“ครับ”ผู้จัดการแผนกได้ตอบกลับ และอธิบายต่อ
เพียงแต่ว่าผู้คนในห้องประชุมเหล่านั้นฟังไม่เข้าหัวเลย แอบส่งซิกกันอย่างลับๆ สายตานั้นเต็มไปด้วยความอยากรู้อยากเห็น แทบจะล้นออกมาแล้ว
พวกเขาสงสัยกันมาก ว่าคนที่คุยในโทรศัพท์นั้นเป็นใครกันแน่ ทำให้ประธานเปปเปอร์เปลี่ยนเป็นคนอ่อนโยนได้เช่นนั้นอย่างคาดไม่ถึง
ต้องรับรู้ ว่าก่อนหน้านั้นความอ่อนโยนของประธานเปปเปอร์ เคยมอบให้แค่คุณหนูสองของตระกูลภักดีพิศุทธิ์ที่อยู่ในเรือนจำ แต่หลังจากที่ได้ยกเลิกการหมั้นหมายกับคุณหนูสองแล้ว พวกเขาก็ไม่เคยเห็นท่าทีความอ่อนโยนใดๆ บนใบหน้าของประธานเปปเปอร์อีกเลย
แต่ในตอนนี้ความอ่อนโยนนั่นได้ปรากฏขึ้นอีกครั้ง เป็นไปได้ไหม ว่านี่หมายถึงประธานเปปเปอร์มีความรักครั้งใหม่อีกครั้ง?
เหอะๆ มันช่างเร็วซะเหลือเกิน
พอเผชิญหน้ากับสายตาที่เย้ยหยันของทุกคน เปปเปอร์รู้ว่าพวกเขากำลังคิดอะไรอยู่ เขาไม่เพียงแต่ไม่โกรธ แต่เขากลับมีความสุขที่ได้เห็นพวกเขาเข้าใจผิด
“พอได้แล้ว ตั้งใจฟังที่อธิบายให้ดี”หลังจากที่คนเหล่านี้ซุบซิบกันชั่วครู่แล้ว เปปเปอร์ก็เคาะโต๊ะและตักเตือนพวกเขา
เขายังต้องการจบการประชุมให้เร็ว เพื่อไปโรงพยาบาลไปดูมายมิ้นท์อยู่เลย
เขาหวังว่า ในระหว่างที่ดวงตาของเธอหายดีหมดนั้น คนที่มองเห็นเป็นคนแรก คือเขา!
เมื่อได้ยินคำตักเตือนของเปปเปอร์แล้ว ทุกคนเหมือนนั่งอยู่บนพรมเข็ม ทิ้งความคิดที่ยุ่งเหยิงในใจทันที และจริงจังขึ้นมา
โรงพยาบาลนิวเวอร์
ป้าทิพย์ได้เก็บโทรศัพท์ กลับไปที่หน้าห้องCTอีกครั้ง นั่งอยู่บนเก้าอี้แถวนั้น รอมายมิ้นท์ออกมา
หลังจากรอได้ประมาณครึ่งชั่วโมง มายมิ้นท์และการันต์ก็ตามกันออกมาจากข้างในทีละคน
ป้าทิพย์รีบลุกขึ้นไปหา“คุณมายมิ้นท์”
“ป้าทิพย์。”มายมิ้นท์ตอบกลับ
ป้าทิพย์มองไปที่การันต์“คุณหมอการันต์คะ คุณมายมิ้นท์เป็นยังไงบ้างคะ?”
“ลิ่มเลือดหายไปหมดแล้ว อย่างช้าที่สุดก็เป็นคืนพรุ่งนี้ ที่ดวงตาของเธอสามารถหายดีหมด ในวันนี้ก็อาจจะค่อยๆเห็นสิ่งของทีละนิด”การันต์ล้วงมือเข้าไปในกระเป๋าเสื้อกาวน์ของเขาแล้วกล่าว
ป้าทิพย์ดีใจมาก“ถ้าเช่นนั้นก็ดี”
“เอาล่ะ ไปหาจักษุแพทย์ก่อน เพื่อดูสภาพของลูกตา”การันต์ได้กล่าวอีกครั้ง
มายมิ้นท์ตอบกลับ“โอเคค่ะ”
ป้าทิพย์ประคับประคองเธอไว้ ได้เดินตามหลังของการันต์ ไปที่แผนกจักษุวิทยาอีกครั้ง
ตรวจเสร็จก็เกือบจะเที่ยงแล้ว
มายมิ้นท์ได้รับยาตามที่เภสัชกรรมให้มา และเตรียมตัวกลับแล้ว
แต่ป้าทิพย์ที่อยู่ข้างๆนั้น กลับดูแต่โทรศัพท์อยู่ตลอด ใบหน้าเต็มไปด้วยความกังวล
คุณชายใหญ่ทำอะไรอยู่เนี่ย นี่ก็ผ่านไปนานมากแล้วนะ ทำไมถึงยังไม่มาสักที?
หากยังไม่มาอีก คุณมายมิ้นท์ก็จะกลับแล้วนะ!
“ป้าทิพย์?ป้าทิพย์?”มายมิ้นท์ที่กำลังรอป้าทิพย์มาช่วยประคับประคองเธอ แต่ดูเหมือนว่าป้าทิพย์จู่ๆ ก็หายไปอย่างนั้นแหละ ทำให้ในใจของมายมิ้นท์นั้นตื่นตระหนกขึ้นมาทันที
เธอมองสิ่งของไม่ชัด หากว่าป้าทิพย์ไม่อยู่ เธอไม่รู้ว่าจะต้องทำยังไงดี
ป้าทิพย์ได้ยินเสียงตะโกนที่มีความหวาดระแวงเล็กน้อยของมายมิ้นท์ จึงรีบสนองมาได้ หันมองไปทางมายมิ้นท์“คุณมายมิ้นท์คะ ฉันอยู่นี่ค่ะ”
เสียงของป้าทิพย์ ราวกับเป็นยากล่อมประสาท ได้ขจัดความกลัวในใจของมายมิ้นท์ออกไปทันที และได้สงบลงในที่สุด
เธอหายใจด้วยความโล่งอก จากนั้นพูดด้วยความไม่พอเล็กน้อยว่า:“ป้าทิพย์ เมื่อสักครู่คุณไปไหนหรือคะ?”
“ฉันไม่ได้ไปไหนเลยค่ะ เพียงแค่คิดเรื่องอะไรแล้วเหม่อลอยไปหน่อย ขอโทษด้วยค่ะคุณมายมิ้นท์” ป้าทิพย์พูดด้วยความรู้สึกผิด
มายมิ้นท์ขมวดคิ้ว “ช่างเถอะ พวกเรากลับกันเถอะค่ะ”
“……อื้อ” ป้าทิพย์พยักหน้า แต่ในใจกลับถอนหายใจอยู่
ดูเหมือนว่าคุณชายใหญ่จะไม่ทันเจอคุณมายมิ้นท์แล้ว
ป้าทิพย์ประคับประคองมายมิ้นท์เดินออกไปทางประตูของโรงพยาบาล
พอมาถึงที่จอดรถแล้ว ป้าทิพย์หยิบกุญแจรถออกมา แล้วพูดกับมายมิ้นท์ว่า:“คุณมายมิ้นท์คะ คุณยืนอยู่ข้างๆนี้ก่อน อย่าขยับไปไหน ฉันไปเปิดประตูรถก่อนค่ะ”
“โอเคค่ะ”มายมิ้นท์พยักหน้า
ป้าทิพย์ได้ลอยตัวกลางอากาศ แล้วล้มลงกับพื้นโดยตรง กรีดร้องด้วยความเจ็บปวด ใบหน้าของเธอซีดขาวไปหมด เหงื่อเย็นไหลออกมาที่หน้าผากของเธอ อยากลุกขึ้นก็ลุกไม่ขึ้นเลย
แม้ว่ามายมิ้นท์จะมองไม่เห็นว่าเกิดอะไรขึ้น แต่อิงจากเสียงที่ดังเมื่อสักครู่ พร้อมกับเสียงที่กรีดร้องด้วยความเจ็บปวดของป้าทิพย์ เธอก็เข้าใจได้ทันที ว่าป้าทิพย์โดนทำร้ายแล้ว
เพราะว่าเธอรู้สึกได้ถึงเมื่อสักครู่ คนที่จับแขนขวาเธอไว้ ได้ปล่อยแข็นไป
เกรงว่าก็ตือแข็นนั้น ที่ไปทำร้ายป้าทิพย์
เมื่อนึกถึงตรงนี้ มายมิ้นท์เขม็งตาด้วยความไม่พอใจ ดวงตาแดงก่ำขึ้นมา ในใจเธอทั้งกังวลและทั้งหวาดกลัว
สิ่งที่กังวลคือ ป้าทิพย์จะได้รับความบาดเจ็บหนักเกิน ไม่ว่ายังไงก็ยังเป็นผู้สูงอายุคนหนึ่ง ทนไม่ไหวกับการโดยทำร้าย
และสิ่งที่หวาดกลัวคือ ป้าทิพย์บาดเจ็บหนักเกิน ก็จะไม่มีใครมาหยุดสองคนนี้ไว้ได้เลยจริงๆ
แน่นอน ว่าความคิดของมายมิ้นท์ก็ได้รับการยืนยันในไม่ช้า
เธอรู้สึกว่ามือที่แขนขวาของเธอได้ปล่อยแล้ว และในวินาทีต่อมา ข้อเท้าของเธอนั้นมีมือสองมือเพิ่มขึ้นมา
มือทั้งสองข้างนั้น ยกเท้าของเธอขึ้นโดยตรง จากนั้นทั้งร่างของเธอก็ถูกยกขึ้นมาหมด
“อือออ……”มายมิ้นท์ส่ายหัวอย่างรุนแรง ขาทั้งสองข้างของเธอยังคงเตะอยู่ ความกลัวในใจของเธอทำให้เธอหายใจไม่ออก
พวกเขาจะทำอะไรกันแน่?
ชายร่างใหญ่ที่จับเท้าของเธอ ไม่พอใจอย่างมากที่มายมิ้นท์ไม่อยู่นิ่ง และใบหน้าที่ชั่วร้ายอยู่แล้วของเขา ก็ยิ่งชั่วร้ายมากขึ้นไปอีก
นิ้วมือของเขาล็อกแน่นขึ้น จับข้อเท้าทั้งสองข้างของเธอเจ็บจนทนไม่ไหว
และนี่ยังไม่พอ ชายร่างใหญ่ถึงกับขู่อย่างเย็นชาว่า “ถ้ายังขยับอีก ผมจะจับกระดูกข้อเท้าของคุณให้แหลกทันที และทำให้คุณกลายเป็นง่อย!”
ประโยคนี้ทำให้ร่างกายของมายมิ้นท์แข็งทื่อในทันใด
จับกระดูกข้อเท้าของเธอให้แหลก!
แม้ว่าจะฟังดูค่อนข้างเป็นไปไม่ได้สักเท่าไหร่ แต่เธอไม่คลางแคลงใจเลยว่าคนคนนี้กำลังพูดเล่นอยู่ เขาทำเรื่องแบบนี้ออกมาได้อย่างแน่นอน
เพราะคนคนหนึ่งจะเลวจะร้ายได้ขนาดไหน เธอเคยได้พบเจอที่ส้มเปรี้ยวนั่นแล้ว ฉะนั้นเมื่อเทียบกับคนที่เลวยิ่งกว่าส้มเปรี้ยวแล้ว แน่นอนว่ามี และค่อนข้างเยอะอีกด้วย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักหวานอมเปรี้ยว
โดนสาดกรดก็รีบล้างออกสิ กว่าจะขับรถไปถึงก็กัดกร่อนไปถึงกระดูกแล้ว วางเรื่องมาให้พระนางฉลาดมาก แต่ดันไม่รู้ว่าต้องล้างด่วน...
ก็แค่บอกอีธานว่านังส้มเน่าอาจจะเป็นคนวางแผนฆ่าแฟนเก่า แล้วให้อีธานสะกดติตมันให้สารภาพ ก็จบแล้ว จะง่าวอะไรขนาดนั้น...