รักหวานอมเปรี้ยว นิยาย บท 546

เปปเปอร์ตอบกลับอย่างรวดเร็ว:โอเค ผมรอคุณ

พอได้ยินคำเหล่านี้ มุมปากของมายมิ้นท์ก็ยิ้มกว้างขึ้นอย่างหุบไม่ได้

หลังจากที่เธอได้วางโทรศัพท์แนบไว้ตรงอกของเธอแล้ว จึงจะรีบกลับไปออฟฟิศอย่างเร็วไว และได้เก็บโต๊ะกับกระเป๋าลงไปชั้นล่างแล้ว

หลังจากนั้นไม่นาน มายมิ้นท์ก็ได้มาถึงตรงหน้ารถของเปปเปอร์แล้ว

ขณะที่เธอกำลังจะเคาะกระจกรถนั้น กระจกรถก็ถูกเลื่อนลงมาก่อน

ใบหน้าอันหล่อเหลาของเปปเปอร์นั้นได้เปิดเผยอยู่กลางอากาศนี้ และได้เอียงศีรษะมาทางเธอพร้อมยิ้มให้เธอเล็กน้อย“ขึ้นรถเลย”

“อื้อ”มายมิ้นท์พยักหน้า จากนั้นก็อ้อมไปทางด้านหน้ารถ และขึ้นไปนั่งอีกด้านหนึ่งของรถ

หลังจากที่เธอนั่งลงแล้ว ผู้ช่วยเหมันตร์ก็ได้สตาร์ทรถ

มายมิ้นท์ก้มศีรษะลงมองดูขาของเปปเปอร์ เพื่อดูว่าขาของเขาตอนนี้เป็นอย่างไรบ้างแล้ว

แต่เพราะว่าถูกขากางเกงและถุงเท้าของเขาบังเอาไว้ เธอจึงมองไม่เห็นอะไรเลย

ช่างมันเถอะ อีกสักพักถึงโรงพยาบาลแล้วค่อยว่ากัน

ระหว่างที่คิด มายมิ้นท์ก็ได้นั่งตัวตรง

ในทันใดนั้น เปปเปอร์ก็ได้คุยเรื่องของส้มเปรี้ยวกับเธอขึ้นมา

พอได้ยินว่ายังมีคนอื่นคอยช่วยเหลือส้มเปรี้ยวอยู่เบื้องหลังนั้น คิ้วที่สวยงามของมายมิ้นท์ก็ขมวดเข้าด้วยกันทันที“ดูเหมือนว่าเราจะยังไม่รู้จักส้มเปรี้ยวดีมากนัก”

มิเช่นนั้นคงไม่มีทางที่จะไม่รู้ว่าเบื้องหลังของส้มเปรี้ยวยังมีคนอะไรอยู่อีกบ้าง

เปปเปอร์ไม่พูดสักคำไม่ปริปากพูดว่าถูกหรือไม่ถูกสำหรับคำพูดของเธอ“แต่คุณไว้วางใจได้เลย ผมจะหาตัวเธอออกมาให้ได้เลย”

“ฉันรู้”มายมิ้นท์พยักหน้า

ส้มเปรี้ยวต้องการให้เขาไปตาย แน่นอนว่าเขาไม่มีทางที่จะปล่อยส้มเปรี้ยวไปแน่นอน

ดังนั้นแล้วเธอไม่คลางแคลงใจเลยสักนิด เรื่องที่เขาตัดสินใจอย่างเด็ดขาดที่จะหาตัวส้มเปรี้ยวให้เจอ

เพราะไม่ว่าอย่างไรเขาและส้มเปรี้ยวในตอนนี้ก็ได้เป็นศัตรูชีวิตกันแล้ว หากว่าหาตัวส้มเปรี้ยวไม่เจอ ส้มเปรี้ยวก็ไม่มีทางปล่อยเขาไปเช่นกัน

“ได้ยินมาว่าคุณได้ไปเสาะถามบริษัทรักษาความปลอดภัยหลายแห่งในช่วงสองวันที่ผ่านมาหรือ?”เปปเปอร์เอ่ยปากถามขึ้นมาอย่างกะทันหัน

ความสงสัยแวบวาบผ่านในดวงตามายมิ้นท์“คุณรู้ได้ยังไงหรือ?”

“บริษัทตระกูลนวบดินทร์ก็มีบริษัทรักษาความปลอดภัยอยู่หลายแห่ง และบอดี้การ์ดในนั้น ส่วนใหญ่จะเป็นหน่วยปฏิบัติการพิเศษที่เกษียณจากกองทัพแล้ว ดังนั้นบริษัทรักษาความปลอดภัยอื่นๆ ในเมืองเดอะซี มักจะชอบมายืมคนจากบริษัทตระกูลนวบดินทร์ไปเป็นครูฝึกให้เขา ในตอนที่คุณไปบริษัทรักษาความปลอดภัยของเมื่อวานนั้น บังเอิญถูกบอดี้การ์ดในบริษัทของผมเจอคุณเข้า และบอดี้การ์ดคนนั้นรู้จักคุณ ดังนั้นก็ได้มาบอกกับผมน่ะ?”เปปเปอร์ได้อธิบาย

มายมิ้นท์พยักหน้าด้วยความเข้าใจ“ที่แท้ก็อย่างนี้นี่เอง ใช่แล้วค่ะ ฉันได้ไปที่บริษัทรักษาความปลอดภัยหลายแห่งจริงๆ”

“คุณต้องการจ้างบอดี้การ์ดหรือ?”เปปเปอร์มองดูเธอ

มายมิ้นท์ตอบรับ“ใช่ค่ะ เพราะว่าส้มเปรี้ยวได้หนีไปแล้ว และยังไม่รู้ว่าซ่อนตัวอยู่ที่ไหนอีก ฉันกังวลว่าเธอจะโผล่ออกมาในตอนที่ฉันไม่ได้ตั้งตัวเลยสักนิด แล้วมาทำร้ายฉัน ดังนั้นเลยต้องการหาบอดี้การ์ดสองคน เช่นนี้แล้วฉันก็จะปลอดภัยกว่า แต่ไปมาแล้วบริษัทหลายแห่ง ก็เลือกที่เหมาะสมไม่ได้เลย”

“แล้วทำไมถึงไม่มาหาผมล่ะ?”เปปเปอร์เม้มริมฝีปาก

มายมิ้นท์ก้มศีรษะลง “ฉันรบกวนคุณมากไปแล้ว จะไปรบกวนคุณอีกได้ยังไงล่ะ?”

นอกเหนือจากนี้แล้ว เธอก็ไม่คิดเลยว่าตัวเองจะได้คบหากับเขา

ถ้าอย่างนี้แล้วเธอจะรบกวนเขาทำไม?

สีหน้าของเปปเปอร์เคร่งขรึมลง เห็นได้ชัดว่าไม่ค่อยพอใจกับคำพูดของเธอเลย“นี้เรียกว่ารบกวนแล้วหรือ?และอีกอย่างคุณไม่เคยเป็นความรบกวนของผมเลย!”

มายมิ้นท์เบิกตากว้างขึ้นเล็กน้อย ภายในใจมีความหวั่นไหวแวบวาบผ่าน“คุณ……”

เธอยังไม่ทันได้พูดจบ ก็ถูกเสียงโทรศัพท์ที่ดังขึ้นขัดจังหวะพูดของเธอเลย

เปปเปอร์ได้ขมวดคิ้ว

มายมิ้นท์ยิ้มด้วยความเขินอายเล็กน้อย จากนั้นก็หยิบโทรศัพท์มาดู “ฉันขอรับโทรศัพท์สักครู่นะคะ”

“อื้อ”เปปเปอร์พยักหน้า แต่ในใจกลับไม่พอใจกับคนที่โทรมาอย่างมาก ไม่รู้จักเวล่ำเวลาเลยสักนิด

มายมิ้นท์ได้รับอนุญาตจากเปปเปอร์แล้ว หลังจากที่นิ้วมือได้ปัดปุ่มตอบรับสีเขียวพร้อมรับสายโทรศัพท์นั้น ก็ได้แนบโทรศัพท์ไว้ข้างหู“ฮัลโหล?”

สายที่โทรมานั้นเป็นเลขาซินดี้นั่นเอง

น้ำเสียงที่อ่อนแรงเล็กน้อยของเลขาซินดี้ดังขึ้น“ประธานมายมิ้นท์คะ ขอโทษด้วยนะคะ บ่ายนี้ฉันไม่ได้กลับบริษัทเลยค่ะ”

“ไม่เป็นไร”มายมิ้นท์ยิ้มเล็กน้อย “เดิมทีแล้วฉันเองที่เป็นคนให้คุณออกไป ดังนั้นคุณไม่ต้องใส่ใจอะไรเลย”

“ขอบคุณค่ะประธานมายมิ้นท์ แต่ว่าประธานมายมิ้นท์คะ พรุ่งนี้ฉันสามารถลางานหนึ่งวันได้ไหมคะ?”เลขาซินดี้ได้ถาม

เมื่อคิดได้เช่นนี้ เธอก็ได้ก้มศีรษะลงเริ่มดูโทรศัพท์ และได้เลือกผลไม้ที่ค่อนข้างแพงหน่อยให้กับเลขาซินดี้

หลังจากที่เลือกเสร็จ เธอก็ได้จ่ายเงินผ่านโทรศัพท์โดยตรง จากนั้นก็ได้ส่งที่อยู่ของเลขาซินดี้ให้กับทางร้าน

พอเห็นทางร้านได้ระบุเวลาที่จัดส่งคร่าวๆแล้ว เธอจึงจะเก็บโทรศัพท์ลงในที่สุด

ไม่นานมากนัก ก็ได้ถึงโรงพยาบาลแล้ว

หลังจากที่ผู้ช่วยเหมันตร์จอดรถเรียบร้อยแล้ว ก็ได้ลงจากรถก่อน และได้เคาะกระจกรถที่นั่งด้านหลัง

มายมิ้นท์ได้เลื่อนกระจกรถลง

ผู้ช่วยเหมันตร์มองดูเธอและพูดว่า:“คุณมายมิ้นท์ครับ ประธานเปปเปอร์ก็รบกวนคุณช่วยพยุงเขาลงมาหน่อยนะครับ ผมจะไปที่ท้ายรถเพื่อเอารถเข็นครับ”

“ค่ะ คุณไปเลยค่ะ”มายมิ้นท์ยิ้มพร้อมกับพยักหน้า

ผู้ช่วยเหมันตร์เห็นเธอตอบตกลง จึงจะเดินจากไปด้วยความไว้วางใจ ได้เดินไปที่ท้ายรถ

มายมิ้นท์ได้เปิดประตูรถและลงจากรถ เดินอ้อมมาทางด้านหน้ารถมาถึงที่เปปเปอร์ทางนี้ และได้เปิดประตูรถของเขา จากนั้นก็ยื่นมือไปให้เขา“ฉันพยุงคุณลงมาเอง”

เปปเปอร์มองดูมือที่เรียวยาวและนุ่มละมุนของเธอ หลังจากที่แสงสลัวแวบวาบผ่านสายตานั้นแล้ว ก็ได้วางมือตัวเองลงบนมือของเธอ

และมายมิ้นท์ก็ได้พยุงเขาลงจากรถเช่นนี้

แต่เพราะว่าในตอนที่ลงจากรถนั้น เปปเปอร์ยืนทรงตัวด้วยขาข้างเดียวของเขาไม่อยู่ ร่างกายสูญเสียการทรงตัวไป จากนั้นก็ได้ล้มลงไปทางด้านหลัง

พอมายมิ้นท์เห็นเช่นนี้ ก็รีบคว้ามือของเขาไว้อย่างเร็วไว ได้ดึงเขาเข้ามาทางตัวเองอย่างแรง

ในท้ายที่สุด เปปเปอร์ถูกเธอดึงกลับมาแล้ว เพื่อหลีกเลี่ยงการล้มลงในครั้งนี้ แต่เขากลับกอดเธอไว้ทั้งตัว

มายมิ้นท์หันศีรษะมองดูมือขวาของเขาที่วางไว้ตรงเอวของเธอ เกิดพูดไม่ออกในทันที

ถ้าไม่ใช่เพราะว่าเขาเกือบจะล้มในเมื่อสักครู่จริงๆแล้วก็ เธอคงจะคิดว่าเขาจงใจจะกอดเธอจึงทำเช่นนี้แล้ว

“ประธานเปปเปอร์คะ สามารถปล่อยฉันได้หรือยังคะ?”มายมิ้นท์ยกมือขึ้น และได้หยิกตรงเอวของชายคนนี้

ชายคนนี้กลับรู้สึกคันๆตรงเอวเล็กน้อย ค่อยๆปล่อยมือลง แล้วปล่อยเธอไป

หากยังไม่ปล่อยอีก เธอคงจะคิดว่าเขาจงใจที่จะล่วงเกินเธอ

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักหวานอมเปรี้ยว