รักหวานอมเปรี้ยว นิยาย บท 350

“ตอนนี้คุณสะดวกคุยไหม?” มายมิ้นท์ถาม

ชวนชมมองไปยังคุณนายตระกูลภักดีพิศุทธิ์ที่อยู่ไม่ไกลนัก ก่อนจะกระซิบตอบว่า “คุณส้มเปรี้ยวรอสักครู่นะคะ ฉันขอเปลี่ยนสถานที่คุยก่อน”

“ค่ะ” มายมิ้นท์พยักหน้า

ชวนชมวางโทรศัพท์มือถือลงแล้วเดินออกไปจากห้องรับแขก ตรงไปที่สวนดอกไม้ข้างนอกก่อนจะหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาแนบไปที่หูอีกครั้ง “สะดวกแล้วค่ะ คุณมายมิ้นท์มีเรื่องอะไรเหรอคะ?”

มายมิ้นท์ได้ยินน้ำเสียงของเธอที่ค่อนข้างกระฉับกระเฉงก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกประหลาดใจ

เวลาผ่านไปไม่นาน เจินเจินเปลี่ยนไปมากจริงๆ

ก่อนหน้านี้เจินเจินพูดติดน้ำเสียงท้องถิ่น เวลาที่เธอพูดมักจะดูอ่อนน้อม แต่ตอนนี้มันเปลี่ยนไปอย่างชัดเจน ดูเหมือนจะเเฝงไปด้วยความสง่างาม

หลังจากที่อาศัยอยู่ในตระกูลภักดีพิศุทธิ์ เจินเจินก็พยายามปรับปรุงตัวเอง

มายมิ้นท์ทำสีหน้าขรึมลง เธอไม่ได้คิดอะไรมาก “มีอยู่เรื่องหนึ่งฉันอยากจะให้คุณช่วยหน่อย”

ชวนชมหัวเราะขึ้น “แน่นอนว่าได้สิคะ ฉันเป็นคนของคุณและคุณทามทอย เพียงแค่คุณและคุณทามทอยเอ่ยปากออกมาฉันก็จะทำอย่างสุดความสามารถ”

“ขอบคุณมากเลยนะคะ” มายมิ้นท์ยิ้มขึ้น จากนั้นก็พูดถึงเรื่องจริงจังว่า “เมื่อสามเดือนก่อน ส้มเปรี้ยวได้ติดต่อกับบริกรคนหนึ่ง สั่งให้บริกรคนนั้นวางยาฉัน ตอนนี้ถูกจับตัวได้แล้วแต่หลักฐานจากบริกรมีไม่มากพอที่จะมัดตัวให้ส้มเปรี้ยวเข้าคุกได้ ตอนนี้ฉันต้องการให้ส้มเปรี้ยวยอมรับด้วยตัวเธอเองว่าเธอสั่งให้บริกรคนนี้ทำแบบนั้น”

“หมายความว่าจะให้ฉันหาวิธีเปิดปากส้มเปรี้ยวเหรอคะ?” ชวนชมหรี่ตาลงแล้วเอ่ยถาม

มายมิ้นท์ตอบรับอยู่ในลำคอเบาๆ “ถูกต้องค่ะ ทางที่ดีควรจะบันทึกเสียงเอาไว้ ถ้าเป็นแบบนี้ฉันจะได้มีวิธีส่งส้มเปรี้ยวเข้าคุกสักที”

เมื่อได้ยินประโยคนี้เข้าดวงตาของชวนชมก็เป็นประกายทันที

สามารถส่งเสริมเปรี้ยวเข้าคุกได้!

เธอกุมมือถือเอาไว้แน่น ใบหน้าเธอตื่นเต้นอย่างไม่อาจปิดบังได้

ดีจริง ช่วงนี้เธอพยายามคิดหาวิธีขับไล่ส้มเปรี้ยวออกจากตระกูลเสมอมา

คิดไม่ถึงว่าตอนนี้โอกาสจะมาถึงแล้ว อีกทั้งมาเคาะประตูอยู่ใกล้ๆ

เธอสูดลมหายใจเข้าลึกแล้วพยายามระงับความตื่นเต้นในใจ รีบตอบว่า “ฉันเข้าใจแล้วค่ะคุณมายมิ้นท์ ฉันจะหาวิธีทำภารกิจให้สำเร็จ”

“ค่ะ ขอบคุณมากนะคะ” มายมิ้นท์ยิ้มแล้วขอบคุณ

หลังจากวางสายลง ชวนชมก็เก็บโทรศัพท์มือถือลงไป เธอกำมือแน่นแล้วหันหลังกลับไปที่ห้องนั่งเล่น

คุณนายตระกูลภักดีพิศุทธิ์เห็นเธอเดินเข้ามาก็ถามว่า “ชวนชมไปไหนมาเหรอลูก?”

“ไปเดินเล่นที่สวนดอกไม้ค่ะแม่ มีอะไรรึเปล่าคะ?” ชวนชมเดินตรงเข้าไปแล้วกอดแขนคุณนายตระกูลภักดีพิศุทธิ์

คุณนายตระกูลภักดีพิศุทธิ์ลูบศีรษะเธออย่างนุ่มนวล “เมื่อสักครู่แม่ให้คนรับใช้ไปต้มรังนกมาให้ ว่าจะไปเรียกลูกมาดื่มสักหน่อย แต่เมื่อกี้ไม่เจอลูก เอาละ กลับมาแล้วก็ดี ไปดื่มสักถ้วยเถอะ บำรุงผิวพรรณให้ขาวผ่องสักหน่อย เดินหน้าไปร่วมงานเลี้ยงจะได้ใส่ชุดสวย”

“ค่ะ หนูจะไปเดี๋ยวนี้เลยค่ะคุณแม่” ชวนชมปล่อยแขนของคุณนายตระกูลภักดีพิศุทธิ์และรีบตรงไปที่ห้องครัว

งานเลี้ยงเหรอ? เขาก็น่าจะได้ไปด้วยใช่ไหม

นับตั้งแต่เธอเดินทางมาที่ตระกูลภักดีพิศุทธิ์ เธอก็ยังไม่เคยเห็นเขาอีกเลย

ในห้องอาหาร ชวนชมลากเก้าอี้ออกมานั่งลง คนรับใช้จัดเตรียมรังนกมาสองถ้วย หนึ่งในนั้นได้ส่งมาให้เธอ

ชวนชมเห็นรังนกที่อยู่ในถาดอีกหนึ่งถ้วยจึงถามว่า “ถ้วยนี้เอาไปให้แม่เหรอคะ?”

“ไม่ใช่ค่ะคุณหนู ถ้วยนี้จะเอาไปให้คุณหนูรองW คนรับใช้ส่ายหน้าแล้วตอบกลับ

เมื่อชวนชมได้ยินดังนั้นสีหน้าของเธอก็ย่ำแย่ลงทันที

ส้มเปรี้ยวทำให้ตระกูลย่ำแย่ขนาดนี้ยังมีหน้าจะกินรังนกอีก?

แต่เรื่องนี้ไม่ใช่สิ่งที่เธอจะหยุดยั้งได้ เพราะว่านี่คงจะเป็นคำสั่งของคุณแม่ให้เอาไปให้ส้มเปรี้ยว

“เอาล่ะ รีบเอาไปให้น้องฉันเถอะ” ชวนชมระงับความรู้สึกไม่พอใจเอาไว้แล้วยิ้มขึ้น

คนรับใช้ตอบรับแล้วหยิบทานเดินขึ้นไปด้านบน

ชวนชมชี้ไปอย่างเขินอายแล้วพูดว่า “เอ่อคือ….. รังนกนี้ รบกวนช่วยเอาไปให้น้องสาวฉันเถอะค่ะ เมื่อสักครู่ฉันมาทบทวนดูแล้ว ก่อนหน้านี้ทุกครั้งที่ฉันเอาข้าวไปให้น้อง น้องก็ไม่ยอมกินเลย ดังนั้นฉันไม่เอาไปดีกว่า”

ประโยคนี้ไม่ใช่เรื่องโกหก ไม่ว่าจะเป็นที่โรงพยาบาลหรือที่บ้าน ส้มเปรี้ยวก็ไม่ยอมแตะต้องอาหารที่เธอสัมผัส

เรื่องนี้สองสามีภรรยาและคนรับใช้ทุกคนล้วนเห็น

ด้วยเหตุนี้เองคนรับใช้จึงไม่ได้สงสัยในคำพูดของชวนชม เธอยิ้มแล้วพยักหน้า “ได้ค่ะ”

“ขอบคุณมากนะคะพี่เปิ้ล พี่เปิ้ลอย่าไปบอกกับน้องนะคะว่าตอนแรกฉันจะเอาไปให้เอง” ชวนชมทำท่าทางซาบซึ้งใจ

“คุณหนูใหญ่วางใจได้เลยค่ะ ฉันเข้าใจดี ถ้าอย่างนั้นฉันขอเอาไปให้คุณหนูรองก่อนนะคะ” เมื่อพูดจบคนรับใช้ก็หยิบรังนกเดินขึ้นไปชั้นสอง

ชวนชมมองตามหลังของหล่อนไปแล้วเผยอมุมปากขึ้นเล็กน้อยอย่างอดไม่ได้

นับตั้งแต่เดินทางมาที่ตระกูลภักดีพิศุทธิ์ ส้มเปรี้ยวก็คอยจัดการเธอตลอดเวลา ทั้งมองดูเธออย่างเย็นชา ทั้งดูถูกว่าเธอเป็นคนบ้านนอก สาวป่า เรียกเธอว่าเชื้อโรคเชื้อรา

ตอนนี้ส้มเปรี้ยวคงจะคิดไม่ถึงสินะว่าหล่อนกำลังจะกินน้ำลายของเชื้อราที่ว่า

ชวนชมหัวเราะออกมา ก่อนจะก้มหน้ากินรังนกของเธอต่อไป

หลังจากที่กินเสร็จแล้วชวนชมก็เดินมาที่ห้องรับแขกนั่งรอคนรับใช้อยู่ที่โซฟา

ผ่านไปประมาณสิบนาที คนรับใช้ก็เดินลงมาจากข้างบน

ชวนชมเห็นคนรับใช้ถือถาดลงมา จึงเอ่ยถามว่า “พี่เปิ้ลคะ น้องกินหมดแล้วเหรอ?”

“คุณหนูรองทานหมดเลยค่ะ” คนรับใช้ตอบ

รอยยิ้มบนใบหน้าของชวนชมดูสดชื่นขึ้น

“ดีจริง!”

ส้มเปรี้ยวกินรังนกจนหมด มองดูแล้วน้ำลายเธอคงจะอร่อยไม่น้อย!

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักหวานอมเปรี้ยว