ที่แท้เมื่อสามเดือนก่อน เขาก็มีโอกาสที่จะรู้ว่ามายมิ้นท์ถึงจะเป็นต้นไผ่ที่แท้จริง
เมื่อสามเดือนก่อน เขาเพิ่ง หย่ากับมายมิ้นท์ ถ้าเขารู้ว่ามายมิ้นท์เป็นต้นไผ่ในเวลานั้น ส้มเปรี้ยวก็คงจะไม่มีโอกาสได้ลงมือกับมายมิ้นท์ และเขาก็อาจจะคืนดีกับมายมิ้นท์ไปนานแล้วก็ได้
แต่ว่า ไม่มีถ้าหาก!
เรื่องนี้เป็นเพราะปีโป้ จึงทำให้เขาพลาดเวลาที่จะจดจำมายมิ้นท์ขึ้นได้
แต่เขาเองก็ต้องยอมรับด้วยว่า ก็เป็นเพราะเขาเองด้วย หากตอนที่ปีโป้แย่งจดหมายไป เขาหนักแน่นความศรัทธาที่อยู่ในใจของเขากว่านี้ แล้วแย่งจดหมายกลับมา เรื่องทั้งหมดก็มาไม่ถึงจุดนี้สินะ
พูดได้ว่า ทั้งหมดนี้เป็นการกลั่นแกล้งของฟ้าเท่านั้น
อีกฝั่ง ปีโป้ที่ถูกเปปเปอร์วางสายไป เขาก็รู้สึกไม่สบายใจอย่างยิ่ง ถือมือถือไว้แล้วเดินไปเดินมา “แย่แล้วๆ คราวนี้พี่ชายใหญ่ต้องเกลียดผมมากแน่ๆเลย!”
เขาเองก็เสียใจมาก ที่ไม่ยอมให้พี่ชายใหญ่ได้อ่านจดหมายในตอนนั้น
ถ้าพี่ชายใหญ่ได้อ่านละก็ ก็คงจะไม่มีอะไรของส้มเปรี้ยวแล้วสินะ และพี่ชายใหญ่กับพี่มายมิ้นท์ก็คงจะแต่งงานใหม่นานแล้ว
แต่ทุกอย่างนี้ กลับถูกเขาทำพังไปหมด!
“ไม่ได้ ต้องหาวิธีชดเชยให้ได้” ปีโป้กลอกตาไปมา จากนั้นก็ตัดสินใจที่จะโทรหามายมิ้นท์ “พี่มายมิ้นท์ ช่วยด้วยครับ!”
มายมิ้นท์กำลังตรวจเอกสารอยู่ เธอไม่ได้ดูเลยว่าใครโทรมา และรับโทรศัพท์เลย คิดไม่ถึงว่าจะเป็นปีโป้โทรมา แทมยังบอกให้เธอช่วยชีวิตเขาด้วย
“ทำไม?เข้าโรงพักอีกแล้วเหรอ?” มายมิ้นท์หงีบโทรศัพท์ไว้บนไหล่ แล้วถามอย่างเฉยเมย
ปีโป้ทำเสียงเชอะ “ใครเข้าโรงพักอีกแล้ว พี่มายมิ้นท์หวังอะไรดีๆในตัวผมหน่อยไม่ได้เหรอ?”
“ไม่ใช่ว่าฉันหวังไม่ได้กับนาย แต่ว่านายมันดูจากโหงวเฮ้งแลเเป็นคนที่ต้องเข้าโรงพักนี่นะ” มายมิ้นเซ็นลายเซ็นไปด้วยพูดไปด้วย
ปีโป้โมโหจนหน้าแดง “พี่มายมิ้นท์พี่จะเกินไปแล้วนะครับ!”
“เอาละๆ ฉันแค่ล้อเล่นกับนายเอง มีเรื่องอะไรก็รีบพูด ฉันยุ่งอยู่” มายมิ้นท์ปิดเอกสารที่เซ็นเสร็จแล้ว วางไว้ข้างๆ และเอาเอกสารอีกฉบับหนึ่งมาตรวจต่อ
ปีโป้เกาผมและตอบกลับอย่างทื่อ ๆว่า:“คืออย่างงี้ครับ ผมอาจถูกพี่ชายเกลียดชังแล้วครับ!"
หลังจากนั้น เขาก็พูดเกี่ยวกับจดหมายฉบับนั้นให้เธอให้
หลังจากที่มายมิ้นท์ฟังจบ ปากกาในมือของเธอก็หยุดลง และเธอก็พึ่งรู้ว่า ที่แท้หลังจากที่ไอ้หมอนี่เอาจดหมายฉบับนั้นไปแล้ว ยังเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นด้วย
เมื่อเห็นว่ามายมิ้นไม่ตอบกลับ ปีโป้ก็รู้สึกกังวลมาก "พี่มายมิ้นท์ คราวนี้พี่ชายใหญ่ต้องเกลียดผมมากๆแน่ พี่ต้องช่วยผมนะครับ!"
“ขอโทษนะ นี่เป็นเรื่องในบ้านของนาย ฉันจะไม่เข้าไปยุ่ง” หลังจากที่มายมิ้นท์พูดจบ เธอก็ตรวจเอกสารต่อ
ปีโป้ไม่คิดว่าเธอจะปฏิเสธและกะพริบตาด้วยความประหลาดใจ “ทำไมละ เรื่องนี้มันก็เกี่ยวกับพี่ด้วย ถ้าไม่ใช่เพราะผม……”
“พอแล้ว หยุดพูดได้แล้ว!” มายมิ้นท์ขมวดคิ้วเล็กน้อย “ฉันรู้ว่านายต้องการจะพูดอะไร นายอยากบอกว่าเป็นเพราะนาย ดังนั้นพี่ชายนายกับฉันจึงไม่ได้รู้จักกันใช่ไหม?”
ปีโป้พยักหน้า “ใช่ ถ้าตอนนั้นผมปล่อยให้พี่ชายใหญ่ได้อ่านจดหมายฉบับนั้นไป บางทีพี่กับพี่ชายใหญ่ก็อาจจะแต่งงานกันใหม่นานแล้วก็ได้”
“นายพูดผิดแล้ว!” มายมิ้นท์พลิกเอกสารอย่างไม่มีอารมณ์ใดๆบนใบหน้า “แม้ว่านายจะเอาจดหมายให้เปปเปอร์ได้ดูในเวลานั้นแล้ว ฉันและเขาก็ไม่อาจจะแต่งกันงานใหม่ได้”
“ทำไมละครับ?” ปีโป้อ้าปากกว้างอย่างไม่น่าเชื่อ
ริมฝีปากที่แดงของมายมิ้นท์ค่อยๆอ้าขึ้น และตอบอย่างเฉยเมย เย็นชาว่า:“ไม่มีเหตุผลใดๆทั้งสิ้น แต่ถ้าถามว่าทำไม นั้นก็เพราะว่าฉันไม่ได้รักเขา ดังนั้นแล้วทำไมฉันต้องแต่งงานกับผู้ชายที่ฉันไม่รักใหม่ด้วยละ? "
เสร็จแล้วเธอก็วางสายไป
ขณะนี้มีเสียงเคาะประตูห้องสำนักงานดังขึ้น
มายมิ้นท์หน้าก็เงยและพูดว่า “เข้ามา!”
ซินดี้วางมือลงแล้วเดินเข้ามา และยืนอยู่ที่หน้าโต๊ะของเธอ “ประธานมายมิ้นท์ค่ะ เมื่อกี้ทางสถานีตำรวจโทรมาบอกว่า ให้คุณไปที่สถานีตำรวจ เพราะพวกเขาจับคนร้ายที่ฉายภาพน่ากลัวบนหน้าต่างสูงจากพื้นจรดเพดานในห้องของคุณแล้ว!"
เมื่อได้ยินเช่นนี้ มายมิ้นท์ก็เงยหน้าขึ้นทันที “จับได้แล้วเหรอ?”
“ใช่ค่ะ!” เลขาซินดี้พยักหน้า
มายมิ้นท์ก็หัวเราะ
“นั้นมันก็จริงนะ” มายมิ้นท์เอามือท้าวหัว “พี่เคยเห็นรูปพ่อแม่ของนายแล้ว นายดูเหมือนกับพวกเขามากจริงๆ บางทีชาหวานอาจดูผิดจริงก็ได้ เอาอย่างงี้ดีกว่า เดี๋ยวพี่บอกกับชาหวานว่า ให้เธออย่างคิดที่จะมาหาวิธีเอาผมของนายอีกต่อไป”
“อืม” ราเม็งยิ้งและพยักหน้า
เมื่อมายมิ้นท์หันไปทางหน้าต่าง และมองดูทิวทัศน์นอกหน้าต่าง รอยยิ้มบนใบหน้าของเขาก็หายไปในทันที สิ่งแทนมาคืนความเกลียดชังที่เต็มไปทั้งหน้า
ฐาวิทย์ไอ้แก่นั้นที่ทอดทิ้งเขาและแม่ของเขามาก่อน ตอนนี้จะตายแล้ว รู้ว่าลูกชายคนอื่นๆของมันใช่ไม่ได้เรื่อง แล้วก็มาหาเขาให้เขากลับไป
ฐาวิทย์คิดจริงๆเหรอว่าหลังจากที่เขากลับไปแล้ว เขาก็จะรู้สึกสบายใจเหรอ?
เชอะ ไร้เดียงสาจริงๆเลย!
เขาอยากให้ฐาวิทย์ตายมากกว่าพี่น้องคนอื่น ๆของเขาอีก !
สิบนาทีต่อมาก็มาถึงที่สถานีตำรวจ
ราเม็งจอดรถเสร็จ และในขณะที่มายมิ้นท์กำลังลงไปจากรถ จู่ๆก็มีรถอีกคันขับเข้ามาและบีบแตรใส่เธอ เพื่อส่งสัญญาณให้เธอหลีกทางไปเร็วๆ
มายมิ้นท์ขมวดคิ้ว เดินไปข้างหน้าหลายก้าว และรถคันนั้นก็ตามหลังเธอมา และในที่สุดก็หยุดในที่จอดรถว่างที่เธอเพิ่งเข้าครอบครอง
ไม่นาน ประตูรถคันนั้นก็เปิดออก และคนที่ลงมานั้นก็เป็นคนที่มายมิ้นท์คุ้นเคยมาก เยี่ยมบุญ!
เยี่ยมบุญเห็นมายมิ้นท์ตั้งแต่อยู่บนรถแล้ว ดังนั้นเขาจึงไม่ได้รู้สึกแปลกใจอะไร
เมื่อมองหน้ากัน เยี่ยมบุญก็ถามด้วยใบหน้าที่มืดว่า "คุณมาทำอะไรที่สถานีตำรวจ?"
“นี่มันเป็นเรื่องส่วนตัวของฉัน ดูเหมือนว่าไม่เกี่ยวอะไรกับประธานเยี่ยมบุญเลยนี่นา?” มายมิ้นท์ตอบด้วยรอยยิ้มจางๆ
ราเม็งยิ่งพูดตรงๆ กว่ามายมิ้นท์อีก หลังจากเหลือบมองเยี่ยมบุญแล้วก็พูดกับมายมิ้นท์ว่า:“พี่ ไม่จำเป็นต้องเสียเวลากับคนไม่สำคัญอะไรเช่นนี้ เราเข้าไปกันก่อนเถอะ"
มายมิ้นพยักหน้า
แต่ในขณะที่เธอกำลังจะหันหลัง เยี่ยมบุญก็หรี่ตาลงและตะโกนเรียกเธอ "หยุด!"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักหวานอมเปรี้ยว
โดนสาดกรดก็รีบล้างออกสิ กว่าจะขับรถไปถึงก็กัดกร่อนไปถึงกระดูกแล้ว วางเรื่องมาให้พระนางฉลาดมาก แต่ดันไม่รู้ว่าต้องล้างด่วน...
ก็แค่บอกอีธานว่านังส้มเน่าอาจจะเป็นคนวางแผนฆ่าแฟนเก่า แล้วให้อีธานสะกดติตมันให้สารภาพ ก็จบแล้ว จะง่าวอะไรขนาดนั้น...