รักหวานอมเปรี้ยว นิยาย บท 413

“ทำไมถึงเป็นแบบนี้……”มายมิ้นท์กำโทรศัพท์ที่อยู่ในมือแน่น น้ำเสียงทุ้มเล็กน้อย

เธอต้องการเปิดโปงเจินเจิน แต่เรื่องจริงกับตบหน้าเธออย่างแรงหนึ่งที

เจินเจินเป็นลูกแท้ๆของเยี่ยมบุญจริงๆ!

“หรือว่าผลการตรวจพิสูจน์ดีเอ็นเอผิดพลาด?”มายมิ้นท์กัดฟัน

แม้ว่าจะพูดเช่นนี้ แต่ในใจเธอก็รู้ดีว่าโอกาสผิดพลาดนั้นน้อยมาก

หน่วยงานหนึ่งอาจจะผิดพลาดได้ แต่ผลของหลายๆหน่วยงานก็ออกมาเหมือนกัน คงไม่น่าจะผิดพลาดกันหมด?

ทามทอยส่ายศีรษะ“ไม่น่าผิดหรอก มีสองหน่วยงานที่ทำความร่วมมือกับทางการ อย่าว่าแต่เจินเจินเลย แม้แต่เยี่ยมบุญอยากจะเข้าแทรกแซงก็ไม่สามารถทำได้ ดังนั้น……”

เมื่อพูดถึงจุดนี้ เขาจึงปิดตาลง พร้อมสูดหายใจเข้าลึก“มายมิ้นท์บางทีเจินเจินอาจจะเป็นชวนชมจริงๆ และพวกเราก็พาชวนชมตัวจริงไปให้พวกเขาโดยบังเอิญ ”

“……”มายมิ้นท์ไม่พูดไม่จา เปลือกตาหย่อนลงราวกับว่ากำลังคิดอะไรอยู่

ทามทอยจึงพูดขึ้นอีกว่า:“ตอนนี้เยี่ยมบุญก็ได้รับผลตรวจพิสูจน์ดีเอ็นเอแล้ว กำลังไปหาคุณ ผมเดาว่าเขาน่จะไปหาเรื่องคุณแน่ แต่ว่าคุณวางใจเถอะ ผมจะไม่ให้เกิดเรื่องอะไรกับคุณแน่”

ที่จริงเยี่ยมบุญต้องการที่จะหาเรื่องเขามากกว่า แต่ว่าเขาเป็นคนของตระกูลชุติเกษม เยี่ยมบุญคงไม่มีความกล้านั้น ดังนั้นเยี่ยมบุญจึงทำได้เพียงระบายความโกรธแค้นทั้งหมดมาลงที่มายมิ้นท์

มายมิ้นท์เม้มริมฝีปากแดงพลางพูดขึ้นว่า“วางใจเถอะ ฉันจัดการได้ค่ะ”

พูดจบเธอก็วางโทรศัพท์ลง

เปปเปอร์หยิบโทรศัพท์มา เมื่อเห็นหน้าจอโทรศัพท์แสดงให้เห็นว่าวางสายแล้ว ตากะพริบตาปริบๆแล้วถามขึ้นว่า“คุณคุยอะไรกับทามทอยเหรอครับ?”

มายมิ้นท์คลึงที่แก้ม“ทามทอยบอกว่าผลการตรวจออกมาแล้ว เจินเจินไม่ใช่ลูกสาวของสองสามีภรรยาสุเวทย์ เป็นของสองสามีภรรยาเยี่ยมบุญ เป็นเรื่องบังเอิญที่เขาและฉันได้พบตัวจริง ชวนชม”

เธอหัวเราะกับตัวเอง

เมื่อเปปเปอร์เห็นเธอเป็นเช่นนี้ ในใจก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกผิด

แต่ว่าไม่นานเขาก็กำหมัดแน่น พลางกดทับความรู้สึกผิดและพูดขึ้นสองคำด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ“เหรอครับ……”

“ใช่สิ”มายมิ้นท์เงยหน้าขึ้นถอนหายใจ “คุณว่าโลกใบนี้ ทำไมมันดราม่าจัง?”

ริมฝีปากของเปปเปอร์ขยับเล็กน้อย ขณะที่กำลังจะพูด ก็มีคนเคาะประตูห้องเสียงดัง อีกทั้งเสียงนั้นยังรุนแรงและรวดเร็วมาก เห็นได้ชัดว่าคนด้านนอกนั้นรีบร้อนจนไม่สามารถรอคอยได้

“เปิดประตู มายมิ้นท์ เปิดประตูให้ผมนะ!”ด้านนอกมีเสียงของเยี่ยมบุญดังเข้ามา น้ำเสียงนั้นไม่สามารถปกปิดความโอหังและความไร้กังวลได้เลย

เป็นอย่างที่ทามทอยพูดไว้เมื่อกี้นี้ เยี่ยมบุญมาหาเรื่องเธอ

มายมิ้นท์กำมือแน่น“ประธานเปปเปอร์พยุงฉันขึ้นรถเข็นเถอะค่ะ ฉันจะไปเปิดประตู”

“คุณอย่าไปเลย เดี๋ยวผมไปเอง”เปปเปอร์กดไหล่ของเธอลงแน่น จากนั้นลุกขึ้นแล้วเดินไปที่ทางออก

เปปเปอร์เปิดประตูออกมา

เยี่ยมบุญคิดว่าเป็นมายมิ้นท์ กำลังคิดที่จะโยนผลตรวจพิสูจน์ดีเอ็นเอที่อยู่ในมือใส่หน้ามายมิ้นท์ แต่กลับต้องเผชิญกับใบหน้าที่ไร้อารมณ์ของเปปเปอร์ จู่ๆความโกรธก็ค่อยๆคลายลง ขมวดคิ้วพลางพูดขึ้นว่า:“ประธานเปปเปอร์ ทำไมเป็นคุณมาเปิดประตูล่ะครับ?”

ทำไมคนคนนี้ยังไม่กลับไปอีก?

เปปเปอร์ปล่อยมือจากลูกบิดประตู สายตาจับจ้องไปที่เขาอย่างเย็นชา พลางหรี่ตามองไปที่เอกสารที่อยู่ในมือของเขา“คุณมาหามายมิ้นท์ทำไม?”

“มาหาเธอทำไมน่ะเหรอ?”เยี่ยมบุญฮึด้วยน้ำเสียงเย็นชา“จะมีอะไรอีกล่ะ?ก็มาคิดบัญชีกับเธอหน่ะสิ เธอพูดเองไม่ใช่เหรอว่าชวนชมไม่ใช่ลูกสาวของผม?ตอนนี้ผลตรวจพิสูจน์ดีเอ็นเอก็ออกมาแล้ว แน่นอนว่าผมจะต้องอยากตบหน้าเธอแรงๆสักหนึ่งที ประธานเปปเปอร์ เรื่องนี้เป็นความแค้นระหว่างผมตระกูลภักดีพิศุทธิ์กับมายมิ้นท์ ผมหวังว่าคุณจะไม่เข้ามาแทรกแซง”

“คุณกำลังข่มขู่ผมอยู่เหรอ?”เปปเปอร์เลิกคิ้ว

ภายใต้การคุ้มครองของเขา ใครก็ห้ามลงมือกับมายมิ้นท์เด็ดขาด ไม่งั้นถ้ายื่นมือเข้ามาช่วยข้างหนึ่ง เขาก็จะตัดแขนนั้นทิ้งข้างหนึ่ง

สีหน้าของเยี่ยมบุญทั้งแดงทั้งเขียวคล้ำอารมณ์ไม่คงที่ และไม่พูดออกมาแม้แต่ประโยคเดียว

เพราะว่าการเผชิญหน้ากับคำข่มขู่และคำเตือนของเปปเปอร์ เขาไม่มีวิธีการอื่นจริงๆ

อย่าว่าแต่เขาสู้เปปเปอร์ไม่ได้เลย ต่อให้เป็นตระกูลภักดีพิศุทธิ์ก็ต่อกรกับตระกูลนวบดินทร์ไม่ได้เช่นเดียวกัน ต่อให้เป็นช่วงเวลาที่รุ่งเรืองที่สุดของตระกูลภักดีพิศุทธิ์ก็ไม่ได้

ดังนั้นเขาจึงทำได้เพียงวางมือ

มองไปยังมายมิ้นท์ที่นั่งอยู่บนรถเข็นทางด้านหลังของเปปเปอร์ สีหน้าของเยี่ยมบุญเต็มไปด้วยรอยยิ้มที่เยาะเย้ยถากถางพลางพูดขึ้นว่า:“ไม่เลวเลยมายมิ้นท์ คุณมีความสามารถในการหลอกล่อผู้ชายจริงๆ และสามารถหลอกล่อประธานเปปเปอร์ให้กลายเป็นสุนัขที่ซื่อสัตย์ขนาดนี้ เพื่อคุณแล้ว เขากลับข่มขู่ทั้งตระกูลภักดีพิศุทธิ์แล้ว”

มายมิ้นท์พอฟังออกว่าเขากำลังเย้ยหยันเธอ ว่าเธอเก่งแต่หลบอยู่ข้างหลังผู้ชาย พึ่งพาผู้ชาย แม้ว่าในใจจะโกรธ แต่ว่าก็ไม่ได้แสดงสีหน้าอะไรออกมา ริมฝีปากพูดขึ้นอย่างราบเรียบว่า:“ดูเหมือนว่าประธานเยี่ยมบุญจะอิจฉาฉันไม่น้อยเลย ถ้าอย่างนั้นประธานเยี่ยมบุญ ก็ลองพิชิตใจประธานเปปเปอร์สิ ดูสิว่าประธานเปปเปอร์จะยอมให้คุณพิชิตใจได้ไหม ไม่แน่ประธานเยี่ยมบุญอาจจะโชคดีคุณอาจจะพิชิตใจประธานเปปเปอร์ได้จริงๆก็ได้ เมื่อถึงเวลานั้นคุณก็สามารถให้ประธานเปปเปอร์ออกหน้าแทนคุณได้แล้ว”

“มายมิ้นท์!”เปปเปอร์ขมวดคิ้ว ตะโกนออกมาอย่างไม่พอใจ

เธอพูดอะไรของเธอ?

เยี่ยมบุญโมโหจนสีหน้าแดงก่ำ นิ้วที่สั่นชี้ไปยังมายมิ้นท์“คุณ……คุณ……”

“ฉันทำไมเหรอ?ฉันพูดอะไรผิดเหรอ?”มายมิ้นท์เอียงศีรษะ สีหน้าแสดงออกซึ่งความไร้เดียงสา “ฉันว่าเมื่อสักครู่ที่ประธานเยี่ยมบุญพูดเช่นนี้ แสดงให้เห็นชัดเจนเลยว่ากำลังอิจฉาฉันอยู่ อิจฉาฉัน ฉันก็เลยให้ประธานเยี่ยมบุญทำเช่นนี้ไง ก็ไม่ผิดนะ”

ปั้ง!

เยี่ยมบุญล้มลงไปที่พื้น ร่างกายกระตุกเล็กน้อย

มายมิ้นท์ตกใจเสียงล้มลงที่พื้นของเขา จึงรับถามขึ้นว่า“ประธานเปปเปอร์ เขาเป็นอะไรไปเหรอ?”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักหวานอมเปรี้ยว