ถึงแม้ว่าจะพูดแบบนี้ แต่น้ำเสียงที่ไม่มั่นใจและไม่สบายใจของชนศักดิ์มันกลับปกปิดไว้ไม่อยู่
เห็นได้ชัดว่า เขาก็ไม่มั่นใจว่าเปปเปอร์จะสืบไม่เจอพวกเขา
เขาพูดแบบนี้ตอนนี้ ก็เพื่อปลอบใจตัวเองแค่นั้น
และในตอนนี้เอง คนรับใช้ก็รีบวิ่งเข้ามา “ประธานชนศักดิ์ครับ ผู้ช่วยของประธานนวบดินทร์กรุ๊ปมาแล้วครับ”
ได้ยินคำว่านวบดินทร์กรุ๊ป หัวใจของชนศักดิ์ก็เต้นแรง กล้ามเนื้อบนใบหน้าของเขาสั่นเทา “อะไรนะ? ใครมา?”
“คุณพ่อคะ!” เรด้ากำมือด้วยความหวาดกลัว
คนรับใช้มองชนศักดิ์แล้วตอบว่า “ผู้ช่วยเหมันตร์ของประธานเปปเปอร์ครับ”
มั่นใจแล้วว่าตัวเองไม่ได้ฟังผิดไป สีหน้าของชนศักดิ์ก็เปลี่ยนไป เขาลุกขึ้นยืน กำมือแล้วเดินไปเดินมาหน้าโซฟา “เขามาทำอะไรที่นี่ เขามาทำอะไรที่นี่?”
“ผู้ช่วยเหมันตร์บอกว่า เขามาขอความยุติธรรมให้ประธานเปปเปอร์ครับ” พูดถึงตรงนี้ คนรับใช้ก็เงยหน้าขึ้นมองเขาอย่างระมัดระวัง “บอกว่าคุณและคุณหนูกล้าทำคิดร้ายกับประธานเปปเปอร์ครับ…”
ปั้ง!
คนรับใช้ยังพูดไม่จบ ชนศักดิ์ก็ทรุดตัวลงบนโซฟา
เรด้าตกใจจนตัวสั่น “เขารู้แล้ว คุณพ่อคะ เขารู้แล้ว!”
ชนศักดิ์อ้าปากค้าง จากนั้นก็เบิกตากว้างมองเธอด้วยดวงตาสีแดงก่ำที่มีความโมโห “ฉันได้ยินแล้ว!”
“งั้นประธานชนศักดิ์ คุณจะเจอผู้ช่วยเหมันตร์ไหมครับ? ตอนนี้เขาอยู่ข้างนอกครับ” คนรับใช้ถาม
ชนศักดิ์กำหมัดแน่น “เจออะไรกัน นายไปบอกเขา บอกว่าฉันไม่เจอเขา ฉันไม่รู้ว่าอะไรคือการคิดร้ายกับประธานเปปเปอร์ ฉัน...”
“เกรงว่าคงจะไม่เป็นไปตามความต้องการของประธานชนศักดิ์แล้วครับ ผมเข้ามาแล้ว ถึงแม้ว่าประธานจางจะไม่อยากเจอผม ก็คงต้องเจอแล้วล่ะครับ” ผู้ช่วยเหมันตร์ยิ้มแล้วพาบอดี้การ์ดหนึ่งคนและทนายความหนึ่งคนเดินเข้ามา
รอยยิ้มของเขา สายตาที่มองไปที่ชนศักดิ์และลูกสาวของเขา ราวกับปีศาจที่จะมาเอาชีวิตของพวกเขาไป ทำให้พวกเขาตกใจ
โดยเฉพราะชนศักดิ์
เดิมทีเขาไม่อยากเจอผู้ช่วยเหมันตร์ อยากจะใช้การหลบหนีแก้ไขวิกฤติที่อยู่ตรงหน้า
แต่คิดไม่ถึงว่า ผู้ช่วยเหมันตร์จะเดินเข้ามาโดยที่ไม่พูดอะไรสักคำแบบนี้
ความหวังของเขา ก็คงไม่มีทางเป็นจริงแล้ว
สุดท้าย ไม่รู้ว่าผู้ช่วยเหมันตร์และชนศักดิ์สองพ่อลูกพูดอะไรกัน
ตอนที่ผู้ช่วยเหมันตร์ออกไป สองพ่อลูกก็ราวกับไร้จิตวิญญาณ นั่งเหม่อลอยอยู่บนโซฟาอยู่นาน
และผู้ช่วยเหมันตร์ มองดูเอกสารที่ชนศักดิ์เซ็นในมือ เขายิ้มและจับแว่นตาด้วยท่าทีที่ราวกับว่าสุนัขจิ้งจอก
หนึ่งชั่วโมงต่อมา เขามาถึงคอนโดของเปปเปอร์
“ประธานเปปเปอร์ครับ ทางฝั่งของตระกูลจักรีศานส์ ผมจัดการเรียบร้อยแล้วครับ ชนศักดิ์เซ็นเอกสารฉบับนั้นแล้วครับ ผ่านไปพักหนึ่ง ก็จะมีคนซื้อตลาดหุ้นของพวกเขา ถึงตอนนั้น ตระกูลจักรีศานส์ก็จะหายไปจากเมืองเดอะซีครับ” ผู้ช่วยเหมันตร์ยื่นเอกสารให้เปปเปอร์
เปปเปอร์รับเอกสารมาแต่ไม่เปิดดู เขาวางมันไว้บนโต๊ะ “ฉันรู้แล้ว”
ความจริงตามหลักแล้ว เรื่องที่ตระกูลจักรีศานส์คิดร้ายกับเขา ไม่ควรที่จะมีจุดจบที่น่าอนาถแบบนี้
แต่ก่อนที่ผู้ช่วยเหมันตร์จะไปจัดการเรื่องข่าวลือที่ตระกูลจักรีศานส์ เขาบังเอิญหาเจอว่าตระกูลจักรีศานส์เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับความวุ่นวายของเทนเดอร์กรุ๊ปเมื่อหกปีก่อน
หกปีก่อน ชนศักดิ์ถือโอกาสตอนที่เทนเดอร์กรุ๊ปกำลังสั่นคลอน ออกเงินทุนก่อนหนึ่ง อยากจะขายตลาดหุ้นสุดท้ายของเทนเดอร์กรุ๊ป ดูดเลือดสุดท้ายของเทนเดอร์กรุ๊ปให้หมด
แต่สุดท้ายเพราะเงินทุนจำนวนน้อยของชนศักดิ์ ทำให้เขาไม่สามารถดูดเลือดของเทนเดอร์กรุ๊ปไปได้ ดังนั้นเทนเดอร์กรุ๊ปถือรอดมาได้ ไม่ได้ล้มละลายตั้งแต่ตอนนั้น
แต่ไตรภูมิก็ยังเป็นหนี้ก้อนโต สุดท้ายก็กระโดดตึกฆ่าตัวตาย
ถึงแม้ว่าเขาจะไม่ค่อยเข้าใจ ว่าหกปีก่อนทำไมไตรภูมิถึงอ่อนแอจนต้องฆ่าตัวตายเพียงเพราะว่าเป็นหนี้ แต่เรื่องที่เขามั่นใจก็คือ ชนศักดิ์มีส่วนเกี่ยวข้องทำให้ไตรภูมิฆ่าตัวตาย
ดังนั้นการที่เขาโค้นล้มจักรีศานส์กรุ๊ปในครั้งนี้ ก็ถือว่าช่วยมายมิ้นท์แก้แค้น
ไม่อย่างนั้นเธอคงไม่รู้ ว่านอกจากตระกูลภักดีพิศุทธิ์ เธอยังมีศัตรูอื่นอีกด้วย
“ยังมีอีกเรื่องหนึ่งครับประธานเปปเปอร์” สำหรับเรื่องที่เปปเปอร์ไม่อยากดูเอกสาร ผู้ช่วยเหมันตร์ไม่ได้สนใจ
เพราะเอกสารอยู่ตรงนั้น เขาอยากดูเมื่อไหร่ก็ค่อยดู
ผู้ช่วยเหมันตร์รู้ว่าตัวเองพูดถูกแล้ว เขาก็พูดอีกครั้ง “ชุดนี้คือตัวช่วยที่ดีที่สุดไม่ใช่เหรอครับ คุณลองส่งชุดนั้นไปให้เธอ ดูก่อนว่าคุณมายมิ้นท์คิดยังไง?”
เปปเปอร์ฟังคำพูดของเขา เขาก็เงยหน้าขึ้น “นายพูดมีเหตุผล งั้นก็ลองดู”
“โอเคครับ งั้นผมจะให้คนไปเอาชุดมาจากศุลกากร” ผู้ช่วยเหมันตร์พูด
เปปเปอร์อืมแล้วพูดว่า “ไปเถอะ”
ผู้ช่วยเหมันตร์พยักหน้าแล้วเดินออกไป
รัตติพีระกรุ๊ป
หลังจากที่มายมิ้นท์จอดรถแล้ว เธอก็เดินเข้าไปในห้องโถง
เธอไม่ค่อยมาที่นี่บ่อยนัก อย่างน้อยก็ไม่ได้มาบ่อยเท่าลาเต้ไปที่เทนเดอร์กรุ๊ป
ดังนั้นคนส่วนใหญ่ที่นี่จึงไม่รู้จักเธอ
แล้วเธอก็จะเดินขึ้นไปเลยเหมือนที่ลาเต้ไปที่เทนเดอร์กรุ๊ปไม่ได้ แต่ต้องไปลงทะเบียนที่แผนกต้อนรับก่อน
“สวัสดี ฉันต้องการพบประธานลาเต้ค่ะ” มายมิ้นท์ยืนพูดอยู่หน้าแผนกต้อนรับ
แผนกต้อนรับหยิบเอกสารลงทะเบียนออกมา “สวัสดีค่ะคุณผู้หญิง โปรดระบุชื่อของคุณด้วยค่ะ ฉันจะได้นัดให้คุณ”
“มายมิ้นท์ค่ะ” มายมิ้นท์พูดชื่อตัวเอง
แผนกต้อนรับที่กำลังจะเขียนก็หยุดชะงัก จากนั้นก็รีบเงยหน้าขึ้นมองเธออย่างรวดเร็ว จ้องมองหน้าเธออยู่นาน ราวกับกำลังยืนยันอะไรบางอย่าง
หลังจากนั้นไม่นาน แผนกต้อนรับก็เก็บเอกสารลงทะเบียนแล้วพูดกับมายมิ้นท์อย่างเป็นกันเอง “ที่แท้ก็คือคุณมายมิ้นท์นี่เอง”
“คุณรู้จักฉันเหรอ?” มายมิ้นท์ตกใจ
แผนกต้อนรับพยักหน้า “ประธานลาเต้บอกกับแผนกต้อนรับไว้ บอกให้พวกเราจำชื่อและหน้าตาของคุณมายมิ้นท์เอาไว้ ถ้าคุณมา ก็ไม่จำเป็นต้องแจ้งเขา ให้คุณเข้าไปได้เลยค่ะ แต่ว่าคุณมายมิ้นท์คะ ขอโทษด้วยนะคะ วันนี้ประธานลาเต้ไม่อยู่ที่บริษัทค่ะ”
“ไม่อยู่ที่บริษัท?” มายมิ้นท์ขมวดคิ้ว “แล้วเขาอยู่ที่ไหน?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักหวานอมเปรี้ยว
โดนสาดกรดก็รีบล้างออกสิ กว่าจะขับรถไปถึงก็กัดกร่อนไปถึงกระดูกแล้ว วางเรื่องมาให้พระนางฉลาดมาก แต่ดันไม่รู้ว่าต้องล้างด่วน...
ก็แค่บอกอีธานว่านังส้มเน่าอาจจะเป็นคนวางแผนฆ่าแฟนเก่า แล้วให้อีธานสะกดติตมันให้สารภาพ ก็จบแล้ว จะง่าวอะไรขนาดนั้น...