึ้นอย่างอึ้งๆ
"จำได้แล้ว หนังเรื่อง 007 แดเนียล เคร็ก เคยพักและถ่ายทำที่นี่!"
"ไม่ยักรู้ว่าคุณชอบหนังแอ็คชั่น" มู่เฉินหยวนหัวเราะเบา ๆ
"คุณคล้ายกับซือซือเลย เธอดูแอ๊บแบ๊วแต่กลับชอบดูหนังระทึกขวัญ"
เมื่อเห็นเขาพูดถึงจู่ซือซือ ถังซินก็ยื่นริมฝีปากล่างของเธอแล้วถามว่า
"ประธานมู่ ฉันคิดว่าคุณชื่นชอบคุณจู่มากเลย พวกคุณคบกันอยู่เหรอคะ?"
"คุณดูยังไงว่าพวกเรากำลังคบกัน?"
"ดูจากท่าทีของคุณจู่" เมื่อถังซินนึกถึงความเกลียดชังของจู่ซือซือที่มีต่อตัวเธอ เธอก็ชะงัก "เธอไม่ฟังคำอธิบายใด ๆ และชอบทำเหมือนฉันเป็นศัตรู"
มู่เฉินหย่วนยกริมฝีปากเรียวเล็กขึ้นยิ้มแล้วพูดว่า "เธอขี้หวงกับใครก็ตามที่เธอชอบ นิสัยเสียไปหน่อย แต่เราไม่ได้คบกัน ฉันแค่ดูแลเธอเหมือนองค์หญิงน้อย"
ระหว่างทางไปสนามบินในตอนเช้า เธอส่งข้อความถึงเจียงจิ้งหลายครั้ง โดยบอกว่ามีเรื่องเร่งด่วนที่จะขอลางาน ในเมื่อเจียงจิ้งสามารถเข้าร่วมตอบแชทกลุ่มได้ มันก็เป็นไปไม่ได้ที่จะไม่เห็น ข้อความวีแชทของเธอ เธอยังอยู่ในกลุ่ม เมื่อเธอกลับมา คนๆนั้นก็พ่นใส่เธออีกครั้ง
"ทั้งหมดนี้เป็นความผิดของกวนหลิงเอ๋อร์ ยัยคนงี่เง่านั่น!" ถังซินหยิบแอปเปิ้ลมากัด ถ้าไม่ใช่เพราะกวนหลิงเอ๋อร์โลภมาก เธอคงจะไม่ต้องไปต่างประเทศเพื่อช่วยมู่เฉินหย่วนเจรจาธุรกิจ
ถังซินออกจากวีแชทและโทรหากวนชิงเฟิง
ในขณะนี้กวนชิงเฟิงและเธออยู่ห่างกันแค่สามชั้น พวกเขาอยู่คนละห้องในฝั่งเดียวกัน กวนชิงเฟิงนอนอยู่บนระเบียง หากเธอมองลองมาก็จะเจอเขา
กวนชิงเฟิงหยิบนิตยสารที่ปิดหน้าของเขาออกและหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา
ทันทีที่เห็นว่าเป็นถังซินโทรมา ตัวเขาก็สั่นไปหมด ลุกขึ้นจากเก้าอี้อย่างรวดเร็ว เขากระแอมเล็กน้อยก่อนจะกดรับสาย
"มีอะไรเหรอพี่?"
"ฉันเป็นพี่สาวของนายนะ จะโทรมาถามสารทุกข์สุกดิบบ้างไม่ได้หรือไง?" ถังซินกระฟัดกระเฟียด "ฉันมาต่างประเทศ ฉันเลยจะถามว่านายอยากได้อะไรรึเปล่า"
บังเอิญว่าเขาก็เดินทางมาต่างประเทศด้วยนี่สิ
"ไม่เป็นไร พี่ดูแลตัวเองด้วยละกัน" กวนชิงเฟิงโกหกอย่างเป็นธรรมชาติว่า "ที่โรงเรียนผมมีครบทุกอย่างแล้ว แค่การบ้านเยอะไปหน่อยเท่านั้น"
"ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวฉันซื้อของไปฝากละกันนะ" ถังซินพึมพำ "ถ้ามาแล้วไม่ซื้ออะไรก็น่าเสียดาย ถ้านายไม่มีเงินใช้นายก็บอกฉันนะ เข้าใจรึเปล่า? อย่าเพิ่งเบื่อแล้วแอบปีนกำแพงหนีออกมาล่ะ"
กวนชิงเฟิงกัดเล็บพลางถอนหายใจ "ผมไม่ได้ปีนกำแพงไปไหนเลยจริงๆนะ"
มีแค่เด็กเล็กๆเท่านั้นแหละที่ทำแบบนั้น
ขณะที่กวนชิงเฟิงกำลังคุยโทรศัพท์ก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้น ดูเหมือนว่ามีใครบางคนกำลังเรียกเขา "พี่ ผมจะไปเรียนแล้วนะ ถ้าผมมีเวลา ผมจะโทรหา" หลังจากเขาพูดจบเขาก็วางสาย
"ประธานมู่" เมื่อเขาเปิดประตูห้องออกมา เขาก็เห็นมู่เฉินหย่วนยืนอยู่ข้างนอก กวนชิงเฟิงจึงกล่าวทักทายเขา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักเต็มใจ ประธานจงรักของฉัน
สนุกมากๆ เลยค่ะ ขอบคุณมากๆ นะคะ ที่มีนิยายสนุกๆ ได้อ่าน...
สนุกมากๆๆๆ...