“......” บรรดาผู้ปกครองโมโหจนพูดไม่ออก
“ผมชนะแล้ว! ผมชนะแล้ว!” ปีโป้วิ่งมาหามายมิ้นท์ ในขณะที่ยังคงหายใจหอบอยู่ แต่กลับมีความตื่นตระหนกและความตื่นเต้นที่ไม่อาจเก็บซ้อนเอาไว้ได้อยู่ในน้ำเสียงด้วย “เมื่อกี้ผมเพิ่งจะ strikeลูกแบบหล่อระเบิดไปเลย! พี่เห็นหรือเปล่า ได้ถ่ายเอาไว้หรือเปล่า?”
“เปล่า” มายมิ้นท์ลูบผมลง ทำสีหน้านิ่งเฉยและไม่ตื่นเต้นดีใจเลย ราวกับว่าคนที่ปรบมือให้ปีโป้คนนั้นไม่ใช่ตัวเองเลย
“พี่ พี่......พี่พูดมั่วๆแล้ว ผมเห็นชัดๆว่าพี่น่ะ......”
“ถ้าแพ้แล้วนายกับพี่ชายของนายก็จะเสียหน้า ไม่ใช่ฉัน ฉันมีอะไรน่าดูงั้นเหรอ? เลิกขวางทางฉันได้แล้ว ฉันจะไปช่วยนายเซ็นสัญญา” มายมิ้นท์ผลักปีโป้ออกไป ในขณะที่กำลังเดินไปหาโค้ชที่อยู่ด้านนั้น
เวลาที่พูดคุยกับโค้ช เธอก็พูดด้วยความเกรงใจและมีมารยาทว่า “ขอโทษค่ะ ต้องขอรบกวนเวลาของคุณแล้ว”
ปีโป้ “......”
ทามทอยถ่ายภาพท่าทางที่ตื่นตระหนกตกใจนั้นของปีโป้เอาไว้ ต่อมา ก็โอบไหล่ของเขาและถามด้วยรอยยิ้มว่า “ได้ยินมาว่าตอนที่มายมิ้นท์อยู่ที่ตระกูลนวบดินทร์ นายแกล้งเธอทุกวันเลยนี่ ตอนนี้โลกหมุนเวียนเปลี่ยนผันซะแล้ว รสชาติที่ถูกเธอแกล้งเป็นยังไงบ้างล่ะ?”
“ผมเป็นผู้ชาย ก็เลยไม่คิดที่จะไปต่อล้อต่อเถียงกับเธอต่างหาก!” ปีโป้ทำเสียงฮึดฮัด
“มัวทำอะไรอยู่!” มายมิ้นท์หันหน้ากลับมา แล้วเหลือบมองปีโป้ด้วยสายตาที่ไม่พอใจ “ไม่อยากเล่นบาสเก็ตบอลแล้วใช่ไหม รีบมาลงชื่อสิ!”
เพราะเป็นเรื่องสำคัญที่เกี่ยวข้องกับชีวิตของตนเอง ปีโป้จึงรีบวิ่งไปเซ็นชื่อในสัญญาอย่างรวดเร็ว
โค้ชบอกกับนักเรียนและบรรดาผู้ปกครองว่า เมื่อถึงเวลานั้นจะส่งรถมารับพวกเขาไปที่ฐานฝึก หลังจากที่พูดคุยกันเล็กน้อย โค้ชก็พาคนเดินออกไปแล้ว
และบรรดาผู้ปกครองก็ทยอยนำลูกของตัวเองเดินจากไปเช่นกัน
หลังจากที่ปีโป้กับมายมิ้นท์เดินออกมาจากสนามบาสเก็ตบอล พวกเขาก็ดูสัญญาในมือซ้ำไปซ้ำมา และมีความรู้สึกว่ามันไม่เป็นความจริง
อันที่จริงตอนที่มายมิ้นท์ไม่รับโทรศัพท์ในตอนบ่าย เขาได้โทรหาส้มเปรี้ยว เพราะอยากจะให้เธอช่วยเหลือตัวเองสักหน่อย
แต่ส้มเปรี้ยวกลับพูดอ้อมค้อมว่าเธอกำลังพักฟื้นในโรงพยาบาล จึงไม่สะดวกที่จะช่วย และยังพูดอีกว่า “ปีโป้ เชื่อฟังคำพูดของพี่ชายนายเถอะ อย่าทำให้เขาโกรธเลย”
เขารู้สึกสิ้นหวังไปหมด แต่ทว่าต่อมา มายมิ้นท์ก็เป็นคนที่มาช่วยเขา
มายมิ้นท์ไม่เพียงแต่จะช่วยสั่งสอนผู้ปกครองเหล่านั้นให้เขา เธอยังคงยืนอยู่เคียงข้างเขาอย่างเด็ดเดี่ยวแน่วแน่ และไม่ได้ทำให้เขากลัวเปปเปอร์อีกด้วย เธอเอาแต่พูดว่า “เล่นให้ดีๆนะ” เท่านั้น
ปีโป้เงยหน้าขึ้นไปมองมายมิ้นท์ที่อยู่ข้างหน้า
สีของท้องฟ้าค่อยๆมืดลง แสงสายันต์ในยามตะวันรอนก็ไม่มีแล้ว แต่ทว่ามายมิ้นท์ที่อยู่ในดวงตาของเขากลับถูกปกคลุมไปด้วยแสงสีทองเหลืองอร่าม และประกายสีทองระยิบระยับ เต็มไปด้วยความสง่างามน่าเกรงขาม
ราวกับเป็นพระผู้ช่วยชีวิตของเขา!
ปีโป้ยัดสัญญาลงในกระเป๋านักเรียน แล้วรีบก้าวไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว และเดินเคียงข้างไปพร้อมกับมายมิ้นท์ “พี่สะใภ้ วันนี้คุณสวมชุดนี้แล้วดูดีจริงๆ รูปร่างก็เฉียบขาดมากเลย ถ้าซูเปอร์โมเดลอยู่ต่อหน้าคุณจะต้องหม่นหมองไร้สีสันไปเลยแน่ๆ!”
“......” พอมายมิ้นท์หันศีรษะไปเห็นดวงตาที่จริงใจและน่ารักของเด็กหนุ่มเข้า เธอก็รู้สึกขนลุกขนพองไปทั่วร่างกาย
มายมิ้นท์ลูบแขนไปมา แล้วพูดว่า “ฉันไม่ใช่พี่สะใภ้ของนายแล้วนะ เรียกพี่สาวเถอะ”
“ครับ พี่สาว” ปีโป้เปลี่ยนคำพูดใหม่อย่างรวดเร็ว
มายมิ้นท์ช่วยเหลือเขามากขนาดนี้ ด้วยเหตุนี้แม้ว่าเธอจะให้เขาเรียกว่าบรรพบุรุษ เขาก็สามารถเรียกออกมาได้โดยไม่ลังเลเลยสักนิด
ในระหว่างที่เดินมาถึงรถ ปีโป้ก้าวไปเปิดประตูด้านหลังอย่างรวดเร็ว “พี่สาวขึ้นรถครับ ระวังอย่าให้ชนศีรษะนะครับ”
มายมิ้นท์รู้สึกไม่สบายไปทั้งตัว จึงรีบขึ้นรถอย่างรวดเร็ว
“นายทำอะไร?” หลังจากที่ทามทอยเดินเข้ามา เขาก็ใช้มือผลักชายหนุ่ม แล้วถามด้วยความสนใจเป็นอย่างยิ่ง “เอาใจใส่อดีตพี่สะใภ้ขนาดนี้ ตกหลุมรักเธอเข้าแล้วใช่ไหม?”
“พี่ทามทอยพี่กำลังคิดฟุ้งซ่านอะไรอยู่เนี่ย ผมเพิ่งสิบแปดเองนะ!”
เปปเปอร์เพิ่งจะพิมพ์คำว่า “เปปเปอร์” ลงในช่องป้อนข้อมูลและกำลังจะส่งออกไป แต่จู่ๆเขากลับนึกขึ้นได้ว่าเขาหย่ากับมายมิ้นท์ไปแล้ว ถ้ามายมิ้นท์รู้เรื่องในคืนนั้น เธอจะต้องอาย แล้วก็ไม่รับความช่วยเหลือใดๆจากเขาอย่างแน่นอน
ท้ายที่สุด เปปเปอร์ก็เลยลบตัวอักษรสองสามคำนั้น แล้วส่งข้อความที่แก้ไขใหม่ออกไปแทน
Z-H: ผมเป็นเพื่อนของทามทอยแล้วก็รู้จักคุณด้วย ทามทอยบอกว่าเขามีการติดต่อทางธุรกิจกับคุณ และอยากจะช่วยให้คุณได้ครอบครองบริษัทดีย์คูเปอร์ด้วยครับ
Z-H: ผมมีเพื่อนอยู่คนหนึ่งตอนที่เขาไปเที่ยวที่ยาบูลี่ สกีรีสอร์ท บังเอิญเห็นเถ้าแก่ของบริษัทดีย์คูเปอร์อยู่ที่นี่ด้วย เขาก็เลยมาพร่ำบ่นอยู่ในกลุ่มเล็กน้อย เงินจำนวนมากที่คุณโอนให้ครั้งก่อน ข้อมูลนี้ก็ถือว่าเป็นข้อมูลที่ผมส่งไปให้คุณฟรีๆก็แล้วกันนะครับ
มายมิ้นท์อ่านข้อความที่ชายคนนั้นตอบกลับอย่างละเอียดถี่ถ้วน แล้วปล่อยวางความระแวดระวังตัวลงมา
ที่แท้ก็เป็นเพื่อนของทามทอยนี่เอง
พอมายมิ้นท์ตอบขอบคุณกลับไปแล้ว ก็เงยหน้าขึ้นมองทามทอยที่กำลังขับรถอยู่อย่างรวดเร็วด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความสงสัย
เพื่อนของทามทอย มาปรากฏตัวต่อหน้าเธอในคืนนั้นเข้าพอดีและเธอก็พุ่งเข้าไปอยู่ในอ้อมแขนของผู้ชายคนนี้โดยบังเอิญอย่างนั้นได้อย่างไร แถมยัง......
ราวกับว่าเขาจะสังเกตเห็นว่ามายมิ้นท์กำลังมองดูตัวเองอยู่ ทามทอยจึงหยุดพูดกับปีโป้ แล้วเหลือบมองมายมิ้นท์ผ่านกระจกมองหลัง “มายมิ้นท์สายตานี้ของคุณมันอันตรายจัง หรือว่าคำพูดที่ผมพูด มันทำให้คุณหวั่นไหวหรือเปล่าครับ?”
“คำพูดอะไรเหรอ?” ปีโป้ซักถามทามทอยทันที “พี่พูดอะไรกับเธอ ทำไมเธอจะต้องหวั่นไหวด้วยล่ะ?”
“นายอยากรู้เหรอ?” ทามทอยเลิกคิ้วขึ้น แล้วตั้งใจพูดอย่างช้าๆ “ตอนที่เพิ่งมาฉันพูดกับประธานมายมิ้นท์ว่า ฉันดีกว่าและหล่อกว่าพี่ชายนายไง......”
“คนขับรถทามทอย” มายมิ้นท์เหลืออดเหลือทน “ไม่อยากขับรถก็ไสหัวไปซะ ฉันจะขับเอง!”
ทามทอยทำเสียงไม่พอใจ และไม่ได้พูดประโยคนั้นให้จบ แต่พูดกับปีโป้ว่า “ว่ากันว่าอยู่ใกล้หมึกสีดำก็จะเปื้อนสีดำ คุณมายมิ้นท์อยู่กับพี่ชายของนายมาหกปี อารมณ์ก็เลยใกล้เคียงกับพี่ชายของนายมาก นายว่าใช่ไหม?”
ปีโป้ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วจึงพยักหน้าและพูดว่า “มันก็ใช่จริงๆนะ”
“......”มายมิ้นท์อยากจะควานหาเทปกาวออกมาจากใต้เบาะรถสักม้วนหนึ่ง เพื่อที่จะมาปิดปากของทามทอยเอาไว้จริงๆ!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักหวานอมเปรี้ยว
โดนสาดกรดก็รีบล้างออกสิ กว่าจะขับรถไปถึงก็กัดกร่อนไปถึงกระดูกแล้ว วางเรื่องมาให้พระนางฉลาดมาก แต่ดันไม่รู้ว่าต้องล้างด่วน...
ก็แค่บอกอีธานว่านังส้มเน่าอาจจะเป็นคนวางแผนฆ่าแฟนเก่า แล้วให้อีธานสะกดติตมันให้สารภาพ ก็จบแล้ว จะง่าวอะไรขนาดนั้น...