ทามทอยไม่ได้รู้สึกโกรธ แต่กลับหัวเราะ ดื่มเบียร์พร้อมกับเดินไปทางโซฟาเพื่อเปิดทีวี
ไม่นานนัก ทุกคนพร้อมใจกันลงมาจากชั้นบน นอกจากมายมิ้นท์
เมื่อส้มเปรี้ยวเห็นพวกเขาทุกคนต่างทักทายซึ่งกันและกัน เว้นแต่เธอกับเปปเปอร์ ในใจรู้สึกอึดอัดขึ้นมาทันที
คิดว่าเธอจะดูไม่ออกหรือไง พวกเขาตั้งใจทำให้เธอกับเปปเปอร์รู้สึกแปลกแยก
“คุณลาเต้ คุณมายมิ้นท์ยังไม่ตื่นเหรอคะ? ” ชาหวานพลันถามขึ้น
เมื่อเปปเปอร์ได้ยินดังนั้น สีหน้าเปลี่ยนไปชั่วขณะ แต่ไม่นานก็กลับสู่สภาวะปกติ
“ยังเลย เมื่อคืนที่รักเหน็ดเหนื่อยจากการทำอาหาร ให้เธอนอนอีกสักพักเถอะ” ลาเต้ตอบไปพร้อมกับเปิดเบียร์หนึ่งขวด
ชาหวานพยักหน้ารับและไม่ได้ถามต่อ
ไม่นานนัก พ่อครัวก็เดินเข้ามา เพื่อแจ้งทุกคนว่าอาหารเช้าเสร็จแล้ว
ทุกคนต่างย้ายจากห้องโถงมาที่ห้องอาหาร
มายมิ้นท์ยังไม่ได้ลงมา
ลาเต้มองไปที่นาฬิกาข้อมือ และลุกจากเก้าอี้ “พวกคุณกินกันก่อนเลย ผมจะขึ้นไปปลุกที่รักก่อน”
“ไปเถอะๆ” ทามทอยโบกมือเพื่อให้เขารีบไป
ปีโป้เห็นดังนี้แล้ว จึงพูดอย่างไม่พอใจ “เขาถือสิทธิ์อะไรไปปลุก”
ทามทอยได้ยินดังนั้นแล้วอดไม่ได้ที่จะหัวเราะ “เขาเป็นแฟนกับมายมิ้นท์ไงล่ะ นายว่าเขาถือสิทธิ์อะไรล่ะ”
“ฮึ เขามีตรงไหนที่คู่ควรเป็นแฟนกับพี่มายมิ้นท์บ้าง?” ปีโป้พูดด้วยหน้าตาไม่รับแขก
ทามทอยกระตุกมุมปาก “ถ้าเขาไม่คู่ควรแล้วนายคู่ควรเหรอ? ไม่ดูตัวเองเลยว่าอายุเท่าไหร่เอง ปากยังไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม ก็คิดเรื่องผู้หญิงแล้ว”
ปีโป้หน้าแดง และลุกขึ้นโต้ตอบเสียงดังด้วยความโกรธ “ใครคิดเรื่องผู้หญิง?”
“ถ้านายไม่คิดเรื่องผู้หญิง แล้วมายมิ้นท์จะเป็นแฟนกับใครยุ่งอะไรกับนายด้วย” ทามทอยใช้มือเท้าคาง และมองเขาด้วยใบหน้าซ่อนยิ้ม
“ผม... ผมแค่คิดว่าพวกเขาไม่เหมาะสมกันเท่านั้นเอง” ปีโป้ตอบด้วยอาการหลบสายตา
เปปเปอร์นั่งลูบแก้วกาแฟอยู่โต๊ะข้างๆ หลุบตาลง
เขาก็คิดเช่นนี้เหมือนกัน
ก่อนที่ลาเต้จะคบกับมายมิ้นท์ เขาก็คิดว่าพวกเขาไม่เหมาะสมกันเลย
อาการที่แสดงออกของชายหนุ่มในสายตาของส้มเปรี้ยว ทำให้พอเดาได้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่ เธอกัดฟันรู้สึกริษยาขึ้นมาทันที แต่ยังพูดด้วยหน้าตายิ้มแย้มว่า “น้องปีโป้ เรื่องนี้นายทำไม่ถูกนะ คุณมายมิ้นท์กับคุณลาเต้โตมาด้วยกัน เข้าใจซึ่งกันและกัน ไม่มีใครเหมาะสมกันเท่าพวกเขาอีกแล้ว”
“แต่ผมได้ยินมาว่า คนที่โตมาด้วยกันส่วนใหญ่จะเข้าใจกันมากเกินไป จึงไม่เหมาะสมที่จะใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน ” ปีโป้ตอกกลับด้วยความรำคาญ
ส้มเปรี้ยวขมวดคิ้ว แต่ก็ยิ้มออกมาอย่างรวดเร็ว “พูดแบบนี้ก็ไม่ผิด แต่ก็ไม่ใช่ว่าถูกเสียทีเดียวนะ”
“อย่างไรก็ตามผมก็คิดว่าพวกเขาไม่เหมาะสมกัน” ปีโป้ใช้ส้อมแทงเข้าที่แซนด์กรวิซ พร้อมบ่นพึมพำ “ก็เหมือนกับที่พี่ที่ไม่เหมาะสมกับพี่ชายของผม”
ส้มเปรี้ยวหน้าชา ไม่คิดว่าจู่ๆ เขาจะเบี่ยงประเด็นมาที่เธอ เธอคิดแค้นในใจ
ทามทอยและชาหวานที่อยู่ข้างๆ หัวเราะออกมาอย่างห้ามไม่อยู่
ช่วยไม่ได้ ท่าทางของส้มเปรี้ยวดูตลกมากนะ
พวกเขาอดไม่ได้จริงๆ
“เปปเปอร์...” ส้มเปรี้ยวรู้สึกอัดอั้นตันใจจึงหันมาทางชายหนุ่มข้างกาย
ชายหนุ่มเกลี่ยๆคิ้วตัวเอง แล้วพูดกับปีโป้ด้วยอารมณ์หงุดหงิด “พอได้แล้ว กินข้าว ไม่ว่ามายมิ้นท์กับลาเต้จะเหมาะสมกันหรือไม่ ก็เป็นเรื่องส่วนตัวของพวกเขา นายไม่ต้องยุ่ง”
ปีโป้เบะปากและเงียบลง
ชั้นสาม ลาเต้ที่เดินมาถึงหน้าห้องของมายมิ้นท์ ยกมือเคาะประตู “ ที่รัก ตื่นหรือยัง?”
มายมิ้นท์ที่อยู่ภายในห้องเริ่มรู้สึกตัว และลืมตาขึ้นมา
เธอมองที่ไปที่ฝ้าขาว ลูบผ้าห่มที่ห่มบนร่างเธอไปมาอย่างรู้สึกสับสน
เธอจำได้ว่าเมื่อคืนนอนหลับอยู่ชั้นล่าง ทำไมตื่นมาอยู่ในห้องได้
สรุปว่าเธอกลับมาในห้องนี้ได้อย่างไรกัน?
“ที่รัก ในที่สุดคุณก็ลงมาจนได้” เมื่อลาเต้เห็นมายมิ้นท์เดินมา ก็ได้รีบดึงเก้าอี้ข้างๆ ออก
ทามทอย ปีโป้และชาหวานต่างก็พยักหน้าทักทาย
มายมิ้นท์ยิ้มตอบทุกคนอย่างเกรงใจ “ขอโทษด้วยนะคะ ที่ทำให้พวกคุณรอนาน”
“ไม่เป็นไร รีบมานั่งกินข้าวกัน” ลาเต้ตบที่เก้าอี้ข้างตัว
มายมิ้นท์ก็ได้ตอบรับแล้วนั่งลง แล้วหยิบส้อมและมีดขึ้นมาเริ่มทานมื้อเช้า
ระหว่างนี้ เธอเหลือบมองไปทางเปปเปอร์หลายครั้ง เหมือนกำลังจะจับผิดอะไรสักอย่าง
แต่ด้วยสีหน้าท่าทางที่ดูเคร่งขรึมแต่ไหนแต่ไรของเปปเปอร์ ทำให้ไม่พบความผิดปกติใดๆ
หลังทานมื้อเช้า ทามทอยจู่ๆ ลุกขึ้นมาปรบมือ “ทุกคนครับ เดี๋ยวเราไปปีนเขากัน ทุกคนว่าอย่างไร ผมได้ข่าวมาว่าบนเขามีจุดชมวิว ทิวทัศน์บริเวณนั้นสวยงามมาก”
“เปปเปอร์ พวกเราไปด้วยสิ” ส้มเปรี้ยวคล้องเข้าที่แขนของชายหนุ่มข้างๆ พร้อมมองด้วยสายตาคาดหวัง
เปปเปอร์ไม่อยากให้เธอผิดหวัง จึงพยักหน้ารับปาก
“โอเค ตอนนี้มีคนลงชื่อแล้วสองคน ยังมีคนอื่นที่อยากไปด้วยกันอีกไหม?” ทามทอยมองมาที่กลุ่มของมายมิ้นท์
“ที่รัก คุณอยากไปไหม?” ลาเต้เอียงคอเพื่อถามความเห็นของมายมิ้นท์
เปปเปอร์ก็ได้เหลือบมองมาทางมายมิ้นท์ด้วยเช่นกัน
“แล้วคุณอยากไปไหมคะ?” มายมิ้นท์ไม่ได้ตอบแต่ถามกลับ
ลาเต้ยิ้มอย่างอารมณ์ดี “ถ้าคุณไปผมก็ไป แต่ถ้าคุณไม่อยากไปผมก็จะอยู่เป็นเพื่อนคุณที่นี่”
“ถ้าอย่างนั้นเราไปกันเถอะ ไหนๆ เราก็มาถึงที่นี่แล้ว ถ้าไม่ไปก็คงเสียดายแย่” เธอคิดได้สักพักแล้วก็พูดออกมา
ไม่รู้เป็นเพราะอะไร เมื่อได้ยินว่ามายมิ้นท์จะไปด้วย ในใจของเปปเปอร์ก็รู้สึกดีใจอย่างบอกไม่ถูก เพียงแต่ไม่แสดงอาการออกมาให้เห็น
ปีโป้รีบยกมือขึ้น “พี่มายมิ้นท์ไป ผมก็จะไปด้วย”
ชาหวานเกาหัวตัวเอง แล้วพูดด้วยน้ำเสียงขี้เกียจว่า “ถ้าพวกคุณไปกันหมด แล้วเหลือฉันคนเดียวก็ไม่สนุกสิ ฉันก็ไปด้วยแล้วกัน”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักหวานอมเปรี้ยว
โดนสาดกรดก็รีบล้างออกสิ กว่าจะขับรถไปถึงก็กัดกร่อนไปถึงกระดูกแล้ว วางเรื่องมาให้พระนางฉลาดมาก แต่ดันไม่รู้ว่าต้องล้างด่วน...
ก็แค่บอกอีธานว่านังส้มเน่าอาจจะเป็นคนวางแผนฆ่าแฟนเก่า แล้วให้อีธานสะกดติตมันให้สารภาพ ก็จบแล้ว จะง่าวอะไรขนาดนั้น...