รักหวานอมเปรี้ยว นิยาย บท 249

วินาทีนี้ เปปเปอร์เชื่อแล้วว่าส้มเปรี้ยวไม่ใช่ต้นไผ่

ถ้าหากว่าเธอเป็นต้นไผ่จริงๆ ทำไมเธอจะต้องเผาจดหมายเหล่านั้นทิ้งไปด้วย นั่นเป็นที่ระลึกของทั้งสอง ควรที่จะเก็บรักษาเอาไว้ และเอาออกมาหวนระลึกถึงเรื่องราวเก่าๆ ไม่ใช่เหรอ?

แต่นั่นเป็นเพราะว่าเธอกลัว กลัวว่าเก็บจดหมายเหล่านั้นเอาไว้แล้วสักวันหนึ่งจะถูกเปิดโปงขึ้น

เมื่อเห็นร่างของเปปเปอร์สั่นคลอน ดูเหมือนกำลังเก็บกลั้นความรู้สึกโมโหไว้ พิสมัยก็รู้สึกกลัวจนกลืนน้ำลายลงคอ แล้วพูดว่า “เปปเปอร์ ลูก......ลูกเป็นอะไรไป?”

เปปเปอร์ไม่ได้ตอบเธอ แต่กลับหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาแล้วกดโทรออก

ผู้ช่วยเหมันตร์ส่งเสียงหาวออกมา น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยความงัวเงีย “ประธานเปปเปอร์ครับ มีอะไรหรือเปล่า?”

“ช่วยมาที่คฤหาสน์ตระกูลนวบดินทร์หน่อย ผมมีเรื่องอยากจะถาม” เมื่อพูดจบเปปเปอร์ก็วางโทรศัพท์ลงทันที

อีกด้านหนึ่งของโทรศัพท์ ผู้ช่วยเหมันตร์นั่งอยู่บนเตียงด้วยท่าทางงุนงง

ถ้าเขาไม่ได้ฟังผิดไป เมื่อสักครู่ประธานเปปเปอร์สั่งให้เข้าไปที่คฤหาสน์ตระกูลนวบดินทร์ใช่ไหม?

ผู้ช่วยเหมันตร์หยิบโทรศัพท์มือถือที่แนบหูไว้ออกมามองดูเวลา ขณะนี้เป็นเวลาเที่ยงคืนกว่าแล้ว เขารู้สึกกระสับกระส่ายทันที

ดึกดื่นเที่ยงคืนแบบนี้ ให้เข้าไปที่คฤหาสน์ตระกูลนวบดินทร์ บ้าหรือไง!

มีปัญหาอะไรพูดในโทรศัพท์ไม่ได้เหรอ ทำไมจะต้องถามต่อหน้า?

แม้ว่าในใจของผู้ช่วยเหมันตร์จะเต็มไปด้วยความรู้สึกโมโหเปปเปอร์ แต่ท้ายที่สุดแล้วเขาก็ทำได้เพียงลงจากเตียงด้วยท่าทางขมขื่น ใส่เสื้อผ้าเก็บของแล้วขับรถตรงออกไป

เวลาประมาณตีหนึ่ง ผู้ช่วยเหมันตร์ได้ยืนหยุดอยู่หน้าห้องหนังสือของเปปเปอร์

“ประธานเปปเปอร์ครับ ไม่ทราบว่าเรียกผมมาเพราะเรื่องอะไร?” สีหน้าของผู้ช่วยเหมันตร์ดูยิ้มแย้ม แต่ในใจกลับเต็มไปด้วยความโมโหไม่พึงพอใจ

เปปเปอร์สังเกตได้ว่าเขาถูกความโกรธครอบงำอยู่ เมื่อเงยหน้าขึ้น นิ้วมือของเขาก็ขอไปบนโต๊ะอันเย็นเยือก “คุณคิดว่า ส้มเปรี้ยวเป็นต้นไผ่หรือเปล่า?”

“อะไรนะครับ?” ผู้ช่วยเหมันตร์ตกตะลึง จากนั้นสีหน้าของเขาก็ดูจริงจังขึ้นมา “ประธานเปปเปอร์ครับ คุณไม่ได้กำลังสงสัยใช่มั้ยว่าคุณส้มเปรี้ยวไม่ใช่เพื่อนทางจดหมายในตอนนั้น?”

เปปเปอร์พยักหน้าอย่างไม่ปฏิเสธ

ผู้ช่วยเหมันตร์มองดูเขาอยู่สักครู่ ในที่สุดก็รู้ว่าเขาไม่ได้ล้อเล่น ดังนั้นจึงตอบกลับไปด้วยความนิ่งเงียบว่า “ประธานเปปเปอร์ครับ ถ้าจะให้ผมพูดตามความจริง ผมก็รู้สึกว่าไม่เหมือนเอาเสียเลย จากที่ผมติดตามคุณมาหลายปีมานี้ ผมก็ได้เห็นเรื่องราวของคุณกับต้นไผ่ที่เขียนจดหมายให้กัน อีกทั้งรู้จักต้นไผ่ผ่านจดหมายนั้นไม่น้อย เธอมีความอ่อนโยน มองโลกในแง่ดี ยิ้มแย้มแจ่มใส แต่สิ่งเหล่านี้คุณส้มเปรี้ยวไม่มีเลยแม้แต่น้อย”

เมื่อพูดจบ ผู้ช่วยเหมันตร์ก็เหลือบมองไปทางเปปเปอร์ เนื่องจากกลัวว่าเขาจะโมโห

แต่ผิดคาด เขาไม่เพียงแต่ไม่โมโห อีกทั้งดูเหมือนกำลังคิดอะไรอยู่

ผู้ช่วยเหมันตร์ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก

โชคดีเหลือเกินที่ประธานเปปเปอร์ไม่ได้โมโหเพราะว่าเขาไปดูถูกคุณหนูส้มเปรี้ยว

แต่ผู้ช่วยเหมันตร์ก็เอามือกุมศีรษะด้วยความสงสัย

ผ่านไปชั่วครู่ ในที่สุดเปปเปอร์ก็เอ่ยปากขึ้นด้วยน้ำเสียงเยือกเย็นเล็กน้อยว่า “นั่นนะสิ เธอไม่มีคุณสมบัติเหล่านั้นเลย แล้วเธอจะเหมาะสมกับการเป็นต้นไผ่ได้อย่างไร?”

เมื่อฟังประโยคนี้ ดูเหมือนผู้ช่วยเหมันตร์จะรู้สึกได้ถึงบางอย่าง เขาจึงขยับแว่นตาขึ้นพูดว่า “ประธานเปปเปอร์ครับ ไม่ทราบว่าไปรู้อะไรมาหรือเปล่า ถึงได้สงสัยว่าคุณหนูสุดเปรี้ยวไม่ใช่ต้นไผ่?”

มิน่าเล่า สองวันมานี้ท่าทางของประธานเปปเปอร์ที่มีต่อคุณส้มเปรี้ยวจึงเปลี่ยนไป

ก็จริงอยู่ ก่อนหน้านี้ที่ประธานเปปเปอร์ดีกับคุณส้มเปรี้ยวก็เพราะคิดว่าคุณส้มเปรี้ยวคือต้นไผ่ แต่ถ้าหากว่าคุณส้มเปรี้ยวไม่ใช่ ประธานเปปเปอร์ก็คงจะเก็บความรู้สึกที่มีกลับคืนมา เนื่องจากคนที่ประธานเปปเปอร์รักจริงๆ คือคุณมายมิ้นท์ต่าง

“ก่อนหน้านี้ตอนที่ผมยุ่งๆ จดหมายที่ต้นไผ่ส่งมาคุณเป็นคนรับเอาไว้ คุณน่าจะรู้ที่อยู่ที่ส้มเปรี้ยวส่งจดหมายมาใช่ไหม?” เปปเปอร์หรี่ตามอง เขาไม่ตอบแต่ถามกลับ

นั่นสินะ ส้มเปรี้ยวมีช่องว่างมากมายที่ให้จับผิด แต่เขากลับไม่รู้ถึงมัน ไม่เพียงแต่เขา แม้แต่เหมันตร์เองก็ไม่พบข้อบกพร่องเหล่านั้นด้วย มันน่าประหลาดจริงๆ

เขาพอจะเข้าใจว่าทำไมตัวเองถึงไม่ค้นพบช่องว่างเหล่านั้น คงจะเป็นเพราะพลังลึกลับนั่น

แต่สิ่งที่เขาคิดไม่ถึงก็คือ แม้แต่เหมันตร์เองก็ถูกพลังลึกลับนั้นบดบังตาด้วย

“ประธานเปปเปอร์ครับ ทำไมถึงมองผมแบบนั้น?” ผู้ช่วยเหมันตร์มองไปด้วยความสงสัยและเอ่ยถาม

เปปเปอร์เม้มริมฝีปาก น้ำเสียงดูแหบแห้งตอบว่า “ไม่มีอะไรหรอกครับ พรุ่งนี้คุณไปที่เขตนิวเทาน์ริเวอร์ แล้วไปหาตัวต้นไผ่ที่แท้จริงมาให้ได้”

นั่นจึงจะเป็นคนที่เขารัก!

“ครับ!” ผู้ช่วยเหมันตร์พยักหน้า จากนั้นดูเหมือนจะคิดอะไรขึ้นมาได้ เขาลังเลอยู่พักหนึ่งก่อนจะหันไปพูดว่า “แล้วคุณส้มเปรี้ยว......”

สายตาของเปปเปอร์มีแสงอันส่อถึงความอันตรายเปล่งออกมา “ผมจะจัดการเอง ผมจะทำให้เธอรู้ว่า การจะปลอมตัวเป็นต้นไผ่ไม่ใช่ง่ายๆ แบบนั้น”

ฟังจากน้ำเสียงอันเยือกเย็นของเขาแล้ว ผู้ช่วยเหมันตร์ก็อดไม่ได้ที่จะสั่นสะท้าน ในใจของเขารู้ดีว่าคุณส้มเปรี้ยวตายแน่

แต่ก็สมน้ำหน้า ใครสั่งให้เธอปลอมมาเป็นต้นไผ่และล้อเล่นกับความรู้สึกของประธานเปปเปอร์อยู่ถึงหกปีเล่า

ผู้ช่วยเหมันตร์ขยับแว่นตาแล้วหัวเราะออกมาอย่างสะใจก่อนจะเดินออกไป

เมื่อเขาเดินออกไปแล้ว เปปเปอร์ก็ยืดตัวตรงแล้วเดินไปที่หน้าต่างซึ่งสูงตั้งแต่เพดานจรดพื้น เขามองออกไปที่ทิวทัศน์ด้านนอกตอนกลางคืน คิ้วทั้งสองข้างขมวดเข้าหากัน

เขากำลังคิดอยู่ว่า พลังอันลึกลับนั้นคืออะไรกันแน่ ทำไมจะต้องเข้ามาควบคุมให้เขารักส้มเปรี้ยว และส้มเปรี้ยวมีความลับอะไรอยู่ ?ทุกสิ่งทุกอย่างนี้ทำให้เปปเปอร์รู้สึกถึงมุมมองของโลกอันแปลกใหม่ เดิมทีเขารู้สึกว่าตนเองปกติทุกอย่าง แต่คิดไม่ถึงว่าตนเองพลาดท่าตั้งแต่เมื่อไหร่ และถูกพลังอันลึกลับนี้เข้ามาควบคุมไว้

เมื่อคิดถึงตรงนี้ เปปเปอร์ก็อดไม่ได้ที่จะปวดหัวขึ้นมาอีก ภาพในสมองเหมือนกับโคมไฟที่ฉายออกมาเป็นประกายกะพริบ มันปวดเสียจนเขาต้องก้มศีรษะลง

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักหวานอมเปรี้ยว