ในขณะที่ส้มเปรี้ยวกำลังจับแขนของชายคนนั้นอยู่ ก็ยกรอยยิ้มขึ้นมาบนใบหน้า และพูดด้วยน้ำเสียงที่มีชีวิตชีวาออกมาว่า “ฉันนอนหลับไปนานมากขนาดนั้น ก็เลยเล่นสกีไม่แล้ว พอไปถึงลานสกีแล้ว ก็รบกวนคุณครูเปปเปอร์ช่วยสอนฉันหน่อยนะคะ”
เปปเปอร์เหลือบมองที่เท้าของเธอ ขมวดคิ้วและถามว่า “เท้าของคุณไม่มีปัญหาแล้วใช่ไหม?”
“ก็แค่อาการบาดเจ็บเล็กน้อยเองค่ะ อีกอย่างฉันพักอยู่ที่โรงพยาบาลเป็นเวลานานมาก ก็เลยฟื้นคืนเป็นปกตินานแล้วค่ะ” ส้มเปรี้ยวยิ้มอ่อนๆ และจับแขนของเขาอย่างแนบแน่น “นานๆทีคุณถึงจะมีเวลาว่าพาฉันออกมาเที่ยวได้ อะไรที่ว่าสนุกฉันก็อยากจะแชร์ด้วยกันกับคุณนะคะ”
“โอเค” ชายหนุ่มตอบอย่างไม่กระตือรือร้น
หลังจากที่ส้มเปรี้ยวออกจากโรงพยาบาล เธอก็บอกว่าอยากออกมาเที่ยวสักหน่อย และเขาก็ไม่มีงานพอดี ก็เลยออกมาเที่ยวเป็นเพื่อนเธอ แต่เขากลับคิดไม่ถึงเลยว่าเธอจะมาที่ยาบูลี่ สกีรีสอร์ท
คาดว่าพอมายมิ้นท์ได้รับข่าวที่เขาให้ไปในครั้งก่อน ก็คงมาหาภาคินที่นี่แล้ว
……
หลังจากที่เข้าไปในลานสกีแล้ว มายมิ้นท์กับลาเต้ก็ไปที่ร้านเพื่อเช่าอุปกรณ์เล่นสกีให้ครบชุด แล้วไปเปลี่ยนชุดที่ห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า
ชุดสกีกับรองเท้าค่อนข้างเทอะทะเล็กน้อย แต่โชคดีที่มายมิ้นท์ปรับให้เหมาะสมได้อย่างรวดเร็วมาก หลังจากที่ลงไปแล้ว กลับพบว่าบนทางเล่นสกีทุกเส้นมีแขกอยู่เป็นจำนวนมาก
เธอเหลือบมองไป ทุกคนล้วนแต่กำลังสวมชุดสกีอยู่ และดูเหมือนว่าจะเหมือนกันเกือบทั้งหมด...
หลังจากที่หาบนทางเล่นสกีสองสามเส้นแล้ว มายมิ้นท์ก็รู้สึกเหนื่อย แล้วก็อยากจะร้องไห้เล็กน้อย “ลานสกีแห่งนี้ใหญ่เกินไปแล้วลาเต้นายเห็นไหมว่าเถ้าแก่ภาคินอยู่ที่ไหน?”
เมื่อไม่ได้รับการตอบกลับสักพักใหญ่ มายมิ้นท์ก็เลยหันกลับมาแล้วจึงพบว่าไม่มีใครอยู่ข้างหลังเลย
“มิ้นท์มองหาฉันอยู่เหรอ?” ลาเต้ไถลสกีลงมาจากเนินเขาสูงๆ สกีที่อยู่ใต้เท้าล่องลอยขึ้นไปอย่างสวยงาม แล้วหยุดอยู่ตรงหน้ามายมิ้นท์อย่างสุขุมและมั่นคง
มายมิ้นท์โกรธมากจนพูดไม่ออก “ฉันให้นายช่วยหาคน นายหนีไปเล่นสกีอย่างนั้นเหรอ?”
“ที่นี่คนเยอะขนาดนั้น แถมยังอยู่กระจัดกระจายไปหมด แม้แต่ผีก็หาไม่เจอเลย!” ลาเต้ถือสกีขึ้นมา แล้วลากเธอเดินออกไป “ไปเถอะมิ้นท์ ฉันจะสอนเธอเล่นสกีเอง อยู่ภายใต้การดูแลและการสอนของฉัน เธอจะต้องกลายเป็นมือโปรในการเลานสกีที่ทุกคนต้องตกตะลึงพรึงเพริดอย่างแน่นอน!”
“......”
พอมายมิ้นท์มองไปรอบๆสักพักก็รู้สึกว่าลานสกีแห่งนี้ใหญ่มากเลยทีเดียว และมีคนเยอะมากจริงๆ เธอจึงรู้สึกหมดอาลัยตายอยาก
ลาเต้ลากมายมิ้นท์ไปจนถึงทางเล่นสกีระดับเริ่มต้น “ที่นี่เป็นทางเล่นสกีระดับเริ่มต้น มีความลาดชันน้อย เหมาะสำหรับมือใหม่ รอให้เธอปรับตัวให้เข้ากับสกีก่อน ก็จะสามารถสไลด์ได้อย่างคล่องแคล่ว แล้วพวกเราค่อยไปที่เส้นทางเล่นสกีระดับกลางที่มีความลาดชันสูงกว่านี้อีกสักหน่อยกัน”
“มิน่าล่ะที่นี่ถึงได้มีคนน้อยนัก และยังมีคนคอยช่วยอีกต่างหาก ที่แท้ที่นี่ก็คือพื้นที่สำหรับมือใหม่นี่เอง” มายมิ้นท์เข้าใจแล้ว แต่เมื่อเพ่งมองดูอย่างไม่สนใจอะไร กลับเห็นคนสองคนเข้ามาในทางเล่นสกี
ช่างไม่บังเอิญเสียเลยจริงๆ แถมยังเป็นคนที่คุ้นเคยอีกต่างหาก
ส้มเปรี้ยวก็เห็นมายมิ้นท์เช่นกัน แล้วสายตาของเธอก็เย็นชาไปในชั่วพริบตา ไม่นานก็ยกรอยยิ้มขึ้นมาทักทาย “คุณมายมิ้นท์ บังเอิญจริงๆเลยค่ะที่ได้เจอคุณกับแฟนของคุณที่นี่”
“คุณส้มเปรี้ยวเราไม่คุ้นเคยกัน คุณไม่ต้องฝืนใจตัวเองมาทักทายพวกเราก็ได้นะ” ลาเต้พูดอย่างเหนื่อยหน่าย “ถ้าไม่อย่างนั้นคุณก็ออดอ้อนประธานเปปเปอร์ของคุณ แล้วให้เขาซื้อลานสกีแห่งนี้ และห้ามไม่ให้พวกเรามา อย่างนี้เราก็จะได้ไม่ต้องเจอหน้ากันแล้ว”
ส้มเปรี้ยวเม้มริมฝีปากสีชมพูลง แล้วพูดว่า “คุณลาเต้ฉันไม่ได้ทำให้คุณขุ่นเคืองใช่ไหม? คุณพูดเกินไปแล้วนะ.......”
“เรื่องที่สโมสร ทำไมคุณถึงลืมได้อย่างรวดเร็วขนาดนี้เสียแล้วล่ะ?” พอลาเต้พูดจบ ก็อุทานขึ้นมาอีกครั้ง “ก็ใช่นะ ในใจของคุณมีแต่ประธานเปปเปอร์กลัวว่าสามีมือสองคนนี้จะถูกใครแย่งไป แน่นอนว่าคงไม่สนใจที่จะไปจำเรื่องอื่นๆหรอก”
“......”ส้มเปรี้ยวสีหน้าขาวซีดเล็กน้อย ดูอ่อนแอและน่าสงสาร
ลาเต้คนนี้ ทำให้เธอต้องอับอายขายหน้าเป็นอย่างมากอยู่ที่สโมสรในครั้งนั้น ครั้งนี้ได้เจอกัน ปากของเขากลับยิ่งเสียกว่าวันนั้นเสียอีก
ช่างทำให้คนรู้สึกเกลียดชังมากจริงๆ!
“เฮ้ๆ ผมว่าคุณอยู่นะ คุณอย่าทำสีหน้าแบบนี้จะได้ไหม” ลาเต้ทำสีหน้าท่าทางหวาดกลัว และยังพูดกับเปปเปอร์ว่า "ประธานเปปเปอร์ แฟนของคุณเปราะบางยิ่งกว่าดอกไม้ซะอีก คุณต้องคอยดูแลเธอให้ดีๆนะ อย่าให้เธอแตกหักล่ะ!"
ดวงตาของเปปเปอร์จมลึกลงเรื่อยๆ เขาพาส้มเปรี้ยวเดินไปอีกด้านหนึ่งโดยไม่ได้พูดจาอะไร แล้วช่วยเธอปรับอุปกรณ์เล่นสกี
“มายมิ้นท์ ผมจะช่วยคุณ" ลาเต้คุกเข่าลง ช่วยมายมิ้นท์ปรับสกีที่อยู่บนรองเท้าให้มั่นคง และยังพูดพึมพำอย่างเย็นชาอีก "เชอะ! ก็แค่โอ๋คนใครจะทำไม่ได้!"
มายมิ้นท์ถูกเขายั่วเย้าเช่นนี้ ก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมา
“ยิ้มอะไร?” ลาเต้ยืนขึ้นมาเสยผมสั้นๆของตัวเอง แล้วยกริมฝีปากบางๆขึ้นเล็กน้อย “คงไม่ได้คิดว่าฉันหล่อมากใช่หรือเปล่า? มิ้นท์ ถึงฉันจะไม่สมบูรณ์พร้อมเท่าเธอ แต่ฉันก็สามารถทำให้ฉันมีความสุขยิ่งขึ้นได้นะ”
“นายหุบไปเลยนะ” มายมิ้นท์ใช้เสาสกีตีเขาอย่างแรง “อย่าบังคับให้ฉันตบนายนะ!”
มายมิ้นท์จึงไม่ได้ตอบตกลงไปในทันที “ถึงเวลานั้นค่อยว่ากันนะ”
เธอรู้ว่าลาเต้รักตัวเองมาก แต่ตระกูลกิตติภัคโสภณ ยังคงมีเธอกับปู่ของเธอ เธอจึงไม่เต็มใจที่จะไปบ้านของคนอื่นเพื่อทำลายบรรยากาศในเทศกาลเช่นนี้ และคาดว่าคุณปู่ก็ไม่อยากไปเช่นกัน
ลาเต้ถอนหายใจ “เห็นแก่ความหล่อเหล่าขนาดนี้ที่อยู่บนใบหน้าของฉัน คุณแฟน จะไว้หน้าฉันหน่อยได้ไหม?”
“ก็แค่แฟนปลอมๆ!”
เธอไม่อยากฟังเสียงน่ารำคาญของลาเต้ จึงใช้แรงผลักเสาสกีที่อยู่ในมือ แล้วเลื่อนผ่านลาเต้ลงไปข้างล่าง
ยังเลื่อนออกไปได้ไม่กี่เมตร มายมิ้นท์ก็ได้ยินว่ามีเสียงเสียดสีกับพื้นหิมะดังมาจากด้านหลัง
เธอยังไม่ได้มีปฏิกิริยาตอบสนองกลับมา เธอก็รู้สึกเจ็บที่หลัง เสาสกีถูกกระแทกจนค้ำยันไม่อยู่ ทำให้ทั้งตัวของเธอพุ่งลงไปตามทางลาดอย่างรวดเร็ว
“มายมิ้นท์!” ลาเต้ทำสีหน้าเคร่งขรึม แล้วตามเธอขึ้นไปในทันที
ระดับความลาดชันของทางเล่นสกีค่อนข้างสูง มายมิ้นท์ดิ่งลงไปตลอดทาง และไม่มีเสาสกีค้ำยัน ร่างกายของเธอก็เลยไม่สามารถรักษาสมดุลได้อย่างรวดเร็ว แล้วตัวเธอจึงโอนเอนไปมา
มีร่างเงาร่างหนึ่งเลื่อนตามลงมาจากด้านข้าง หลังจากเข้าใกล้มายมิ้นท์แล้ว เขาก็เอื้อมมือออกไปดึงเธอ และวางมือของเธอไว้บนเอวของตัวเองอย่างรวดเร็ว แล้วพูดด้วยน้ำเสียงที่เคร่งขรึมว่า “กอดไว้นะ อย่าปล่อยมือ”
มายมิ้นท์ไม่อยู่ในความตื่นตระหนกตกใจเลย หลังจากที่ได้ยินเสียงแว่วๆที่ดังมาจากหู เธอก็กอดเอวของชายหนุ่มในทันที
เปปเปอร์ควบคุมสกีให้ดิ่งลงเนินอย่างสงบเยือกเย็น ถึงแม้ว่าจะพาคนคนหนึ่งไปด้วยก็ไม่เหนื่อยเลยแม้แต่น้อย ไม่นานเขาก็พุ่งลงเนิน แล้วยืนอย่างมั่นคง
“คุณมายมิ้นท์ ถึงแล้ว” ในขณะที่กำลังมองดูผู้หญิงที่ยังไม่ปล่อยมือ เปปเปอร์ก็เลยพูดออกมา “ทำไม ยังอยากกอดผมนานๆเหรอ?”
เปปเปอร์เหรอ?
หลังจากที่จำเสียงของชายหนุ่มได้แล้ว มายมิ้นท์ก็ปล่อยมือทันที และยังยืดระยะห่างระหว่างคนทั้งสองคนออกอีกด้วย
เธอถอดหมวกกันน็อคออก และแสดงใบหน้าที่เงียบสงบเป็นปกติออกมา “ขอโทษค่ะ ฉันนึกว่าคุณเป็นแฟนของฉัน ดังนั้นฉันก็เลยกอดคุณแน่นมาก ขอบคุณนะคะประธานเปปเปอร์”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักหวานอมเปรี้ยว
โดนสาดกรดก็รีบล้างออกสิ กว่าจะขับรถไปถึงก็กัดกร่อนไปถึงกระดูกแล้ว วางเรื่องมาให้พระนางฉลาดมาก แต่ดันไม่รู้ว่าต้องล้างด่วน...
ก็แค่บอกอีธานว่านังส้มเน่าอาจจะเป็นคนวางแผนฆ่าแฟนเก่า แล้วให้อีธานสะกดติตมันให้สารภาพ ก็จบแล้ว จะง่าวอะไรขนาดนั้น...