รักหวานอมเปรี้ยว นิยาย บท 464

นี่ตกลงมันเรื่องอะไรกัน?

เด็กทารกคนนี้คือใครกัน?

มายมิ้นท์จ้องมองไปบนรูปถ่าย ใบหน้าที่ขาวซีดนั่น ราวกับว่าเป็นร่างที่ไร้วิญญาณแล้วของเด็กทารก แล้วฝ่ามือก็อดไม่ได้ที่จะกำเข้าหากันแน่น ในดวงตาเต็มไปด้วยความตกตะลึง ความสงสัย ความไม่เข้าใจ แถมยังมีความแปลกประหลาดที่พูดไม่ออกอยู่เสี้ยวหนึ่ง

วันที่ตรงมุมขวาล่าง เป็นวันที่ตอนที่เธออายุสี่เดือนกับอีกห้าวัน แต่ว่าเด็กในรูปถ่าย กลับไม่ใช่เธอ

เธอแค่ไม่เคยเห็นรูปถ่ายตอนช่วงแรกเกิดถึงประมาณสองเดือนเท่านั้น รูปตอนต่อ ๆ มา เธอเคยได้เห็นหมดแล้ว

ตอนที่เธออายุสี่เดือนนั้น ไม่ได้มีหน้าตาแบบนี้เลยสักนิด!

ดังนั้นเด็กทารกที่อยู่ในรูปถ่ายนี้ ไม่มีทางคือเธอแน่นอน

แต่ถ้าไม่ใช่เธอ แล้วทำไมวันที่ตรงมุมขวาล่าง กลับไปเชื่อมโยงกับรูปถ่ายด้านหน้าหมดเลยล่ะ?

และที่สำคัญไม่ได้เชื่อมโยงกันแค่วันที่เท่านั้น แม้แต่หน้าตาของเด็กทารกก็ยังเชื่อมโยงกันเลย

เดือนแรกยังไม่พูดถึง เด็กทารกเดือนแรก ไม่มีทางที่จะมองหน้าตาออกได้อยู่แล้ว

แต่ตั้งแต่เดือนที่สองเป็นต้นไป หน้าตาของเด็กก็สามารถแสดงออกได้ชัดเจนแล้ว

แล้วหน้าตาของเด็กในรูปถ่ายตอนสี่เดือนห้าวันใบนี้ ก็มีความคล้ายคลึงกับ หน้าตาของเด็กในรูปถ่ายตอนสองเดือนเป็นต้นมาเลย

ซึ่งก็หมายความว่า นี่ไม่ใช่อัลบั้มรูปที่บันทึกการเกิดของเธอเลย เด็กทารกที่อยู่ในรูป ไม่ใช่เธอมาตั้งแต่ต้นแล้ว

เธอนึกว่านั่นคือเธอ เป็นรูปถ่ายตอนแรกเกิดของเธอ แต่จริง ๆ แล้วมันไม่ใช่

เพราะฉะนั้นเธอถึงไม่รู้สึกถึงความคุ้นเคยเลย

ใช่ซิ ถ้าเป็นรูปถ่ายของตัวเอง ทำไมตัวเองจะไม่มีความรู้สึกคุ้นเคยเลยล่ะ

เพราะว่าไม่ใช่ ดังนั้นถึงได้ไม่มีไง

แต่ว่าทำไม วันเกิดของเด็กคนนี้ กลับเหมือนกับวันเกิดของเธอเลยล่ะ?

มายมิ้นท์กัดริมฝีปากล่างไป ในใจก็เกิดความซับซ้อนและความว้าวุ่นขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก

แล้วก็ในเวลานี้เอง ประตูห้องหนังสือก็เกิดเสียงเคาะประตูดังขึ้นมา

มายมิ้นท์เงยหน้ามองไป แล้วก็เห็นลาเต้ที่ยืนอยู่นอกประตูที่เปิดออก ส่งยิ้มมาให้เธอ “ยาหยี คุณยังหาสมุดบันทึกไม่เจออีกเหรอ? ผมปูที่นอนเสร็จหมดแล้วนะ”

“หาเจอแล้ว” มายมิ้นท์นวดหัวคิ้วแล้วตอบกลับไป

ลาเต้กะพริบตาขึ้น “หาเจอแล้วทำไมถึงไม่ออกมา? แล้วอีกอย่าง สีหน้าคุณก็ดูไม่ค่อยดีด้วย เกิดเรื่องอะไรขึ้นเหรอ?”

เขายกฝีเท้าเดินเข้าไป

มายมิ้นท์เม้มปากตอบกลับไปว่า “ฉันหาอัลบั้มรูปเจอเล่มหนึ่ง”

“แล้วยังไงต่อ?” ลาเต้ถามขึ้น

มายมิ้นท์กำฝ่ามือเล็กน้อย “ตอนแรกฉันนึกว่าเป็นอัลบั้มรูปตอนเด็กของฉัน แต่สุดท้ายกลับพบว่ามันไม่ใช่”

“หมายความว่ายังไง?” ลาเต้รู้สึกฟังไม่ค่อยเข้าใจ

มายมิ้นท์ลุกขึ้นมา ปิดอัลบั้มรูปลง จากนั้นก็เปิดออกใหม่อีกครั้ง แล้วเปิดไปที่หน้าแรกที่เห็น แล้วชี้ไปที่เด็กทารกคนเมื่อกี้ แล้วก็พูดขึ้นว่า “เต้ นายว่าคนนี้คือฉันไหม?”

ลาเต้ก้มหน้าลงไปมอง จากนั้นก็พยักหน้าขึ้น “ใช่ซิ ด้านล่างก็มีวันเกิดของคุณอยู่ไม่ใช่เหรอ”

มายมิ้นท์ตอบอืมไปคำหนึ่ง “ใช่ เพราะว่าวันที่อันนี้ ฉันก็เลยนึกว่าเด็กคนนี้คือฉัน แต่นายดูต่อไปข้างหลังซิ”

“ข้างหลังทำไมเหรอ?” ถึงแม้ลาเต้จะถามขึ้นมาอย่างแปลกใจ แต่มือก็กระทำไปตามที่บอก เปิดออกดูด้านหลังไปทีละหน้าทีละหน้า

ในตอนที่เห็นรูปถ่ายอายุหนึ่งเดือนของเด็กทารก ปฏิกิริยาบนใบหน้าของลาเต้ยังไม่ค่อยเปลี่ยนแปลงเท่าไหร่ แต่ตอนที่เปิดไปถึงรูปถ่ายตอนอายุสองเดือนนั้น หัวคิ้วของลาเต้ก็ขมวดกันขึ้นมา จากนั้นความรวดเร็วในการเปิดดูหน้าหลัง ๆ ก็เห็นได้ชัดว่ารวดเร็วขึ้นมาก

ผู้ช่วยเหมันตร์ผลักประตูเดินเข้ามา “ประธานเปปเปอร์ครับ”

“นายมาในเวลาแบบนี้ มีธุระอะไร?” เปปเปอร์เงยหน้าขึ้นมามองเขาทีหนึ่ง แล้วก็หันสายตากลับไปอยู่ที่เอกสาร แล้วถามด้วยน้ำเสียงจาง ๆ ขึ้นมา

ผู้ช่วยเหมันตร์เดินมาถึงหน้าเตียงผู้ป่วย “คือแบบนี้ครับ คราวที่แล้วคุณให้ผมไปสืบเรื่องแฟนเก่าก่อนแต่งงานของคุณนาย ผมสืบได้เรื่องแล้วครับ”

พอได้ยินคำพูดนี้ ปากกาของเปปเปอร์ก็หยุดนิ่งไป แล้วก็เงยหน้าขึ้นมาทันที “นายว่าอะไรนะ? สืบได้เรื่องแล้วเหรอ?”

“ใช่ครับ” ผู้ช่วยเหมันตร์พยักหน้า “คนคนนั้นนามสกุลคหบวร ชื่อว่าเกรียงไกรครับ เป็นนายใหญ่ของตระกูลคหบวรแห่งเมืองน้ำรุ้งครับ”

“คือตระกูลคหบวรเหรอ” เปปเปอร์หรี่ตาลง ท่าทีดูเคร่งขรึม

ตระกูลคหบวรถึงจะไม่ได้ใหญ่โตเท่าตระกูลนวบดินทร์ แต่กำลังอำนาจก็มีพอสมควรอยู่ อยู่ในเมืองน้ำรุ้งก็ถือเป็นผู้นำคนหนึ่งเหมือนกัน

คิดไม่ถึงว่าคนที่อยู่ในใจมารดา จะเป็นเกรียงไกรของตระกูลคหบวรไปได้

“ฉันจำได้ว่า เกรียงไกรแต่งงานแล้วใช่ไหม?” เปปเปอร์ถามขึ้นด้วยใบหน้าเคร่งขรึม

ผู้ช่วยเหมันตร์ตอบรับขึ้นมา “ใช่ครับ เมื่อยี่สิบปีก่อน เขาแต่งงานกันคุณหนูของตระกูลธาราบวรในเมืองน้ำรุ้ง และก็เป็นเพราะเรื่องนี้ คุณนายถึงได้ฆ่าตัวตายขึ้นมา เมื่อก่อนเกรียงไกรกับคุณนายเป็นคู่รักที่รักกันมาก แต่สุดท้ายตระกูลมหาณธรก็เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ และตอนนั้นเกรียงไกรคนนั้นก็ไม่ได้เป็นผู้สืบทอดของตระกูลคหบวร และไม่ใช่หนึ่งในตัวเลือกของผู้สืบทอดด้วยซ้ำ ดังนั้นถึงจะเป็นคุณชายของตระกูลคหบวร แต่ก็ช่วยอะไรตระกูลมหาณธรไม่ได้ และด้วยเหตุนี้ สุดท้ายคุณนายจึงต้องเลิกรากับเกรียงไกรไป จากนั้นก็มาแต่งงานเชื่อมสัมพันธ์กับคุณท่านครับ”

พูดมาถึงตรงนี้ ผู้ช่วยเหมันตร์ก็เหล่มองไปที่เปปเปอร์ทีหนึ่ง แล้วก็พูดขึ้นอีกว่า “พอแต่งงานแล้ว คุณนายกับเกรียงไกรก็ติดต่อกันมาตลอด เรื่องนี้คุณท่านก็ทราบดีครับ เพราะว่าคุณท่านไม่ได้รักคุณนาย ดังนั้นก็เลยไม่ได้สนใจอะไร ด้วยเหตุนี้การติดต่อของคุณนายกับเกรียงไกร จึงแทบจะไม่ได้ปิดบังเลย เพราะฉะนั้นผมแค่ไปสืบก็สืบเจอเรื่องราวมากมายเลย รวมทั้งเรื่องที่เกรียงไกรรอให้คุณนายหย่ามาตลอด แต่พอรอไปสิบปีแล้ว ตอนที่เห็นว่าคุณนายจะหย่ากับคุณท่านได้แล้ว แต่ในช่วงเวลาที่สำคัญแบบนั้น จู่ ๆ เกรียงไกรกลับประกาศแต่งงานขึ้นมา”

“ดังนั้นอยู่ภายใต้การสะเทือนใจอย่างใหญ่หลวงแบบนั้น แม่ของฉันก็เลยฆ่าตัวตายไป” เปปเปอร์กำหมัดไว้แน่น และพูดขึ้นด้วยใบหน้าเย็นชา

ผู้ช่วยเหมันตร์พยักหน้าไป “ใช่ครับ”

“สามารถยืนยันได้ไหมว่าเกรียงไกรเป็นผู้ที่อยู่เบื้องหลังการฆาตกรรมพ่อฉัน?” เปปเปอร์จ้องมองเขา

นี่เป็นสิ่งที่เขาอยากรู้มากที่สุด

ผู้ช่วยเหมันตร์ส่ายหน้าอย่างน่าเสียดาย “ขอโทษครับประธานเปปเปอร์ ยืนยันไม่ได้ครับ ก่อนหน้านี้ทีมสืบค้นของเรา ได้ไปตรวจหาลายนิ้วมือที่บ้านที่เช่าชั่วคราวนั่นแล้ว ทีมค้นหาของเราตรวจเจอสิ่งที่น่าสงสัยของผู้คนมากมายจากที่นั่น แต่ก็ไม่มีอันไหนที่เป็นของเกรียงไกรเลย ดังนั้นพวกเราจึงยังไม่มีทางที่จะมั่นใจได้เลยว่า เกรียงไกรเป็นคนที่ฆ่าคุณท่าน หรือเป็นผู้ร้ายที่วางแผนให้คุณเกิดอุบัติเหตุขึ้นได้เลยครับ”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักหวานอมเปรี้ยว