บทที่ 64 แมวชื่อเซวติ้งเอ้อ
ถังซิน: "......"
มู่เฉินหย่วนขมองเธอแล้วพูดต่อ "ผมเชื่อว่าคุณถังซินไม่ใช่คนไม่รักษาคำพูด แต่ถ้าคุณอยากไปจริงๆ ผมก็จะไม่ห้าม"
"เพื่อแทนคำขอโทษ เงินจำนวนนี้คุณถังรับไว้ได้เลย" ชายคนหยิบเงินปึกหนึ่งวางไว้บนโต๊ะข้างเตียงและพูดเสียงเบาว่า "ไม่มาก แค่ 8800 แต่ก็เพียงพอสำหรับคุณถังที่จะซื้อตั๋วกลับ"
ถังซินจ้องมองไปที่เงินจำนวนนั้นอยู่สักพัก หลังจากไม่กี่สิบวินาทีร่างกายของเธอมีปฏิกิริยาตอบสนอง ใบหน้าของเธอร้อนผ่าว ตัวของเธอสั่นจนแทบไม่สามารถถือแก้วน้ำเอาไว้ได้อย่างมั่นคง
จริงๆเลย เกินไปแล้วจริงๆ!!
หลังจากคืนบ้าๆนั่นที่เธอทิ้งเงินจำนวน 888 ให้กับเขา ตอนนี้เขากลับมอบเงินสิบเท่าคืนให้กับเธอ จงใจตอกย้ำให้เธอคิดถึงเรื่องในคืนนั้น เลวที่สุด
"คุณถัง น้ำในแก้วของคุณหมดแล้ว" เมื่อเห็นถังซินถือแก้วน้ำขึ้นจ่อริมฝีปากด้วยใบหน้าที่ก้าวร้าว มู่เฉินหย่วนก็มีรอยยิ้มปรากฎอยู่ในดวงตาของเขา ก่อนจะหยิบเอาแก้วน้ำของเธอมาเติมน้ำ
ถังซินกัดริมฝีปากของเธอด้วยความอับอาย
เธอไม่ควรเลยจริงๆ ไม่ควรจะกระโจนเข้ามาในอ้อมแขนของลุงมู่ ด้วยเหตุนี้จึงถูกผ้าห่มคลุมไว้!
เมื่อยื่นแก้วน้ำให้กับถังซิน มู่เฉินหย่วนถามด้วยความ "เป็นห่วง" ว่า "คุณถัง สีหน้าคุณดูไม่ดีเลย คุณเจ็บเหรอ? อยากให้ผมเรียกหมอมาตรวจไหม?"
“......”
ถังซินสูดลมหายใจลึกๆ ระงับความหดหู่ในหัวใจ หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาเคาะคำพูดและจากนั้นยื่นให้เขา "ฉันสบายดี ขอบคุณประธานมู่ที่เป็นห่วง ฉันจะช่วยประธานมู่เกี่ยวกับการเจรจาความร่วมมือก่อนที่จะกลับบ้าน"
"น่าเสียดาย ผมกะว่าจะให้ผู้ช่วยจางไปกับคุณถังด้วย" มู่เฉินหย่วนกระตุกริมฝีปาก "แต่คุณถังมีน้ำใจ เช่นนั้นก็ต้องทำให้คุณถังลำบากแล้ว"
"..." แก้มของถังซินกระตุก หัวใจของเธอบีบรัด
เมื่อก่อนเธอเห็นว่ามู่เฉินหย่วนคอยตามใจจู่ซือซือ เธอเคยคิดว่าลุงมู่ช่างเป็นคนดีจริงๆ เธอยังเคยมองจู่ซือซือด้วยความอิจฉา แต่ตอนนี้เห็นได้ชัดว่าเขาเป็นหมาป่าที่ห่มหนังมนุษย์!
มู่เฉินหย่วนดูเหมือนจะงานยุ่ง เมื่อถังซินตื่นขึ้นมาเขาก็โทรเรียกผู้ช่วยจางให้มาดูแล ส่วนตัวเขาเองไปนั่งทำงานอยู่หน้าคอมพิวเตอร์อย่างใช้สมาธิ
ถังซินไม่ได้รู้สึกหงุดหงิดอะไร
หลังสิบโมง ผู้ช่วยจางก็หอบหิ้วอาหารมาให้ ทั้งยังพาหมอมาด้วย
ถังซินให้ความร่วมมือกับหมอในการตรวจเป็นอย่างดี จากที่ฟังหมอและผู้ช่วยจางคุยกัน เธอก็รู้ว่าเธออยู่ในอาการโคม่าจนหมดสติไปตลอดหนึ่งคืนกับหนึ่งวัน ก่อนที่จะตื่นมาพบว่ามู่เฉินหย่วนอยู่ข้างๆเธอในเช้าวันนี้ เนื่องจากลำคอและเส้นเสียงบาดเจ็บสาหัสทำให้เธอไม่สามารถพูดได้ในช่วงระยะเวลาสั้นๆ จำเป็นต้องทานยาเพื่อรักษา
ถังซินเหลือบมองไปที่ชายคนนั้นที่นั่งอยู่ที่โต๊ะทำงานยังคงสวมกางเกงขายาวผ้าฝ้ายดูเหนื่อยล้า แต่จ้องที่คอมพิวเตอร์เพื่อจัดการกับสิ่งต่าง ๆ อย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย
เธอถามว่า ตอนที่เธอตื่นขึ้นมาทำไมเธอถึงเห็นมู่เฉินหย่วนนอนอยู่บนเก้าอี้ใกล้ ๆ ปรากฎว่าเขาปกป้องเธอที่อยู่บนเตียงทั้งกลางวันและกลางคืน
หลังจากหมอออกไป ถังซินก็แตะโทรศัพท์แล้วพิมพ์อะไรบางอย่างยื่นให้ผู้ช่วยจางดูอย่างเงียบ ๆ "ผู้ช่วยจาง คนที่บุกเข้าไปในห้องของฉันคืนนั้น มันเกี่ยวข้องกับเรื่องความร่วมมือนั้นหรือไม่?"
ผู้ช่วยจางพยักหน้า ตอนนี้พวกเขามาถึงตุรกีแล้ว เขารู้สึกว่าไม่จำเป็นต้องปิดบังถังซินอีกแล้ว จึงกระซิบกับเธอว่า "คุณจำได้ไหมว่าที่โรงแรมก่วงเหม่ยคุณพบกับซ่งเวยใช่ไหม?"
ถังซินรู้สึกประหลาดใจ
เธอพิมพ์ลงไปในโทรศัพท์อีกบรรทัดว่า "คุณเห็นพวกเราเหรอ?"
"ผมเพิ่งส่งลูกค้าออกจากห้องอาหารพอดี" ผู้ช่วยจางถามว่า "คุณถัง ตอนที่คุณแต่งงานกับคุณชายหยางซิว คุณสองคนสามีภรรยาไม่รู้จักกับมู่ซาง แล้วซ่งเวยมาหาคุณทำไม?"
ด้วยกลัวว่าถังซินจะเบื่อ ผู้ช่วยจางจึงไม่ไปไหน เขาหยิบเอกสารให้กับมู่เฉินหย่วนเป็นบางครั้ง และใช้เวลาที่เหลืออยู่กับถังซินที่นี่
ผู้ช่วยจางบอกถังซินว่าแมวที่เขาเลี้ยงไว้ตั้งท้องอยู่และจะให้กำเนิดลูกแมวได้ภายในสองเดือน เขาถามถังซินว่าเธออยากจะได้ไว้เลี้ยงสักตัวหรือไม่ ถังซินตอบตกลง
เธอไม่ได้เกลียดสัตว์เลี้ยงที่มีขนยาว เมื่อก่อนตอนที่เธอแต่งงาน เธอมัวแต่ยุ่งๆ เธอจึงไม่เลี้ยงสัตว์ แต่ตอนนี้เธอหย่าแล้ว และในอพาร์ตเมนต์ของเธอก็มีแต่หลี่ซูเจ๋ที่อยู่กับเธอ ถ้าเลี้ยงแมวคงทำให้ชีวิตมีสีสันขึ้น
เมื่อเธอรู้ว่าแมวของผู้ช่วยจางชื่อเอลิซาเบธ ถังซินหัวเราะจนตัวงอ พิมพ์บนโทรศัพท์มือถือของเธอว่า "คุณเอาชื่อคนดังมาตั้งเป็นชื่อแมวจริงๆเหรอเนี่ย แล้วแมวที่ฉันจะเลี้ยงในอนาคตจะตั้งชื่อว่าอะไรดีคะ?
"ถ้าเป็นตัวผู้ก็ให้ชื่อว่าเซวติ้งเอ้อสิ" ผู้ช่วยจางคิดอยู่พักหนึ่งแล้วพูดว่า "ช่างไพเราะดีจริงๆ น่าเสียดายที่แมวในบ้านผมเป็นตัวเมีย ชื่อเซวติ้งเอ้อเลยไม่เหมาะ"
ถังซิน “ถ้าท่านชโรดิงเงอร์ได้ยินคงอยากจะลุกขึ้นมาจากโลง”
"มันเป็นแค่ชื่อเท่านั้น ถ้าเขาชอบมัน เขาก็สามารถเอาชื่อผมไปตั้งชื่อแมวของเขาได้เหมือนกัน"
ทั้งสองคุยกันอย่างออกรส หลังจากที่มู่เฉินหย่วนที่กำลังนั่งทำงานอยู่ได้ยินก็หันมามองพวกเขา เห็นว่าพวกเขาหัวเราะจนเห็นฟันครบทุกซี่ก็ขมวดคิ้ว
เห็นแล้วหงุดหงิดมาก
"ผู้ช่วยจาง" มู่เฉินหย่วนเรียกด้วยเสียงดัง "คุณถังเพิ่งตื่นและต้องการพักผ่อน ถ้าคุณว่างมาก ได้โปรดช่วยผมจัดการกับจดหมายในกองเอกสารนี้ด้วย"
"ได้ครับประธานมู่" เมื่อท่านประธานของเขาออกปาก ผู้ช่วยจางก็ไม่กล้าพูดคุยกับถังซินอีก เขาดึงแล็ปท็อปออกมาจากลิ้นชักทันทีและกลับเข้าสู่โหมดทำงานอย่างจริงจังในชั่ววินาที
ถังซินเริ่มเบื่ออีกครั้ง เธอหันมองมู่เฉินหย่วนแวบหนึ่ง ก่อนจะกัดแอปเปิ้ลคำโต พร้อมทั้งนึกนินทาอยู่ในใจ ปฎิบัติกับฉันอย่างเป็นธรรมหน่อยได้ไหม ให้ลูกน้องคุณคุยกับฉันบ้างไม่ได้หรือไง?
ปกติแล้วมีแต่เจ้าหน้าที่ของรัฐเท่านั้นที่จะสามารถจุดไฟได้ คนอื่นไม่ได้รับอนุญาตให้จุดไฟ!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักเต็มใจ ประธานจงรักของฉัน
สนุกมากๆ เลยค่ะ ขอบคุณมากๆ นะคะ ที่มีนิยายสนุกๆ ได้อ่าน...
สนุกมากๆๆๆ...