“มายมิ้นท์ คุณกำลังคิดอะไรอยู่?” เห็นจู่ๆ มายมิ้นท์เหม่อลอย ทามทอยก็โบกมือตรงหน้าเธอ
ดวงตามายมิ้นท์หลบหลีกเล็กน้อย ตอบกลับเรียบๆ “ไม่มีอะไร”
“แล้วไมโล……”
มายมิ้นท์กัดปาก เหมือนกำลังพิจารณา
ทามทอยเห็นดังนั้น ก็แอบขยิบตาให้ไมโล: เจ้าหนู เร็วเข้า จะได้อยู่ไหม ขึ้นอยู่กับตัวเธอเองแล้วนะ อาเธอทำเต็มที่แล้ว
ไมโลกลอกตา: คุณอาทึ่ม ทั้งๆ ที่คุณพาผมมา บอกว่าทะเลาะกับคุณน้า คุณน้าไม่สนใจคุณ ให้ผมมาไกล่เกลี่ย เพื่อให้คุณน้าให้อภัยคุณ ทำไมตอนนี้คุณโยนทุกอย่างมาให้ผม ผมเป็นแค่เด็กนะ
ทามทอยเบ้ปาก: หยุดพูดไร้สาระ เร็วเข้า เธออยากให้หล่อนเป็นคุณน้าของเธอไหม ถ้าอยากก็รีบใช้ความน่ารักของเธอ ให้หล่อนให้เธออยู่ แบบนี้เธอจะได้ช่วยคุณอาเธอพูดสิ่งดีๆ
ไมโลไม่มีทางเลือก ถอนหายใจเหมือนผู้ใหญ่ จากนั้นก็เปลี่ยนท่าทางเป็นเงียบสงบ ดึงแขนเสื้อมายมิ้นท์ มองมายมิ้นท์อย่างน่าสงสาร “คุณน้าครับ คุณให้ไมโลอยู่เถอะนะครับ ไมโลไม่อยากอยู่บ้านคนเดียว ได้โปรดนะครับคุณน้า”
เขากะพริบตาโตสองที ทำท่าทางจะร้องไห้
“มายมิ้นท์ ได้โปรด” ทามทอยรีบคล้อยตามเช่นกัน
มายมิ้นท์มองเขา แล้วมองไมโลน้ำตาคลอ สุดท้ายก็ใจอ่อน ยื่นมือไปเช็ดน้ำตาไมโล แล้วพยักหน้า “ก็ได้ สองวันนี้ฉันจะช่วยคุณดูแลไมโล”
“ดีจัง ในที่สุดผมก็ได้อยู่กับคุณน้า” ไมโลยิ้มดีใจ
“ขอบคุณนะมายมิ้นท์” ทามทอยโค้งคำนับ ทำท่าทางซาบซึ้งอย่างยิ่ง แต่ในใจตื่นเต้นแค่ไหนไม่ต้องพูดถึง
เด็กดี สมแล้วที่เป็นเธอ หนุ่มน้อยที่น่ารักสุดในตระกูลชุติเกษมของเรา!
แค่ลงมือก็สำเร็จ
ทามทอยวางไมโลลง ย่อตัวลูบไมโลขณะกำชับ “ไมโล สองวันนี้เป็นเด็กดีนะ ต้องเชื่อฟังคุณน้า ห้ามซนนะรู้ไหม?”
เด็กน้อย จำหน้าที่ของเธอเอาไว้ คลี่คลายความสัมพันธ์ของน้าเธอกับอาเธอ
นี่คือจุดประสงค์ที่แท้จริงที่ฉันพาเธอมาที่นี่
ไมโลพยักหน้าอย่างเชื่อฟัง “ผมรู้แล้วครับคุณอา ผมจะไม่ซน”
ไม่ต้องห่วงนะคุณอา ผมจะทำให้คุณน้าให้อภัยคุณให้ได้ อย่าลืมคอลเล็กชันทรานฟอร์เมอร์ของผมล่ะ
“ดีแล้ว งั้นอาก็วางใจ” ทามทอยลูบศีรษะเขาเบาๆ
ไม่ลืมหรอก อย่าเตือนบ่อยๆ สิ
ทามทอยยืนขึ้นมา มองไปทางมายมิ้นท์ “งั้นฝากไมโลกับคุณด้วยนะ”
มายมิ้นท์ไม่รู้การสื่อสารทางแววตาของอาหลานสองคนเมื่อครู่นี้ จึงพยักหน้าเบาๆ แล้วตอบอืม “ได้”
“งั้นฉันขอตัวก่อน” ทามทอยพูดอีกครั้ง
“เดินทางปลอดภัย” มายมิ้นท์ตอบ
ทามทอยยิ้มขมขื่น
เธออยากให้เขาไปเร็วๆ เหลือเกิน แม้แต่ชาแก้วเดียวก็ไม่เรียกเขาดื่ม
แต่นี่ไม่ใช่สิ่งที่สิ้นหวังที่สุด
สิ่งที่สิ้นหวังที่สุดคือไมโลกำลังโบกมือ “ลาก่อนคุณอา!”
มุมปากทามทอยกระตุก จ้องเจ้าหนูน้อยอย่างลับๆ
เด็กแสบ ตาไม่มีแววเลยจริงๆ คุณน้าของเธอไม่ให้ฉันอยู่ดื่มชาเลย เธอแกล้งร้องไห้ บอกว่าไม่อยากให้ฉันไปก็ได้นี่หน่า
ไม่แน่ฉันอาจจะได้อยู่ต่ออีกสักพัก
ไมโลที่มองความคิดในใจทามทอยออกก็ทำหน้าทะเล้นใส่เขาทันที ทามทอยโกรธจนหน้าเปลี่ยนรูป
เจ้าเด็กแสบ รักเสียเปล่าเลยจริงๆ!
ทามทอยถอนหายใจ หันตัวเดินไปที่ลิฟต์
หลังจากร่างเขาหายไปที่ทางเข้าลิฟต์ มายมิ้นท์ก็ดึงไมโลเข้าห้อง
วันต่อมา มายมิ้นท์ตื่นเพราะเสียงโทรศัพท์
คนที่โทรมาคือลาเต้ “มิ้นท์ รีบดูในเน็ตเร็ว เยี่ยมบุญจะจัดงานแถลงข่าว”
“งานแถลงข่าว?” มายมิ้นท์นั่งขึ้นมาจากเตียง “งานแถลงข่าวอะไร?”
“ไม่แน่ใจ แต่น่าจะเกี่ยวกับส้มเปรี้ยว ยังไงแล้วเรื่องที่ส้มเปรี้ยวถูกจับตัวไปที่สถานีตำรวจอีกรอบเมื่อวานมันดังมาก เอสซีกรุ๊ปได้รับผลกระทบรุนแรงมาก เขาไม่ออกหน้าไม่ได้หรอก” ลาเต้พูด
ถึงแม้คำถามจะเฉียบคม แต่คำถามนี้ก็ไม่ได้ตอบง่ายๆ
ถ้าเยี่ยมบุญตอบว่าไม่ช่วย ในอินเทอร์เน็ตก็อาจจะสนับสนุนเขา แต่คนในแวดวงธุรกิจจะไม่สนับสนุน
อย่างไรแล้วทิ้งได้แม้กระทั่งคนในครอบครัว มันยากที่จะรับประกันว่าจะไม่ทรยศพวกเขา ดังนั้นอนาคตเยี่ยมบุญในแวดวงธุรกิจก็จะอยู่ยากขึ้น
ถ้าเยี่ยมบุญบอกว่าช่วย เยี่ยมบุญจะไม่แค่ถูกชาวเน็ตแบน จะถูกเอาตัวไปอย่างเป็นทางการด้วย
ดังนั้นคำตอบเยี่ยมบุญจึงน่าสนใจมาก จะพูดว่าช่วย หรือว่าไม่ช่วย
คำตอบนี้ ไม่ใช่แค่เปปเปอร์เท่านั้นที่อยากรู้ สื่อในงานแถลงข่าว และผู้ชมที่รับชมงานแถลงข่าวอยู่ รวมถึงมายมิ้นท์ก็อยากรู้เช่นกัน
เพราะคำถามนี้เทียบเท่ากับการบังคับเยี่ยมบุญให้ไปอยู่ริมหน้าผา ไม่ว่าเยี่ยมบุญจะตอบอย่างไร จุดจบก็ไม่ดีทั้งนั้น
เยี่ยมบุญก็รู้ในจุดนี้เช่นกัน หลังจากเขากวาดตามองนักข่าวที่ถามคำถามคนนั้นอย่างมืดมนเย็นชา ก็หายใจเข้าลึกๆ เผชิญหน้ากับกล้องแล้วเอ่ยปาก “สำหรับคำถามนี้ คำตอบของฉันคือ ไม่ช่วย!”
เมื่อคำพูดนี้ออกไป ก็มีไม่กี่คนที่ตกใจ
เพราะทุกคนรู้ว่าอัตราที่เขาจะเลือกว่าไม่ช่วยนั้นมีมากที่สุด ถึงแม้ในโลกธุรกิจอาจจะอยู่ต่อไปไม่ได้แล้ว แต่บนอินเทอร์เน็ตจะสนับสนุนเขา ดังนั้นเขาเลือกที่จะไม่ช่วยก็เป็นไปได้มากที่สุด
“ในขณะเดียวกัน……” ในเวลานี้ เยี่ยมบุญก็เอ่ยปากอีกครั้ง
ทุกคนรีบมองเขา
นักข่าวคนที่ถามก่อนหน้านี้ก็ถามขึ้น “ประธานเยี่ยมบุญ ในขณะเดียวกันทำไมครับ?”
เยี่ยมบุญมองเขา “ในขณะเดียวกันฉันจะประกาศว่า ต่อจากนี้เป็นต้นไป ฉันจะตัดขาดความสัมพันธ์พ่อลูกกับส้มเปรี้ยว ส้มเปรี้ยวไม่ใช่คนของตระกูลภักดีพิศุทธิ์อีกต่อไป!”
“ว่าไงนะ?” ทุกคนตกตะลึง
มายมิ้นท์และเปปเปอร์ก็ตะลึงเช่นกัน
ไม่คิดว่าเยี่ยมบุญจะตัดขาดความสัมพันธ์พ่อลูกกับส้มเปรี้ยวจริงๆ!
แต่ไม่นานมายมิ้นท์ก็เข้าใจ สงบสติอารมณ์ขึ้นมา
ที่เยี่ยมบุญตัดสินใจในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อนี้ ก็เหมาะสมที่สุดแล้วจริงๆ
ประการแรก ส้มเปรี้ยวไม่ใช่ลูกสาวแท้ๆ ของเขา ส้มเปรี้ยวทำให้เอสซีเดือดร้อนจนเป็นแบบนี้ เขาตัดขาดความสัมพันธ์ก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักหวานอมเปรี้ยว
โดนสาดกรดก็รีบล้างออกสิ กว่าจะขับรถไปถึงก็กัดกร่อนไปถึงกระดูกแล้ว วางเรื่องมาให้พระนางฉลาดมาก แต่ดันไม่รู้ว่าต้องล้างด่วน...
ก็แค่บอกอีธานว่านังส้มเน่าอาจจะเป็นคนวางแผนฆ่าแฟนเก่า แล้วให้อีธานสะกดติตมันให้สารภาพ ก็จบแล้ว จะง่าวอะไรขนาดนั้น...