ที่จริงในตอนนั้น เธอก็รู้ว่าเขาไม่ได้รักเธอ เนื่องจากหลังที่ถูกแอบถ่ายในครั้งนั้นแล้วก็ไม่ได้พบหน้ากันอีก ที่จริงควรจะพูดว่าเขาไม่ได้เจอเธออีกต่างหาก แต่เธอกลับแอบมามองเขาอยู่หลายครั้ง
เธอคิดว่าหลังจากแต่งงานแล้ว เธอจะสามารถทำให้เขาหวั่นไหวได้ ทำให้เขาหันมารักเธอได้ แต่เธอคิดผิดอย่างมหันต์ ไม่เพียงแต่เธอจะไม่อาจทำให้เขาหวั่นไหวได้ อีกทั้งยังทำให้เขาเกลียดตัวเธอยิ่งเข้าไปอีก นานวันเข้าเธอเองก็รู้สึกรำคาญใจ และในที่สุดเธอก็เข้าใจว่า เขาไม่ชายหนุ่มที่อ่อนโยนซึ่งเธอเคยรักในตอนนั้นอีกต่อไปแล้ว
ส่วนเหตุผลที่ทำไมถึงไม่หย่าร้าง ทำไมถึงต้องอยู่ข้างกายเขา ทนให้ตระกูลนวบดินทร์เหยียบย่ำมาถึงหกปี บางทีมันอาจจะเกิดจากความไม่เต็มใจและความหมกมุ่นของเธอ
เนื่องจากตั้งแต่ชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย เธอก็ตกหลุมรักเปปเปอร์ ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยกว่าจะแต่งงานกับเขาได้ จะให้เธอปล่อยมือง่ายๆ ได้อย่างไร เธอต้องการจะลองดูอีกสักหน่อย ไม่แน่ว่าในสักวันหนึ่งเขาอาจจะกลับมาเป็นเปปเปอร์คนเดิมทีอ่อนโยน เป็นคนที่เธอคุ้นเคยก็ได้นี่?
จนกระทั่งสามเดือนก่อน เมื่อส้มเปรี้ยวตื่นขึ้น ประกอบกับการขับไล่ของเขา จึงทำให้เธอเข้าใจว่าเขาคงไม่สามารถกลับไปเป็นเปปเปอร์คนเก่าได้อีกแล้ว เปปเปอร์ในตอนนี้เป็นของส้มเปรี้ยว ไม่ใช่เปปเปอร์คนที่เธอรักอีกต่อไป ด้วยเหตุนี้เองเธอจึงตัดสินใจที่จะหย่าร้างกับเขา
“ประธานมายมิ้นท์คะ!” ทันใดนั้นซินดี้ก็เคาะประตูเข้ามา
มายมิ้นท์รีบกดออกจากอัลบั้มรูปแล้วปิดโทรศัพท์มือถือลง ทำใจให้สบายดังเดิมแล้วเอ่ยถามว่า “มีเรื่องอะไรหรือ?”
“ประธานเตชิตแจ้งให้ทุกคนไปประชุมค่ะ” ซินดี้ยืนอยู่ที่ตรงข้ามกับโต๊ะทำงานของเธอ
มายมิ้นท์พยักหน้าตอบว่า “เอาล่ะ ฉันรู้แล้วเดี๋ยวจะรีบไป”
ขณะเดียวกัน ณ บริษัทตระกูลนวบดินทร์
ผู้ช่วยเหมันตร์ได้พาจิตแพทย์เข้ามาในห้องทำงานของเปปเปอร์
“ประธานเปปเปอร์ครับ นี่คือคุณหมอตฤณ เป็นหมอด้านจิตแพทย์ที่มีชื่อเสียงที่สุดในประเทศ อีกทั้งมักจะช่วยเจ้าหน้าที่ตำรวจในการไขคดีอาญาอยู่หลายคดี” ผู้ช่วยเหมันตร์กล่าวแนะนำ
เปปเปอร์พยักหน้าเล็กน้อย “เข้าใจแล้ว คุณออกไปก่อนนะ”
“ครับ” ผู้ช่วยเหมันตร์พยักหน้ารับ
หลังจากที่เขาออกไปแล้ว เปปเปอร์ก็ได้มองไปทางคุณหมอตฤณ “เชิญนั่งก่อนครับ”
“ขอบคุณครับประธานเปปเปอร์” คุณหมอตฤณดึงเก้าอี้ออกมานั่งแล้วยิ้มให้ เปปเปอร์สบตากับเขา “ประธานเปปเปอร์มีเรื่องอะไรไม่สบายใจหรือเปล่าครับ ผมจะช่วยชี้นำให้”
เปปเปอร์เม้มริมฝีปากเล็กน้อยแต่ไม่ได้พูดอะไรออกมาในทันใด ดูเหมือนว่าเขากำลังรวบรวมคำพูดอยู่
คุณหมอตฤณไม่ได้เร่งรีบ เขามองไปที่แก้วน้ำชา ยกขึ้นแล้วจิบมัน
กลิ่นชาอันหอมกรุ่นทำให้เขารู้สึกพอใจมากแล้วหรี่ตาลงมอง อดไม่ได้ที่จะหวนนึกถึงกลิ่นและรสชาติของชานี้
เป็นจริงที่ว่าการมีเงินนั้นดีเหลือเกิน สามารถดื่มชาเลิศรสนี้ได้ตลอดเวลาที่ต้องการ
“คุณหมอตฤณ” ดูเหมือนตอนนี้เขารู้แล้วว่าควรจะพูดอะไรออกมา เปปเปอร์ถึงได้เอ่ยปากเรียก
คุณหมอตฤณหันมามองเขาแล้ววางถ้วยน้ำชาลง “เชิญท่านประธานเปปเปอร์พูดครับ”
“ผมกำลังสงสัยว่าผมโดนสะกดจิต” เปปเปอร์กำหมัดแน่น น้ำเสียงของเขาดูเยือกเย็นเล็กน้อย
นี่คือบทสรุปที่สองวันมานี้เขาครุ่นคิดออกมา
ดูเหมือนเขาจะถูกใครบางคนสะกดจิตเข้าโดยไม่รู้ตัว แต่อาจจะเป็นเพราะอุบัติเหตุทางรถยนต์ที่เกิดขึ้น จึงทำให้ผลการสะกดจิตนั้นล้มเหลว เขาจึงได้กลับคืนสู่สภาวะปกติ
คุณหมอตฤณ ขยับแว่นตาเล็กน้อย “คุณแน่ใจเหรอครับ? ปกติแล้วหากใครที่ถูกสะกดจิต เขาผู้นั้นจะไม่รู้สึกตัวเอง”
เปปเปอร์ขมวดคิ้วเข้าหากันเล็กน้อย “ก่อนหน้านี้ผมเองก็ไม่รู้สึกตัว จนกระทั่งหลังจากเกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์ในครั้ง ผมจึงได้รู้สึกว่าตัวเองมีบางอย่างผิดปกติไป และความผิดปกติของผมมีเหตุผลมาจากคนคนหนึ่ง คือคู่หมั้นของผมเอง ผมรู้สึกว่าเพียงแค่คู่หมั้นของผมปรากฏกายอยู่ตรงหน้า ความคิดและสติปัญญาทั้งหมดรวมถึงความรู้สึกก็จะไปตามทางที่เธอจูง”
“ถ้าอย่างนั้นรบกวนคุณหมอตฤณช่วยผมตรวจดูหน่อยว่าผมถูกสะกดจิตหรือเปล่า และถูกสะกดจิตตั้งแต่เมื่อไหร่” เปปเปอร์กัดฟันพูด
คุณหมอตฤณลุกขึ้นยืน “เรื่องนี้ไม่มีปัญหาครับ ประธานเปปเปอร์ช่วยหลับตาลงหน่อย เดี๋ยวผมจะตรวจให้”
“ครับ” เปปเปอร์พยักหน้าแล้วค่อยๆ หลับตาลง
การหลับตาของเขาในครั้งนี้ เมื่อตื่นมาอีกทีก็พบว่าเวลาผ่านไปถึงหนึ่งชั่วโมงแล้ว
เขาหลับไปถึงหนึ่งชั่วโมง!
และสิ่งที่ทำให้เขารู้สึกประหลาดใจมากก็คือ เขาไม่รู้ตัวเลยว่าตัวเองหลับไปตั้งแต่เมื่อไหร่
“คุณหมอตฤณ เป็นยังไงบ้าง?” เมื่อเห็นอีกฝ่ายหนึ่งนั่งอยู่ตรงเก้าอี้ข้างหน้าขมวดคิ้วแน่น ในใจของเปปเปอร์ก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกผิดหวังเล็กน้อย
คุณหมอตฤณส่ายหน้าอย่างหนักแน่นแล้วตอบว่า “ประธานเปปเปอร์ ผมเสียใจด้วย จากการตรวจของผมอยู่ถึงสองครั้ง แต่ผลสรุปที่ได้ก็คือคุณไม่ได้ถูกสะกดจิต คุณปกติธรรมดามาก และไม่มีปัญหาเรื่องของอารมณ์ความรู้สึกแต่อย่างใด”
ดวงตาของเปปเปอร์หรี่ลงเล็กน้อย “จะเป็นไปได้ยังไง สิ่งที่ผมพูดเมื่อสักครู่เป็นเรื่องจริง ถ้าผมไม่ได้ถูกสะกดจิตแล้วสิ่งที่ผมเป็นอยู่จะอธิบายได้อย่างไร?”
คุณหมอตฤณถอนหายใจออกมา “ที่จริงแล้วผมก็ปวดหัวเหมือนกัน กรณีของคุณประธานเปปเปอร์ผมไม่เคยเจอมาก่อน ดังนั้นผมจึงสงสัยว่า อาจเป็นไปได้ที่คนสะกดจิตคุณมีความรู้ความสามารถด้านจิตวิทยามากกว่าผมมาก ดังนั้นผมจึงไม่อาจตรวจสอบเจอได้ หรือไม่ก็เป็นแบบที่ผมพูดเมื่อสักครู่ คุณไม่ได้ถูกสะกดจิต และความคิดเห็นส่วนตัวผมค่อนข้างจะเชื่อในการคาดเดาที่สอง”
เนื่องจากตัวเขาเองนับว่าเป็นศาสตราจารย์ด้านจิตวิทยาที่มีชื่อเสียงระดับโลก คนที่มีความสามารถมากกว่าเขามีอยู่เพียงไม่กี่คน แต่ต่อให้เป็นคนเหล่านั้นทำการสะกดจิต ถึงแม้ว่าเขาจะไม่อาจคลายจิตที่ถูกสะกดได้ แต่ก็ไม่น่าถึงขนาดจะมองไม่ออก
ดังนั้น การที่ประธานเปปเปอร์ไม่ได้ถูกสะกดจิต น่าจะเป็นไปได้มากทีเดียว
เมื่อคิดได้ถึงส่วนนี้คุณหมอตฤณก็ได้เอ่ยขึ้นว่า “เอาอย่างนี้ดีหรือไม่ครับ ผมแนะนำให้คุณลองหาจิตแพทย์อีกสักสองสามคน ให้พวกเขาลองวินิจฉัยดูว่าได้ผลลัพธ์เหมือนกับผมไหม?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักหวานอมเปรี้ยว
โดนสาดกรดก็รีบล้างออกสิ กว่าจะขับรถไปถึงก็กัดกร่อนไปถึงกระดูกแล้ว วางเรื่องมาให้พระนางฉลาดมาก แต่ดันไม่รู้ว่าต้องล้างด่วน...
ก็แค่บอกอีธานว่านังส้มเน่าอาจจะเป็นคนวางแผนฆ่าแฟนเก่า แล้วให้อีธานสะกดติตมันให้สารภาพ ก็จบแล้ว จะง่าวอะไรขนาดนั้น...