“อีกเรื่องหนึ่ง ครูที่หาให้กับปีโป้ หาถึงไหนแล้ว?”แลดูเหมือนว่าเปปเปอร์มีความเหนื่อยล้าเล็กน้อย ถามพร้อมกับยกมือขึ้นและนวดตรงขมับ
ผู้ช่วยเหมันตร์ได้ตอบกลับ“หาครูครบหมดแล้วครับ เป็นบุคคลอัจฉริยที่สุดจากทั่วทุกมุมโลก รอคุณชายรองแข่งเสร็จกลับมาแล้ว ก็สามารถเข้าที่แล้วครับ”
เปปเปอร์พยักหน้าเล็กน้อย“ถ้าเช่นนั้นก็ดี คุณออกไปก่อนเลย”
“ครับ”ผู้ช่วยเหมันตร์พยักหน้าตอบ และได้หันกลับเดินออกไป
เปปเปอร์หยิบโทรศัพท์ขึ้นมา เปิดหน้าจอโทรศัพท์ และมองดูรูปของมายมิ้นท์บนวอลล์เปเปอร์โทรศัพท์ เขาใช้นิ้วโป้งของเขาแตะตรงแก้มของเธอในจอ พูดด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาว่า:“สิ่งที่ผมสามารถทำให้คุณได้ ก็คงจะมีเพียงเท่านี้แล้ว……”
และในอีกด้านหนึ่ง ถือของขวัญที่ซื้อให้กับคุณนายราศรีนั้น มายมิ้นท์ได้มาถึงที่ตระกูลรัตติพีระ
พอคุณนายราศรีได้ยินเสียงรถยนต์ ก็รีบเดินออกมาต้อนรับ“มิ้นท์ ในที่สุดคุณก็มาสักที”
“คุณป้าคะ พวกเราเจอกันอีกแล้วนะคะ ”มายมิ้นท์มองดูที่คุณนายราศรี และยิ้มพร้อมกับเข้าไปโอบกอดทักทาย
ทั้งสองคนได้กอดเข้าด้วยกัน
สักครู่หลังจากนั้น คุณนายราศรีก็ได้ปล่อยมายมิ้นท์ มือทั้งสองได้จับที่ใบหน้าของมายมิ้นท์ไว้ และตั้งใจดูอย่างละเอียด“ให้ฉันดูหน่อย นี่แค่ไม่เจอกันนานเท่าไหร่เอง ทำไมผอมลงอีกแล้ว สีหน้าก็ดูซีดเผือดมาก หรือว่าช่วงนี้ไม่ได้พักผ่อนดีๆหรือเปล่า?”
ดวงตาของมายมิ้นท์มีความกระวนกระวายแวบวาบเข้ามา พยักหน้าและตอบว่า:“ใช่ค่ะ ช่วงนี้งานยุ่งไปหน่อยค่ะ”
เธอไม่กล้าที่จะบอกกับคุณนายราศรีว่าช่วงนี้ตัวเธอประสบอะไรมาบ้าง
มิเช่นนั้นคุณนายราศรีคงต้องเป็นลมแน่ๆ
พอได้ยินมายมิ้นท์บอกว่างานยุ่งเกินไป คุณนายราศรีรู้สึกเอ็นดูเป็นอย่างมาก จับมือของเธอไว้ไม่ปล่อย “คุณเนี่ย ต่อให้ยุ่งมากแค่ไหน พอถึงเวลาพักผ่อน ก็ต้องพักผ่อนด้วยสิ อย่าให้ร่างกายเหนื่อยล้ามาก เพราะยังไงอายุคุณก็ยังน้อยอยู่ อนาคตยังอีกยาวไกลนะ”
“ฉันรู้แล้วค่ะ ขอบคุณคุณป้าที่เป็นห่วงนะคะ”หัวใจของมายมิ้นท์รู้สึกอบอุ่น และเธอก็ตอบด้วยรอยยิ้ม
ในทันใดนั้น ลาเต้ก็ได้ถือของขวัญที่มายมิ้นท์จะให้คุณนายราศรีออกมาจากโรงรถ“พอได้แล้วครับคุณแม่ พวกคุณไม่ต้องยืนอยู่ข้างนอกแล้ว รีบเข้าบ้านกันเถอะครับ”
“อ้อใช่แล้ว ดูความจำฉันสิ”คุณนายราศรีได้ตบหน้าผากตัวเองเบาๆ “พอได้เจอมิ้นท์ก็ดีใจใหญ่เลย จนลืมเลยว่ายังไม่ได้เข้าบ้านกันเลยเนี่ย มาๆๆ พวกเราเข้าบ้านกันก่อน”
พอพูดจบ เธอได้จับมายมิ้นท์แล้วก็เดินตรงเข้าไปในคฤหาสน์
ลาเต้ถือของขวัญและเดินตามข้างหลัง
พอมาถึงห้องรับแขก ลาเต้ที่เพิ่งจะเอาของขวัญให้กับคุณนายราศรี ก็ถูกคุณนายราศรีใช้ให้ไปรินชาหั่นผลไม้
และคุณนายราศรีกับมายมิ้นท์ก็นั่งลงบนโซฟา เริ่มเปิดของขวัญกัน
เมื่อของขวัญเปิดออกมา ในนั้นเป็นต่างหูคู่หนึ่งที่ดูเรียบง่าย แต่การออกแบบช่างดูหรูหราและมีน้ำหนักที่เบา ซึ่งเหมาะสำหรับผู้หญิงในวัยของคุณนายราศรีอย่างมาก
หลังจากที่คุณนายราศรีเห็นแล้ว ก็ชอบในทันที ดวงตาประกายวาววับจ้องมองไปที่ต่างหู“ช่างสวยงามจริงๆ มิ้นท์เกรงใจมากเลย”
“คุณป้าชอบก็ดีแล้วค่ะ”มายมิ้นท์ตอบกลับด้วยรอยยิ้ม
“ชอบค่ะ ชอบแน่นอนค่ะ”คุณนายราศรีพยักหน้า พูดด้วยความดีอกดีใจว่า:“เพียงแค่เป็นสิ่งที่มิ้นท์เป็นคนให้นั้น คุณป้าก็ชอบหมดเลยค่ะ มานี่สิมิ้นท์ มาใส่ให้คุณป้าหน่อย”
“ได้สิคะ”มายมิ้นท์ตอบตกลงโดยทันที จากนั้นก็ลุกขึ้นมา เอาต่างหูที่อยู่ตรงหูของคุณนายราศรีลงมาก่อน จากนั้นจึงจะหยิบต่างหูของตัวเองที่ซื้อให้เธอมา และใส่ให้กับเธอ
หลังจากที่ใส่แล้ว คุณนายราศรีสะบัดหัวก่อนสองครั้ง ลองสัมผัสความรู้สึกที่สบายของจี้ต่างหู จากนั้นมองไปที่มายมิ้นท์แล้วถามว่า“มิ้นท์คะ สวยงามไหมคะ?”
“สวยงามค่ะ ยังไงคุณป้าก็ดูสวยงามหมดค่ะ”มายมิ้นท์พูดพร้อมคำชม
คุณนายราศรีดีใจใหญ่เลย จับต่างหูที่อยู่ตรงหูแล้วพูดว่า:“มิ้นท์มีสายตาเฉียบแหลมและพูดเก่งกว่าอีก ถ้าเปลี่ยนเป็นคุณลุงและเต้หมอนั่น พวกเขาไม่มีทางทำเช่นนี้แน่นอน ต้องพูดคำพูดที่ชายสเตรทพูดกันว่าก็แค่ต่างหูเองไม่ใช่หรือใส่อะไรก็เหมือนกันหมดนั่นแหละ”
มายมิ้นท์ได้ขยับริมฝีปากที่แดงก่ำของเธอ กำลังจะพูดอะไรนั้น
เสียงของลาเต้ ได้ดังมาจากด้านหลัง“คุณแม่ครับ คุณแม่อย่าแม้แต่จะเข้าใจผมผิดนะครับ ผมไม่ใช่คนแบบนั้นสักหน่อยครับ ทุกครั้งที่คุณแม่ใส่เครื่องประดับอะไรก็จะถามผมว่าสวยไหม ผมไม่เคยชมคุณแม่เมื่อไหร่กัน ทั้งๆที่เป็นคุณพ่อหรือเปล่าที่พูดว่าเหมือนกันหมดเนี่ยครับ”
เขาได้เดินเข้ามา พร้อมกับนำจานผลไม้ในมือวางตรงหน้าของมายมิ้นท์“ที่รักกินผลไม้ครับ”
“ห้ะอะไรอีก ยังไม่รีบไปอีกนะ!”คุณนายราศรียิ่งอยู่ยิ่งรังเกียจและเร่งให้รีบไป
ลาเต้ตอบกลับด้วยความเข้าใจ“ผมจะไปเดี๋ยวนี้ครับ”
เขาได้ลุกจากที่นั่งโซฟา และเดินเข้าห้องครัวอีกรอบหนึ่ง
ขณะที่เขาเดินไปอยู่ บ่นอยู่ภายในใจว่าตัวเองก็ไม่ได้ทำผิดอะไรนะ ท่านแม่ของเขา ทำไมถึงมองดูเขาด้วยสายตาที่น่ารังเกียจราวกับมองขยะเช่นนี้?
หลังจากที่ลาเต้ไปแล้ว ที่ห้องรับแขกก็เหลือเพียงแต่คุณนายราศรีและมายมิ้นท์แล้ว
มายมิ้นท์วางแก้วน้ำลง และได้ถามเรื่องสำคัญ“คุณป้าคะ ก่อนหน้านั้นคุณป้าให้เต้มาบอกกับฉัน ว่าพอฉันมีเวลาว่างก็ให้มาหาคุณป้าที่ตระกูลรัตติพีระ บอกว่ามีเรื่องจะคุยกับฉัน มันเป็นเรื่องอะไรกันหรือคะ?”
พอได้ยินคำพูดของมายมิ้นท์ รอยยิ้มบนใบหน้าของคุณนายราศรีค่อยๆจางลง และเคร่งขรึมขึ้นมาทันที
มายมิ้นท์เห็นเช่นนี้ จิตใจก็หนักแน่นขึ้นในทันใด“คุณป้าคะ เป็นอะไรหรือคะ?”
คุณนายราศรีพยักหน้า และได้กลับมายิ้มอีกครั้งหนึ่ง “ไม่มีอะไรหรอกค่ะ ฉันแค่กำลังคิดว่า บอกคุณในเวลานี้ มันจะดีไหม ”
“เอ๊ะ?”ใบหน้ามายมิ้นท์เต็มไปด้วยความสงสัย
คุณนายราศรีไม่ได้พูดอะไร ก้มลงไปใต้โต๊ะน้ำชา และหยิบกล่องเล็กๆออกมาหนึ่งกล่อง จากนั้นก็เอาให้เธอ “นี่เป็นสิ่งที่คุณแม่ของคุณเอาให้ฉันก่อนที่จะตายจากไป ให้ฉันช่วยรักษาเอาไว้ รอวันหนึ่ง เมื่อคุณรู้ต้นกำเนิดของตัวเอง ก็ให้ฉันเอาให้คุณ”
“สักครู่นะคะคุณป้า คุณป้าพูดอะไรนะคะ อะไรคือรู้ต้นกำเนิดของตัวเองคะ?คำพูดของคุณป้าหมายถึงอะไรคะ?”มือของมายมิ้นท์ที่ได้จับกล่องไว้ก็กำแน่นขึ้นอย่างกะทันหัน สีหน้าของเธอก็สั่นสะเทือน และหัวใจของเธอก็กระวนกระวายใจมากขึ้นไปอีก
พอคุณนายราศรีเห็นเธอเช่นนี้ ภายในใจอดสงสารไม่ได้ แต่ก็เอ่ยปากพูดมันออกมา“อันที่จริง……คุณไม่ใช่ลูกสาวที่แท้จริงของคุณพ่อและคุณแม่ของคุณ”
โครมๆ!
คำพูดนี้เหมือนดั่งฟ้าร้อง ผ่าลงตรงศีรษะของมายมิ้นท์ จนทำให้ตัวเธอตกตะลึง และมึนงง ราวกับว่าโลกทั้งใบกำลังหมุนไม่หยุด
“ฉัน……ฉันไม่ใช่ลูกสาวที่แท้จริงของคุณพ่อคุณแม่ของฉัน?”หลังจากนั้นไม่นาน มายมิ้นท์ก็ได้ตั้งสติ มองไปที่คุณนายราศรีด้วยแววตาที่เหม่อลอย และพูดคำเหล่านี้ออกมาด้วยเสียงที่แหบแห้งและยากลำบาก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักหวานอมเปรี้ยว
โดนสาดกรดก็รีบล้างออกสิ กว่าจะขับรถไปถึงก็กัดกร่อนไปถึงกระดูกแล้ว วางเรื่องมาให้พระนางฉลาดมาก แต่ดันไม่รู้ว่าต้องล้างด่วน...
ก็แค่บอกอีธานว่านังส้มเน่าอาจจะเป็นคนวางแผนฆ่าแฟนเก่า แล้วให้อีธานสะกดติตมันให้สารภาพ ก็จบแล้ว จะง่าวอะไรขนาดนั้น...